ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันนี้ 20 พ.ย.60  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี   รายงานความคืบหน้า   จากที่มีการแชร์ผ่านเฟสบุ๊ค  โดยผู้ใช้ชื่อว่า  “อบต.กุ๊ก”     ระบุเป็นภาพ-ข้อความ  มีปลาธรรมชาติ ทั้งปลาผิวน้ำ,ปลาน้ำลึก,กุ้งแม่น้ำ,ปลาเลี้ยงกระชังตายมหาศาลมากกว่า 100 ตัน /วัน  ระหว่างวันที่ 18 –19   พ.ย.60   ตลอดแม่น้ำปราจีนบุรี  ทั้ง อ.บ้านสร้างในหลายตำบลคือ ต.บางพลวง ,ต.บางเตย, ต.บางแตน   โดยพบสภาพน้ำมีสีออกดำส่งกลิ่นเหม็นเน่า   โดยชาวบ้านพากันจับสัตว์น้ำนำไปประกอบอาหาร – ขาย  ตามที่เสนอไปก่อนหน้านั้น

ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่หน้าวัดบางแตน หมู่ 2 ต.บางแตน อ.บ้านสร้างพบปลายังคงลอยหัวขึ้นหาออกซิเจนหายใจ   และพบซากปลาที่ตายลอยเกลื่อน -  เน่า  ขาวโพลนเต็มแม่น้ำ   สภาพน้ำยังเหม็นเน่ามีสีชาออกดำ   กลิ่นเหม็นเน่า  และพบปลาที่เน่าลอยเต็มเกลื่อนแม่น้ำ   พบยังมีชาวบ้านคงหาปลาที่ลอยหัวอยู่   

จากนั้นได้เดินทางไป ประตูระบายน้ำสารภี    ที่มีการเปิดบานประตูระบายน้ำจากคลองสารภีลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรี    แล้วทำให้สัตว์น้ำตายจำนวนมหาศาล      พบ น้ำมีสีน้ำตาลแดงขุ่น   มีกลิ่นเหม็นเน่าของเศษวัชพืชต่างๆแต่ไม่มีปลาลอยน้ำตาย   พบนายทรัพย์ฤทธิ    ภิรมย์อยู่   ชาวบ้านหัวไผ่ หมู่  5 บางพลวง    อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี   กล่าวว่า   “ตนเองก็ได้ยินข่าวปลาตายเมื่อ2-3 วันที่ผ่านมา   แต่ก็ไม่ได้ออกมาดูเพราะทำงาน     วันนี้วันหยุดจึงออกมาหาซื้อปลาที่มีเพื่อนบ้านหากัน   ประจำที่ประตูระบายน้ำ   นายทรัพย์ฤทธิ์กล่าว

  โศกนาฏกรรมปลา-กุ้งแม่น้ำ ยังตายต่อเนื่องตลอดทั้งแม่น้ำปราจีนบุรี หลังเปิดบานประตูระบายน้ำคลองสารภี นอภ.ระดม อปท.ฉีดสารอีเอ็ม.ปรับสภาพน้ำ

 

และกล่าวต่อไปว่า   “สาเหตุที่ปลาตายน่าจะเกิดจากน้ำเน่าเสียที่เกิดจากการหมักหมมของตะกอนใต้น้ำ   เมื่อน้ำถูกระบายลงสู่ที่ต่ำ   ก็ไม่มีออกสิเจนทำให้ปลาขาดอากาศหายใจ    จึงทำให้ปลาตายตามที่คนพูดกัน   ประกอบกับสารเคมีที่เกษตรกรทำนาที่ตกค้างอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ปลาตายไม่น่าจะใช้น้ำเน่าเสียจากโรงงาน    

ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวหรือฤดูปล่อยน้ำจากทุ่งนาของเกษตรกรนับหมื่นๆไร่   ย่อมทำให้ในน้ำไม่มีออกสิเจน   จึงเป็นเหตุให้ปลาลอยคอตาย

และได้สำรวจต่อที่บริเวณแยกคลองลำบัวลอย หมู่ 11 ต.บางพลวง   อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี   ซึ่งเป็นแหล่งหาปลาของประชาชนในพื้นที่ได้พบกับนายนิกร   แขกพงษ์ ชาวบางพลวง   กล่าวว่า    “ที่ปลาตายในแม่น้ำในพื้นที่นั้น   ไม่เชื่อว่าจะเป็นเหตุมาจากน้ำเสียจากโรงงาน    เคยรู้มาว่ามีพวกเรือหางยาว   แอบวางยาเบื่อปลาเพื่อนำปลาไปขายเป็นจำนวนมาก เป็นที่น่าสังเกตว่าปลาในทุ่งนาของประชาชน  ยังไม่ตายเราก็หาปลาเป็นไปขาย   ไม่มีปลาตายจากการสารเคมีตกค้างอาจเป็นไปได้ว่าน้ำจากทุ่งไหลลงสู่แม่น้ำทำให้ปลาตายเพราะเกิดจากการหมักหมมทับถมใบข้าวในนาเพราะใบข้าวแช่น้ำเน่าเป็นเวลานานนับเดือนถูกปล่อยลงสู่แม่น้ำปลาจึงขาดอากาศหายใจตาย”นายนิกร   กล่าว

  โศกนาฏกรรมปลา-กุ้งแม่น้ำ ยังตายต่อเนื่องตลอดทั้งแม่น้ำปราจีนบุรี หลังเปิดบานประตูระบายน้ำคลองสารภี นอภ.ระดม อปท.ฉีดสารอีเอ็ม.ปรับสภาพน้ำ

ที่บริเวณเขื่อนริมแม่น้ำปราจีนบุรี วัดบางกระเบา (พระอารามหลวง) อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี นายชัยวรรณ นิยม นายอำเภอบ้านสร้าง   พร้อมด้วย นายสุรพล ซามาตย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม   และนายธีรคมน์ อริยสุนทร ผอ.โครงการชลประทานปราจีนบุรี ร่วมกันเป็นประธานเปิดกิจกรรมปล่อยน้ำจุลินทรีย์ (EM) ลงสู่แม่น้ำนบุรี ตามโครงการ “คลองสวย น้ำใส ใช้จุลินทรีย์ EM ปรับปรุงคุณภาพน้ำเพื่อสิ่งแวดล้อม อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ประจำปี พ.ศ. 2560”

 โดยมี น.ส.นุสรา ขันเขตร์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ได้กล่าวรายงานถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของโครงการว่า ในช่วงเดือน พ.ย. ของทุกปี น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีที่ไหล่ผ่านอำเภอบ้านสร้าง ความยาวประมาณ 50 กิโลเมตร มักจะประสบปัญหาคุณภาพน้ำต่ำ ปริมาณออกซิเจนในน้ำ (DO)  มีน้อยต่ำกว่ามาตรฐาน (ต่ำกว่า 3 mg/l) ทำให้สัตว์น้ำทั้ง กุ้งแม่น้ำ และปลาชนิดต่างๆ ตายในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้สาเหตุประการหนึ่งน่าจะมาจากการเปิดประตูระบายน้ำคลองสารภี เพื่อระบายน้ำหลังฤดูการทำนา เพื่อให้ชาวนาได้เก็บเกี่ยวข้าว ออกจากทุ่งสารภี ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 30,000 ไร่เศษ ซึ่งน้ำที่ออกมาจากทุ่งสารภีมีคุณภาพค่อนข้างต่ำ ปริมาณออกซิเจนน้อย อันเนื่องมาจากการย่อยสลายของอินทรียวัตถุ การเติมสารจุลินทรีย์ หรือ EM ในวันนี้จะช่วยบำบัดน้ำให้มีกลับมามีคุณภาพ และปริมาณออกซิเจนเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับมาตรฐาน ต่อไป

 นายชัยวรรณ นิยม นายอำเภอบ้านสร้าง ได้กล่าวว่ากิจกรรมปล่อยน้ำจุลินทรีย์ EM ลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรี ในวันนี้เป็นความร่วมมือ ร่วมใจของทุกฝ่าย ทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ หน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน และที่สำคัญคือภาคประชาชนที่ต้องการจะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมิให้เสียหายมากไปกว่านี้ นับได้ว่าเป็นรูปแบบการดำเนินกิจกรรมในลักษณะ “ประชารัฐ” ที่มีความเข้มแข็งมาก วันนี้พี่น้องชาวอำเภอบ้านสร้าง   ได้แสดงให้เห็นถึงพลังความสามัคคี ความรัก ความหวงแหนต่อบ้านเกิด ต้องการที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างมีคุณภาพ เพื่อลูกหลานในวันข้างหน้าโดยเฉพาะแม่น้ำปราจีนบุรีแห่งนี้ เป็นเส้นเลือดหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวอำเภอบ้านสร้างมานับร้อยปี ตั้งแต่มาตั้งรกรากถิ่นฐานชุมชนอยู่ที่นี่เป็นแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์น้ำที่มีคุณค่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น กุ้งแม่น้ำ ปลาม้า ปลาลิ้นหมา ประกระพงขาว ฯลฯ ได้หล่อเลี้ยงชีวิตชาวอำเภอบ้านสร้าง มาตั้งแต่บรรพบุรุษ

 การที่ พี่น้องชาวอำเภอบ้านสร้างทุกภาคส่วน ได้มารวมพลังสามัคคีประชารัฐ ในวันนี้ เชื่อได้ว่าในอนาคตปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะน้ำเสียในแม่น้ำปราจีนบุรีของอำเภอบ้านสร้าง รวมถึงปัญหาอื่นๆ จะสามารถแก้ไขได้สำเร็จอย่างยั่งยืนอย่างแน่นอน


            โศกนาฏกรรมปลา-กุ้งแม่น้ำ ยังตายต่อเนื่องตลอดทั้งแม่น้ำปราจีนบุรี หลังเปิดบานประตูระบายน้ำคลองสารภี นอภ.ระดม อปท.ฉีดสารอีเอ็ม.ปรับสภาพน้ำ

                                               

ภาพ -ข่าว  มานิตย์   สนับบุญ /   ณัฐนันท์  ทองสุข  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ปราจีนบุรี