โอละพ่อ..คดีพลิก !! ผอ.รร.โร่ชี้แจง กรณี นร.หญิงถูกถีบสลบ พอฟังความจริงแล้วหงายเงิบ! ดูแลทุกอย่าง..แต่คนไม่รู้จริงเอาไปโพสต์ด่า (คลิป)

วันที่16  มกราคม 61  เวลา11.00 น. ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี รายงาน  จากกรณีที่มีการโพตเฟสบุ๊ก  ของผู้ใช้ชื่อว่า “Nam Nam” ได้โพสภาพเด็กหญิงสวมชุดยุวกาชาดและข้อความ “ไม่เคยคิดว่าจะเกิดกับน้องตัวเองเลยจริงๆ มีเด็กกระโดนทีบหน้าอกน้องหลังจากนั้นน้องหน้าซีดตัวเกร็งหายใจไม่ออก ไม่มีครูคนไหนโทรหาผู้ปกครอง จนน้องสลบ มีคนไปตามพี่สาวของน้องซึ่งเรียนโรงเรียนเดียวกัน เห็นสภาพของน้องที่ห้องพยาบาลของ รร. พี่สาวน้องโทรหาแม่พร้อมเล่าอาการเลยบอกให้ครูเรียกรถพยาบาลก่อนที่แม่จะไปถึงเพราะบ้านอยู่ไกล แต่รองผอ.บอกว่าไม่มีรถคือ? ซึ่งครูบอกให้ดูอาการทั้งๆที่น้องร้องไห้ หายใจไม่ออกจนสลบ พ่อของน้องจึงได้โทรให้รถพยาบาลมารับพร้อมกับขับรถมาจากที่ทำงาน พอรถโรงบาลมารับ ครูกับบอกว่าทำข้ามหน้าข้ามตา รร. ทั้งๆ ที่พอไปถึงหมอ หมอบอกว่าถ้ามาช้าแค่ 5 นาทีสมองน้องจะขาดออกสิเจน #เหตุเกิดที่รร. #ครูคิดว่าน้องไม่เป็นไร #น้องนู่เกือบตาย #ณ รร.เทศบาลแห่ง 1ในเมืองอุดรธานี    มีใครคิดเห็นยังไงบ้างค่ะใครรู้ช่วยบอกนู่หน่อยค่ะ”และมีการแชร์ในสื่อออนไลน์และโซเชียว จนมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

จากนั้นได้พยายามติดต่อกับผู้โพสภาพดังกล่าว เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่สามรถติดต่อได้ จึงได้ตรวจสอบและสอบถามข้อเท็จจริงกับทางผู้บริหารเทศบาลนครอุดรธานี จนทราบว่า เด็กนักเรียนตามภาพที่โพส เป็นนักเรียน ของโรงเรียนเทศบาล 3 บ้านเหล่า ในสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี  ซึ่งวันนี้ทางโรงเรียนหยุดการเรียนการสอน เนื่องจากเป็น วันครูโดยทางคณะผู้บริหารและครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี ทั้ง 12 แห่งได้ไป ร่วมพิธีงานวันครู ที่ห้องประชุมอุดรธานีฮอลล์ โรงแรมเซนทารา โดยมีนายอิทธพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เป็นประธานในพิธีหลังจากเสร็จงาน ทางผู้สื่อข่าวจึงได้ขอสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

 

 

 

 

น.ส.อารีรัตน์ นุตะภิบาล ผอ.โรงเรียนเทศบาล 3 บ้านเหล่า เปิดเผยว่า  ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นว่า ช่วงเที่ยงของวันพฤหัสบดี วันที่ 11มกราคม  ผ่านมา  เด็กนักเรียนชั้นประถมปีที่ 4 มีนักเรียนชายและหญิงเล่นด้วยกัน โดยเด็กนักเรียนชายที่ตัวโตกว่า ใช้เท้าถีบหน้าบริเวณระหว่างหน้าอก และท้อง  ทำให้นักเรียนหญิงที่ตัวเล็ก เจ็บหน้าอกและเป็นลม หลังเกิดเหตุเพื่อน ๆ นักเรียน ก็วิ่งมาตามครูที่ห้องพักครู และนำตัวเด็กไปที่ห้องพยาบาล และโทรตามรถพยาบาลจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ทำตามกระบวนการขั้นตอน แต่ทั้งนี้เด็กคนนี้มีพี่สาวเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนเดียวกัน จึงขอใช้โทรศัพท์ของครูตามผู้ปกครอง 

เมื่อผู้ปกครองมาถึงเห็นว่ารถพยาบาลยังมาไมถึง คงเกิดความร้อนใจ เพราะเห็นว่าลูกอาจจะมีสภาวะที่อ้าปากหายใจแรง และร้องไห้ตลอด จึงมีความกังวล แล้วได้โทรศัพท์แจ้งเรียกรถพยาบาล มารับอีกครั้ง ซึ่งตรงนี้ทางผู้ปกครองอาจจะเข้าใจว่า ทางโรงเรียนไม่โทรศัพท์ตามรถพยาบาลมา แต่คิดว่าเป็นเพราะทางผู้ปกครองโทรตามเอง รถพยาบาลจึงมา

 
สำหรับเรื่องนี้เรายืนยันว่า ทางครูและกระบวนการของทางโรงเรียน ทำตามปกติ ที่เร่งรัดและให้ความสำคัญในการติดตามรถพยาบาล เมื่อรถพยาบาลมาถึงแล้วนำเด็กนักเรียนนำส่งโรงพยาบาล ครูก็ตามไปดูแล 2 คน ไม่ใช่ไม่ไปดูแล และก็ไม่ใช่ทางโรงพยาบาล มาตามครูไป ครูเราไปเอง ซึ่งตนได้กำชับว่า ครูต้องตามไปดูแลให้เรียบร้อย และเด็กก็ออกจากโรงพยาบาลในช่วงบ่ายวันเกิดเหตุ ไม่ได้นอนค้างที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด เพราะทางหมอดูอาการแล้วว่า ไม่มีอะไรรุนแรง

 ผอ.โรงเรียนเทศบาล 3  กล่าวว่า  จนเมื่อวันจันทร์ หรือ เมื่อวานนี้  ช่วงเช้า ผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 ฝ่าย ได้นัดมาคุยกันที่โรงเรียน และมีการทำข้อตกลงขอค่าทำขวัญหรือค่าเสียหาย ซึ่งมีการตกลงจ่ายเงินกันเรียบร้อย เป็นจำนวนเงิน 1หมื่นบาท   และทางโรงเรียนก็ได้แสดงความเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้ผู้ปกครองของเด็กไม่สบายใจ และขอโทษหากทางผู้ปกครองเด็กคิดว่าล่าช้า แต่เรายืนยันว่า เราให้ความสำคัญกับเรื่องที่เกิดขึ้น และดำเนินการด้วยความรวดเร็ว 

โดยทางผู้ปกครองเด็กเข้าใจ และยอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งก็จบเรื่องไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงเช้าวันจันทร์แต่หลังจากนั้น มีการโพสภาพข้อความในช่วงเย็นวันจันทร์ โดยบุคคลอื่น ซึ่งไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้ จึงไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้  เมื่อวานนี้หลังจากเด็กมาโรงเรียน ก็มีอาการหายใจหอบขึ้นมาอีก ทางโรงเรียนก็รีบนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลด้วยรถยนต์ของครูที่นำตัวเด็กส่งเอง และก็อยู่กับผู้ปกครองเด็ก จนเด็กออกจากโรงพยาบาล โดยทางเราก็คุยกับผู้ปกคารองเด็กตลอด เมื่อคืนก็คุยกันถึงเรื่องที่มีการโพสเฟซบุ๊กไป โดยทางผู้ปกครองเด็กก็บอกว่าไม่ทราบเรื่องการโพส เพราะคนโพส เป็นหลานที่อยู่ที่อื่นเป็นผู้โพส ซึ่งทางผู้ปกครองบอกจะไปคุยกับคนโพส ถึงข้อมูลที่โพสไปไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

 

 

 

ด้าน นายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี กล่าว่า เหตุที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องเด็กที่ซน ซึ่งก็เป็นธรรมดาของเด็ก ส่วนที่เด็กชายกระทำรุนแรงอย่างนั้น คงต้องมีการตักเตือนตัวเด็กให้ทราบ ซึ่งตนขอฝากไปยังผู้โพส ด้วยว่า หากเป็นข้อมูลที่ชัดเจนแล้วนำไปโพส น่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเป็นการได้รับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ครบถ้วน แล้นำไปโพส จนทำให้คนที่มีผลกระทบเกิดความเสียหายด้วย ตนว่าน่าเสียดาย เพราะว่าครูทุกคนต้องการให้นักเรียนทุกคนเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน เมื่อเด็กมาเจอแบบนี้แล้ว ขอให้ช่วยไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ถึงจะตำหนิหรือจะต่อว่าอะไร หากเกิดว่าเป็นเรื่องที่ดีก็น่าจะส่งเสริมกัน ส่วนเรื่องตำหนิก็สามารถตำหนิได้ แต่อยากให้ทุกคนช่วยกันกลั้นกรองเสียก่อน ทางเทศบาลนครอุดรธานี มีครูในสังกัดกว่า 500 ชีวิต มีนักเรียนที่ดูแลกว่า 9 พันคน เราอยากให้เด็กทุกคนเป็นเด็กดี ยิ่งวันนี้เป็นวันครู ตนคิดว่าจิตวิญญาณของความเป็นครู หรือครูมืออาชีพ อยากให้เด็กเป็นคนดีทุกคน

 

นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ภูมิภาค สำนักข่าว ทีนิวส์