- 25 ธ.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ชื่นชมหญิงวัย53ปี ฐานะยากจนสู้ชีวิต เดินเท้า ตระเวนกวาดขยะ ริมถนนภายในเขตเทศบาลตำบลคลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ทุกวัน ที่สงสารของชาวบ้าน หลังสามีผู้เป็นเสาหลักของครอบครัวเสียชีวิตเมื่อเดือนที่ผ่านมา เผยมีบ้านอยู่แต่ไม่มีชื่อเป็นเจ้าของ ห่วงอนาคตลูกชายไม่มีที่อยู่
วันที่ 25 ธ.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ เขตเทศบาลคลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ว่า พบคนกวาดขยะฐานะยากจน ดิ้นรนสู้ชีวิต เดินเท้าจากบ้านรวมระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ทุกวัน เพื่อตระเวนกวาดขยะตามท้องถนนในเขตเทศบาล และตลาดเทศบาลตั้งแต่เช้ามืด บางวันก็พาลูกๆมาช่วยกวาดขยะด้วย ชาวบ้านเห็นแล้วสงสารต่างก็ให้ความช่วยเหลือใช้กับข้าว ผัก ผลไม้ ได้พากลับไปทานที่บ้านกับลูกๆ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนางวาสนา กังแฮ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210/7 ม.1 ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ กำลังตระเวนกวาดขยะริมถนน ด้วยความขยันขันแข็ง โดยมีลูกชาย2 คน โดยมีคนหนึ่งสติไม่ค่อยสมประกอบมาช่วยเก็บขวาดขยะใส่ถัง เป็นที่ชื่นชมและหดหู่ใจของชาวบ้านที่พบเห็น
นางวาสนา กล่าวว่า ตน มาทำงานรับจ้างกวาดขยะในเขตเทศบาลตำบลคลองพนมามานาน กว่า 9 ปี แล้ว ตั้งแต่ตี5 ออกเดินกวาดขยะตั้งแต่ถนนหน้าบ้าน ไปจนถึง โรงเรียนบ้านห้วยออก โรงเรียนน้ำท่อ วัดท่าคลอง และไปจบที่ตลาดเทศบาล รวมระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ประมาณ 11โมงจึงจะเสร็จ เดิมทีทำอยู่กับสามี ได้ค่าจ้างคนละ5,500 บาทต่อเดือน แต่ เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา สามีได้เสียชีวิตลง จากโรคประจำตัว จึงเหลือตนทำงานเพียงคนเดียว และได้ลูกชาย 2 คน จึงมาช่วยกวาดขยะและเก็บถุงพลาสติกไว้ขาย โดยลูกชายคนโตอายุ30ปี สติไม่ค่อยดีต้องทานยาและไปหาหมอตามนัด ส่วนคนน้องชายอายุ23 ปี เรียนได้แค่ชั้นป.6 ก็ต้องออกมาช่วยงานตนเพราะไม่มีงานทำ อาศัยรับจ้างทั่วไป มีงานที่ไหนก็ไปทำ แม้ครอบครัวตนจะมีรายได้น้อยแต่ตนก็อดทนไม่ยอมแบมือขอใครกินและสอนลูกเสมอ ให้อดทน ทำงานสุจริต
นางวาสนา เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้กังวลเรื่องบ้านที่อาศัยที่ผ่านมาได้ซื้อต่อจากน้าชายไว้นานกว่า20ปีแล้ว แต่ไม่ได้มีการโอน ล่าสุดมีการนำไปจำนองธนาคารแล้ว จึงไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีปัญหาหรือไม่ ตนเองก็ไม่มีความรู้ วันๆทำแต่งาน กังวลอนาคตของลูกชายทั้งสองคน ตอนนี้อยากจะให้ลูกชายคนสุดท้องได้เรียนหนังสือต่อ แต่ลำพังรายได้ของครอบครัวก็ใช้จ่ายไม่พอค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน แม้เทศบาลจะมีค่าจ้างให้ แต่อุปกรณ์ในการเก็บขยะเช่น ถุงดำ ที่โกยขยะ เสื้อฝน รองเท้าบูต เสื้อฝน ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง ใครจ้างให้ไปทำงานที่ไหนก็ทำ จึงยังไม่ได้เรียนต่อ แต่บอกลูกให้ขยันทำงาน เพื่อหาเงินเรียนหนังสือต่อ ไม่ต้องแบมือขอใคร
ด้านนางสมจิต จินดาทวีรัตน์ อายุ 65 ปี กล่าวว่า ตนอาศัยในเขตเทศบาลตำบลคลองพน และเฝ้าติดตามชีวิต ครอบครัวนางวาสนา มานานหลายปี เห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร เพราะนางวาสนาเป็นคนขยันทำงาน ตนก็ช่วยเหลือเป้นครั้งคราว อยากจะให้หน่วยงานี่เกี่ยวข้องเข้ามา สำรวจและให้ความช่วยเหลือ เพราะไม่รู้ว่าครอบครัวของนางวาสนามีความเป็นอยู่ลำบากมาก แต่ก็เป็นคนที่ไม่ชอบแบมือขอใคร
ข่าว/ภาพ บัญฑิต รอดเกิด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ กระบี่