- 09 พ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ความคืบหน้าล่าสุด คนร้ายลักทรัพย์ถุงใส่เงิน 6 ล้านบาท ภายในรถขนเงินบริษัท Brinks ตำรวจสอบเครียด 2 พนักงาน หลังพบหนึ่งในสองคนมีพิรุธหลายอย่าง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุพบรถปิคอัพต้องสงสัย เชื่อเกลือเป็นหนอน จากกรณี 2 พนักงานบริษัท Brinks ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างขนเงินนำรถมาจอดที่ลานกว้างหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวสเกต บางใหญ่ จ.นนทบุรี ก่อนที่จะขึ้นไปรับเงินที่บริษัททรู ภายในห้าง หลังจากลงมาที่รถขนเงินพบว่าประตูรถเปิดอ้า ตรวจสอบทรัพย์สินถุงเงิน 13 ถุง พบว่าถุงบรรจุเงินสดถุงละ 3 ล้านบาท จำนวน 2 ถุง รวม 6 ล้านบาท หายไป ส่วนอีก 11 ถุง ซึ่งบรรจุธนบัตรปลีกย่อยคนร้ายไม่ได้เอาไปด้วย ความคืบหน้าของคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ ได้นำตัวนายนำชัย จีหนู คนขับรถ ไปค้นบ้านย่านบางแค ส่วนนายสมยศ คำอ่าน คนถือกุญแจเงิน ไปค้นบ้านพักย่านลาดพร้าวที่กรุงเทพเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาแต่ไม่พบหลักฐานและเงินของกลางแต่อย่างใด จึงควบคุมตัวทั้งสองคนกลับมาที่ห้องสืบสวน สภ.บางใหญ่ ทำบันทึกประวัติและสอบสวนอย่างละเอียด โดยการสอบสวนพบว่านายสมยศหนึ่งในพนักงานวันเกิดเหตุให้การมีพิรุธหลายอย่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงสอบเครียดเพื่อหาความจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร
ขณะที่ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภาค 1 สั่งการให้ชุดสืบสวนภาค 1 นำโดย พ.ต.อ.ภานุภาคยณ์ จิตต์ประยูรดี ผกก.สืบสวน ภาค 1 ร่วมกับ พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี แบ่งกำลังออกสอบสวนพยานแวดล้อมและไล่กล้องวงจรปิดอักครั้งให้ละเอียดตามเส้นทางจนถึงจุดที่รถขนเงินจอดอยู่ พบรถต้องสงสัยเป็นรถปิคอัพ อีซูซุ สีฟ้า แบบแค๊ป ขับวนเวียนใกล้จุดเกิดเหตุหลายรอบ แต่ภาพจากกล้องไม่สามารถมองเห็นตรงจุดที่รถขนเงินจอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่ารถคันดังกล่าวน่าจะเป็นรถคนร้ายที่มาก่อเหตุลักทรัพย์ถุงใส่เงิน โดยเชื่อว่าคดีนี้น่าจะมีคนในชี้เป้าหรือมีส่วนร่วมรู้เห็นอย่างแน่นอน
อีกทั้งแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ซึ่งพบพิรุธหลายอย่างพบว่าคืนเกิดเหตุนายสมยศกับนายนำชัย ได้ขับรถมาจอดเพื่อเข้าไปเก็บเงินที่บริษัททรู ใช้เวลา 40 นาที โดยจอดรถในจุดที่กล้องมองไม่เห็น (หลังกล้องของห้าง) จากนั้นจึงลงมาที่รถและพบว่าประตูเปิดอ้าถุงใส่เงินถูกคนร้ายนำไป 2 ถุง และเป็นถุงใหญ่ที่ใส่เงินจำนวนมากส่วนถุงเล็กอีก 11 ถุง ซึ่งบรรจุเงินไม่มากคนร้ายไม่แตะต้องเลย อีกทั้งหลังเกิดเหตุทั้งสองคนกลับขับรถเข้าบริษัทแล้วแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่มาแจ้งความที่โรงพักจนทางบริษัทต้องรีบให้เดินทางมาที่ สภ.บางใหญ่ เพิ่ือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหาร่องรอยคนร้ายซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีคนในเกี่ยวข้องรู้เห็นอย่างแน่นอน เพราะประตูรถขนเงินไม่มีร่องรอยการงัดแงะแต่อย่างใด แนวทางการสืบสวนจึงต้องหาสาเหตุให้ได้ว่ามีการล๊อคประตูหรือไม่ หรือว่าคนร้ายมีกุญแจไขประตูรถขนเงินหรือเปล่า ทั้งสองประเด็นนี้จึงเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญที่สุด
ข่าว/ภาพ วิสันต์ ลือประดิษฐ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นนทบุรี