ทำตัวเหมือนรวย..!? หนุ่มวัย 43 มาติดต่อซื้อรถ นัดคุยกับเซลล์สาว ก่อนออกอุบายยืมมือถือ แล้วเดินหายวาปไปกับตา..!!

วันที่ 21 พ.ย.60 เวลา 10.00 น. จากกรณีที่นางสาววรุณยุพา ตั้งเจริญไพบูลย์ นำภาพวงจรปิดพร้อมเอกสารหลักฐานคนร้าย เป็นชาย เข้าเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว หลังถูกหลอกฉกโทรศัพท์มือถือ ราคา เกือบ3หมื่นบาท เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยคนร้ายทำทีเป็นลูกค้าสนใจจะซื้อรถกระบะ จากนั้นคนร้ายโทรศัพท์นัดให้ นางสาววรุณยุพา ซึ่งเป็นเซลล์ ของบริษัท โชว์รูมขายรถยนต์แห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ให้ไปพบที่ รพ.สระบุรี โดยนัดพบกันที่ร้านกาแฟภายใน รพ.เพื่อทำสัญญาซื้อขายกับนางสาววรุณยุภา ซึ่งคนร้าย ระหว่างพูดคุยตกลงจะซื้อรถ ได้นำกระเป๋าสตางค์ภายในบรรจุเงินจำนวนมากลักษณะอูม วางให้ ตนเองเห็นบนโต๊ะ จากนั้นทำทีออกอุบายขอยืมโทรศัพท์เพื่อที่จะโทรหาแฟนสาวให้นำบัตรประชาชนมาให้ จากนั้นลูกค้า รายนี้ก็แสดงตัวเป็นมิจฉาชีพโดย เดินคุยโทรศัพท์ ของตนเอง จนลับตาไป โดยทิ้งกระเป๋าเงินที่ภายในใส่แบ็งค์กาโม่ไว้เต็มกระเป๋า โดยนางสาววรุณยุพา ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสระบุรี

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตรวจสอบเส้นทางคนร้ายที่หลบหนีจนทราบว่าเมื่อวันที่ 20 พ.ย.60 เวลา 20.00 น.คนร้ายได้หลบหนีอยู่บริเวณห้างฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม นายอัคนี หรือไอซ์ ขุนพรม อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 231/1 ม.8 ต.บ้านแหลม อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี จากการสอบสวนทราบว่า นายอัคนี จะทำทีเป็นว่าจะออกรถ โดยการโทรศัพท์เข้าไปยังศูนย์โชว์รูม จากนั้นก็จะขอเบอร์เซลล์ที่สามารถติดต่อได้ และโทรหาเซลล์เพื่อติดต่อคุยเรื่องการออกรถ และนัดสถานที่พูดคุยกันในสถานที่ต่างๆตามแต่จะสะดวกและเหมาะสม และเมื่อตกลงว่าจะออกรถ ก็จะอ้างว่าตนเองลืมโทรศัพท์ และบัตรประชาชนไว้กับแฟน ทำที่เป็นขอยืมโทรศัพท์เซลล์โทรหาแฟนเพื่อนำบัตรประชาชนมาให้ และทิ้งกระเป๋าเงินที่ภายในใส่แบ็งค์กาโม่ไว้จนตุง เพื่อให้เหยื่อตายใจว่ากระเป๋าเงินยังอยู่ที่นี่ จากนั้นก็เดินพูดคุยอยู่คนเดียวให้เหมือนกับว่าคุยโทรศัพท์อยู่กับแฟนตนเอง และเดินหายลับไป ซึ่งนายอัคนีได้ก่อเหตุเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว ในพื้นที่ จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ และจ.ลพบุรี ซึ่งในพื้นที่ จ.พิจิตรได้ถูกจับกุมมาครั้งหนึ่งแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างประกันตัวก็มาก่อเหตุซ้ำอีกจนถูกจับกุมได้

 

จาการสอบถามนายอัคนี กล่าวอ้างว่าตนเองมีอาชีพเป็นพ่อค้าขายของที่ตลาดริมเมย อ.แม่สอด จ.ตาก เนื่องจากตอนนี้เป็นหนี้อยู่ต้องการหาเงินไปใช้หนี้จึงได้มาก่อเหตุเช่นนี้ ซึ่งโทรศัพท์ที่ได้ไปจะนำไปขายให้กับชาวพม่า ที่อยู่ที่ตลาดริมเมย ซึ่งมีความคุ้นเคยกันในราคา 5,000 บาท เนื่องจากว่าขายให้กับชาวพม่าไม่ต้องใช้บัตรประชาชนในการซื้อ-ขาย พร้อมกับรับสารภาพว่าเพิ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีต่อไป โดยตั้งขอหาลักทรัพย์ไว้

ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดสระบุรี