- 04 ธ.ค. 2560
ครอบครัวน้องเมย ถือโอกาสวันพระที่ผ่านมา เข้ากราบไหว้ และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ ด้านคุณแม่เผยเพิ่งจะฝันเห็นน้องเมย (คลิป)
ครอบครัว “น้องเมย ” ถือฤกษ์วันพระใหญ่ ขอพรสิ่งศักดิ์ที่นับถือ ทั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดใหญ่อินทราราม และ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5 ที่พระบรมราชานุสาวรีย์ หน้าศาลากลาง จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. นายพิเชษฐ -นางสุกัญญา และ น.ส.สุพิชญา ตัญกาญจน์ พ่อ แม่และพี่สาวของ “น้องเมย ”นายภคพงษ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้พากันเดินทางมาขอพรและบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ ทั้ง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดใหญ่อินทราราม และ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5 ที่พระบรมราชานุสาวรีย์ หน้าศาลากลาง จ.ชลบุรี โดย นางสุกัญญา เผยว่าเนื่องจากวันนี้เป็นวันพระใหญ่ จึงทำให้อยากที่จะขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะนอกจากจะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับตนเองและครอบครัวแล้ว ยังขอให้บารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ครอบครัวนับถือ ช่วยละเปิดทางให้การสอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของลูกชาย เกิดความกระจ่างและยุติธรรม โดยเฉพาะการตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงตามคำสั่งของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ขอให้เกิดความยุติธรรมกับลูกชายให้มากที่สุด
พร้อมบอกว่าตั้งแต่วันที่ลูกเสียชีวิตก็เข้าวัดปฏิบัติธรรม และสวดมนต์ทุกวัน วันละ 3 ครั้ง เพราะอยากให้เขาไปอยู่สวรรค์ ไปอยู่ในที่ที่ดี เพราะตั้งแต่ลูกเสียชีวิตก็ไม่เคยมาหาหรือมาเข้าฝัน แต่เมื่อวานนี้เพิ่งจะฝันเห็นเขา เขามาบอกว่าไม่ต้องกังวล และขอให้เราปล่อยวาง ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เพราะเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่เขาก็ไม่เคยทำอะไรให้ลำบากใจ วันนี้ก็เลยมาขอพรให้ลูก ด้าน น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ เผยว่าการเดินทางมาขอพรให้กับน้องชาย ส่วนหนึ่งก็เพื่อขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการสอบสวนให้สามารถหาตัวคนผิดมาลงโทษได้ รวมทั้งสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ส่วนกรณีที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับความคืบหน้าใดๆ แต่ตนเองยังเชื่อว่าน่าจะยังอยู่ในกระบวนการสอบสวน โดยทางครอบครัวไม่ขอเร่งรัด แต่ก็คาดหวังเกี่ยวกับผลตรวจของสถาบันนิติเวช และเชื่อมั่นในการทำงานของคณะแพทย์ ที่ในวันนี้ยังมีการพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา
ส่วนกรณีที่มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าครอบครัวของตนเองเงียบหายไปนั้น เป็นเพราะส่วนหนึ่งมารดาต้องการปฏิบัติธรรมและสวดมนต์ให้น้องชาย ส่วนบิดา ยังต้องการเวลาที่จะพักผ่อนเพราะที่ผ่านมาเหนื่อยมาก ขณะที่ตนเอง ก็เตรียมตัวที่จะเข้าสอบตั๋วทนาย ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ จึงอาจทำให้ดูเหมือนว่าเงียบหายไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีการประสานงานระหว่างคณะแพทย์อยู่ตลอดเวลา และยังคงมีความคาดหวังว่าจะได้พบหลักฐานต่างๆ ในรูปคดีที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้หลักฐานต่างๆ ที่ได้มาก็เชื่อว่าน่าจะตรงหรือคล้ายกับที่หลายๆ สื่อได้เผยแพร่ออกไปแล้ว
ภาพ/ข่าว วิศาล แสงเจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์จังหวัดชลบุรี