- 11 พ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เกษตรกรหมู่บ้านชาวสวนยาง บ้านคลองหันแดง หมู่ 7 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ครวญผ่านสื่อมวลชน !!! ชาวสวนยางพารากำลังย่ำแย่ เผชิญปัญหาราคายางพาราตกเหลือแค่ 18.50 บาท แจงช้ำที่สุดในรอบ 5 ปี พบแนวโน้วมีแต่ลงกับลง แทบไม่อยากกรีดยาง แต่ชีวิตต้องกินต้องใช้ จึงฝืนกัดฟันทนขายน้ำยาง (ขี้ยาง) ให้พ่อค้าคนกลาง ในพื้นที่ ต.วังท่าช้าง ชี้เป็นพื้นที่ทำการเกษตรเยอะที่สุดในอำเภอ พืชผลการเกษตรปลูกมากที่สุดได้แก่อ้อย มันสำปะหลัง และ ยางพารา
วันนี้ 11 พ.ย.60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งชาวบ้าน เกษตรกรชาวสวนยางพารากำลังมีปัญหาราคากำลังตกต่ำจึงลงพื้นที่พบ นางอุบล ประดิษผล อายุ 63 ปี เลขที่ 91 หมู่ 7 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “ราคายางพาราปีนี้ตกต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี มีแต่ลงกับลงไม่คุ้มค่าปุ๋ยค่าแรงคนกรีดยาง ตนปลูกยางพาราตั้งแต่ ปี 48 ในเนื้อที่ 37ไร่ เป็นเกษตรกรรายใหญ่รายหนึ่งที่ประสบปัญหาราคายางตกต่ำขายขี้ยางได้กก.ละ19.00 บาท เดือนที่แล้ว และนับวันมีแต่ลงกับลง รายวันและลดลงมาอยู่ที่ 18.50 บาท และคาดว่ามีแนวโน้มลดลงอย่างน่าตกใจ ตั้งแต่เริมกรีดยางได้เคยขายได้ กก.ละ 70 บาทปีแรก และลดมา50-30 บาทหรือ มากกว่านี้พออยู่ได้ ค่าปุ๋ยก็มีต้นทุนสูงตันละ หมื่นแปดพันบาท กรีดยางในช่วงแรก เดือน ก.ย.ที่ผ่านมาขายขี้ยางได้ กก.ละ 20กว่าบาท ก็ต้องรีบกรีดเกรงว่าราคาจะลง รวมได้ประมาณ 3 ครั้ง ครั้งละ 3 พันกว่าบาทเฉลี่ยรายได้ หมื่นกว่าบาท
หักแล้วเหลือไม่กี่พันบาท หมดหน้ายาง ม.ค.-เม.ย.ของทุกปี รายได้หมื่นกว่าบาทไม่ได้รับเต็มๆ จ่ายค่าแรงคนกรีดครึ่งหนึ่งแทบไม่เหลืออะไรเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรราคายางถึงตกต่ำขนาดนี้ และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ใครจะมาช่วยแก่ไขราคายางพาราตกต่ำได้ เกษตรกรแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว”นางอุบลกล่าว
ด้านนางระเบียบ นิลพลอยอายุ 64 ปี กล่าวว่า “เป็นอีกรายที่ปลูกยางพารามาตั้งแต่ปี 49 ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรราคายางถึงตกต่ำถึงขนาดนี้ กินไม่ได้นอนไม่หลับเลย กรีดยางขายขี้ยางไปรับเงินมาแทบไม่เหลือเลยก็ต้องทำใจ”นางระเบียบ กล่าว
ขณะที่ นายมานพ ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า “เป็น อีกรายที่ปลูกยางพารารายใหญ่ที่สุดกว่า 100 ไร่ ปีนี้ช้ำสุดๆที่มาเจอปัญหา การทำสวนยางของเกษตรกรในพื้นที่จะขายให้กับพ่อค้าคนกลาง(ขายขี้ยาง) ไม่ได้ขายน้ำยางดิบแต่อย่างใด เพราะถ้าขายน้ำยางดิบมีขั้นตอนมากต้องเพิ่มขั้นตอนซื้อเครื่องรีดที่พักน้ำยางที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยงานของรัฐเข้ามาช่วยเหลือดูแลแต่อย่างใด ทำเองขายเองตามลำพังแต่ยังข้องใจว่า ราคายางตกต่ำแต่สิ่งที่ทำจากยางพาราทำไมถึงมีราคาสูงมาก” นายมานพกล่าว
และกล่าวต่อไปว่า “การขายขี้ยางของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางในตำบลนี้ จะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงสวน การกรีดยาง(ขี้ยาง) ทำไม่ยุ่งยาก คนกรีดยางจะออกกรีดยางในช่วงกลางคืน น้ำยางจะออกเยอะดีมาก กลังจากเปิดปากแผลแล้ว น้ำยางก็จะค่อยๆไหลออกมาใส่กระป๋องที่เสียบไว้ด้านล่าง น้ำยางจะค่อยๆไหลออกมา จากนั้นคนกรีดก็จะวนมาคนหนึ่งรอบ พร้อมกับหยอดน้ำกรดผสมน้ำใส่ลงในกระป๋อง 2-3 หยด เพื่อให้น้ำยางเกาะตัวแข็งเป็นก้อนแล้วก็แคะออกใส่ภาชนะส่งขาย ซึ่งคนกรีดยางในหมู่บ้านมีอยู่แค่ 2 คน”นายมานพ กล่าว
ด้านนายณรงค์ รัตนวิจิต กล่าวว่า “เป็นมือกรีดยาง และเป็นเกษตรกรอีกรายหนึ่ง ที่ปลูกยางพารารายย่อย กรีดยางตั้งแต่ 3 ทุ่มไปจนถึงหกโมงเช้า ถึงจะเก็บขี้ยางเสร็จถึงจะหมดหน้าที่ การกรีดยางของแต่ละรายๆในหมู่บ้านคลองหันแดง เกษตรกรสวนยางในหมู่บ้านนี้ปลูกยางเชิงเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่และต้องการให้หน่วยงานราชการลงมาดูแลเรื่องราคายางบ้างที่ผ่านมาทำกันเอง”นายณรงค์กล่าวในที่สุด
ภาพ - ข่าว มานิตย์ สนับบุญ /ทองสุข สิงห์พิมพ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ปราจีนบุรี