- 01 ธ.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
(1 ธ.ค.) สถานการณ์ฝนตกน้ำท่วม ลมพัดกรรโชกแรงในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากมวลน้ำจากเทือกเขาหลวงไล่ทะลักเข้าร่วมพื้นที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราชจมมิดเกือบทั้งเมืองและมีแนวโน้มจะขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมเมืองอย่างหนัก 3 ครั้งในรอบ 12 เดือน อย่างไรกามในขณะที่หลายฝ่ายหวั่นวิตกกังวลว่าฝนที่ตกต่อเนื่องอย่างหนักจะทำให้น้ำท่วมขยายวงกว้างและเพิ่มระดับสูงขึ้นทำให้นำท่วมรุนแรงกว่าปี 2554 และช่วงปลายปี 59 และต้นปี 2560 โดยทางจังหวัดได้ประกาศเตือนให้ประชาชนทุกพื้นที่เร่งขนย้ายสิ่งของและอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย
ปรากฏว่าฝนได้หยุดตกขาดเม็ดตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันที่ 30 พ.ย. จนถึง 02.30 น.วันที่ 1 ธ.ค. 2560 ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมตัวเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งหวั่นวิตกกังวลว่าจะเพิ่มขึ้นกลับทรงตัวและบางจุดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากได้อิทธิพลของมวลน้ำจากเทือกเขาหลวงที่ไหลมาสมทบ แต่เมื่อไม่มีปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ลงมาเพิ่มทำให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายอย่างที่หลายฝ่ายวิตกกังวล ท่ามกลางความดีใจของประชาชนทุกภาคส่วน แต่ในช่วงเช้าของวันนี้ (1 ธ.ค.) ฝนที่หยุดตกต่อเนื่องกว่า 8 ชม.ได้เริ่มตกโปรยปรายลงมาอีกครั้ง สำหรับในพื้นที่ตัวเมืองที่ยังมีน้ำท่วมขังสูงสุดบริเวณถนนเทวบุรี หน้าทางเข้าหมู่บ้านธารริน ระยะทางประมาณ 1 กม.ที่ระดับน้ำสูงกว่า 50 ซ.ม. รวมทั้งในหมู่บ้านธารริน ระดับน้ำสูงประมาณ 50-70 ซ.ม. ชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน ส่วนถนนเทวบุรี ช่วงตั้งแต่ศาลาหมอปาน-หน้า อบจ.นครศรีธรรมราชและสำนักงานธารณะสุขมีน้ำท่วมขัง 30 ซ.ม. แต่ภายในสำนักงานสาธารณสุขเองน้ำท่วมสูงกว่า 50 ซ.ม. การให้บริการของทางราชการต้องหยุดไปโดยปริยายแม้จะยังไม่ได้ประกาศปิดอย่างเป็นทางการก็ตาม ส่วนโรงเรียนทุกสังกัดในเขตเทศบาล ฯทางผู้บริหารประกาศหยุด 1 วัน ทางด้านถนนเลียบทางรถไฟตั้งแต่สามแยกศาลาหมอปานถูกน้ำท่วมสูงกว่า 50 ซ.ม.ระยะทางเกือบ 1.5 กม.รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้
นายแพทย์บัญชา ค้าของ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขอฝากเตือนไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองได้โปรดเฝ้าระวังดูแลบุตรหลาน รวมทั้งผู้สูงอายุให้ดีด้วย อย่าปล่อยให้เด็กเล่นน้ำ หรือผู้สูงอายุเดินลุยน้ำโดยลำพัง เพราะอาจจะทำให้พลัดตกจมน้ำเสียชีวิตได้ และในช่วงฤดูฝน และน้ำท่วมจะมีโรคภัยต่าง ๆ เกิดขึ้นได้ง่าย เช่น น้ำกัดเท้า โรคฉี่หนู โรคหวัด โรคมาลาเรีย โรคไข้เลือดออกโรคตาแดง โรคทางเดินอาหาร เป็นต้น ดังนั้นหากมีการเป็นไข้ เจ็บป่วย 2 วันติดต่อกันขอให้รีบไปพบแพทย์ทันทีอย่าชะล่าใจ นอกจากนี้ขอให้ระมัดระวังเรื่องสัตว์มีพิษชนิดต่าง ๆ ที่มากับกระแสน้ำด้วย สำหรับสถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะนี้ยังคงให้บริการแก่พี่น้องประชาชนได้ตามปกติ แม้บางแห่งจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยก็ตาม
ก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอำเภอพรหมคีรี พร้อมชุดเคลื่อนที่เร็ว ออกเยี่ยมเยียนประชาชนที่อพยพมายังศูนย์อพยพ 3 แห่ง ประกอบด้วยศูนย์อพยพ จาก ธกส. สาขาพรหมคีรี ศูนย์อพยพวัดวังลุง โดยมี อบต. ทอนหงส์ และกำนัน ผญ.ช่วยกนดูแลประชาชน ในส่วนของศูนย์อพยพวัด โท เอก ต. อินคีรีทาง อบต. อินคีรี และผู้ใหญ่บ้านหลายหมู่บ้าน ร่วมกันดูแลช่วยเหลือผู้อพยพในเรื่องอาหารการกิน ทำให้ผู้อพยพทั้ง 3 จุดมีขวัญและกำลังใจดีมาก นอกจากนี้ทางอำเภอยังได้รับความช่วยเหลือ สนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับศูนย์อพยพทั้ง 3 แห่ง คาดว่าสถานการณ์จะเป็นปกติภายใน 3 วันจึงจะอพยพผู้ประสบภัยกลับบ้านตามปกติได้
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมถนน 4 เบน สายนครศรีธรรมราช- ทุ่งสง หรือ ทางหลวงหมายเลข 403 ช่วงหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาบริการเฉลิมพระเกียรตินครศรีธรรมราช ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ระดับน้ำท่วมขังเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร สูงประมาณ 50 เซนติเมตร และระดับมีแนวโน้มสูงขึ้น รถเล็กทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ นายปรีชา วิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการการแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่แก้ปัญหาโดยขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ออกจากจังหวัดนครศรีธรรมราชต้องการเดินทางไปยังอำเภอทุ่งสง ขอให้เลี่ยงไปใช้ถนนสายลานสกา-เขาธง-ช้างกลาง นอกจากนี้ถนนสายไม้หลา – ลานสกา มีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 70 เซนติเมตร รถทุกชนิอดผ่านไม่ได้เช่นกัน แต่เป็นถนนสายรอง ส่วนถนนเส้นอื่น ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 ยังใช้สัญจรได้ตามปกติ
ล่าสุดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่ประสบสาธารณภัย รวม 131 ตำบล 838 หมู่บ้าน 50 ชุมชน มีจำนวนประชากรได้รับผลกระทบ จำนวน 119,681 คน 43,342 ครัวเรือน บ้านเรือนพังเสียหายบางส่วน 245 หลัง วัด 7 แห่ง ส่วนราชการ 5 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหายพืชไร่ 280 ไร่ พืชสวน 2,900 ไร่ บ่อปลา 4 บ่อ และอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม ด้านสาธารณูปโภค ถนนเสียหาย 143 สาย สะพาน/คอสะพานเสียหาย 11 แห่ง ท่อระบายน้ำ 2 แห่ง ฝาย 6 แห่ง ผนังกั้นน้ำ 1 แห่ง ประปา 4 แห่ง
. จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้ว จำนวน 16 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอชะอวด บางขัน เชียรใหญ่ จุฬาภรณ์ พิปูน ทุ่งสง ปากพนัง สิชล เมืองนครศรีธรรมราช ลานสกา เฉลิมพระเกียรติ หัวไทร นาบอน ฉวาง ช้างกลาง และอำเภอนบพิตำ และ ประกาศการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จำนวน 19 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอชะอวด จุฬาภรณ์ บางขัน ทุ่งสง เชียรใหญ่ พิปูน ปากพนัง พรหมคีรี เมืองนครศรีธรรมราช ฉวางช้างกลาง เฉลิมพระเกียรติ หัวไทร ลานสกา สิชล นาบอน พระพรหม นบพิตำ และอำเภอร่อนพิบูลย์.
ยุทธนะ เตมะศิริ สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช
หมายเหตุ...ภาพบางส่วน/ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดนครศรีธรรมราช