อดีตผู้รับเหมาก่อสร้างคืนถิ่นสุรินทร์บ้านเกิด มาจับจอบ-เสียม ทำไร่นาสวนผสม ตามคำพ่อหลวง ร.9 สอน พลิกพื้นดินอันแห้งแล้ง สู่เกษตรทฤษฎีใหม่

วันนี้( 25 ม.ค.61)  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ลงพื้นที่ แปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ ของนายสมฤกษ์  ยิ่งดี  อายุ 56 ปี อดีตผู้รับเหมาก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 7 บ้านละเบิก ต.แสลงพันธ์  อ.เมืองสุรินทร์  จ.สุรินทร์ บนพื้นที่ 3 ไร่ 2 งาน ที่ได้มีการจัดสรรการปลูกพืชไร่นาสวนผสม ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่อยู่บริเวณหลังบ้าน มีทั้งพืชผักสวนครัว  สวนกล้วย พืชพันธุ์หลากหลายชนิดและเลี้ยงปลาหลายชนิดในบ่อปลาในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้มีกิน มีใช้ และสร้างงาน สร้างรายได้ตลอดปี ไม่มีวันอดตาย

 

นายสมฤกษ์  ยิ่งดี อายุ 56 ปี เล่าว่า  หลังจากตนเรียนจบก่อสร้าง  หลักสูตร ปวช. ก็เดินทางไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ทำงานเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างกว่า 30 ปี จนถึงจุดอิ่มตัวเมื่อปี พ.ศ.2549  จึงได้เดินทางกลับมาบ้านเกิด และอาศัยความรู้ความสามารถในการพัฒนา โดยเป็นผู้นำชุมชนในตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 2 สมัย เกิดแรงบันดาลใจนอกจากช่วยเหลือชุมชน ในหมู่บ้านแล้ว ก็อยากจะนำความรู้ที่ตนเองมี ถ่ายทอดให้กับบุคคลทั่วไป ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ในตำบลและจังหวัดที่เข้ามาศึกษาดูงาน  ซึ่งช่วงนี้ก็เริ่มมีคณะมาศึกษาดูงานเป็นระยะ  ซึ่งในไร่ของตนนั้นเป็นโครงการเกษตรอินทรีย์ทฤษฎีใหม่ มีการปลูกพืชผัก  กล้วยหลายสายพันธุ์  อาทิ  ปากช่องห้าศูนย์  กล้วยหอมทอง  กล้วยเล็บเต่า  กล้วยน้ำหว้าพันธุ์ พื้นบ้าน   มีต้นดอกมะลิ กว่า 600 ต้นและพืชอีกหลากหลาย  โดยเฉพาะแก้วมังกรของเรานี้อร่อยมาก ซึ่งจะมีพันธุ์สีแดงกับพันธุ์สีขาว  ปลูกประมาณ ๒๐๐ ต้นและกำลังจะขยายการปลูกอีก 300 ต้น ให้ได้จำนวนพื้นที่ทั้งหมด ในจำนวน 3 ไร่ 2งาน   ส่วนรายได้ต่อวันได้จากการเก็บผักไปขายเฉลี่ยวันละ 200 บาท ซึ่งจะมีแม่ค้ามารับถึงที่ และส่งหน้าโรงเรียนที่เป็นแม่ค้าประจำ ซึ่งเป็นรายได้หลักต่อวัน  ส่วนรายได้เป็นเดือนนั้นจะเป็นปลา ส่วนปลาก็แล้วแต่บ่อ  ปลาแต่ละบ่อจะจับห่างกัน 1 เดือน สมมุติว่าบ่อหนึ่งลงจับเดือนมกราคม  บ่อถัดไปก็จะลงจับเดือนกุมภาพันธ์  กว่าจะจับบ่อหนึ่งเสร็จ อีกบ่อหนึ่งก็ได้จับต่อพอดี  ซึ่งจะมีการจับปลาต่อกันทุกเดือน  ส่วนปลาที่เลี้ยง จะเน้นเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย  ปลาหมอชุมพร  ปลานิล ในแต่ละบ่อจะลงประมาณ 2,000 ตัว เพราะเป็นสูตรการเลี้ยงตามขนาดของบ่อ กว้างคูณยาว  เพื่อให้ปลาสามารถเลี้ยงตัวของมันเองได้  สามารถที่จะว่ายโดยไม่แน่นในบ่อ  ส่วนแหล่งน้ำจะเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ  แต่ถ้าช่วงเดือนเมษายนหน้าแล้วเราจะมีบ่อพักน้ำสำรอง ซึ่งเป็นสระใหญ่เอาไว้สำรองน้ำไว้ยามขาดแคลน  เมื่อในบ่อปลาหมดก็จะทำการสูบน้ำเข้ามาเติม   ส่วนระบบการบริหารจัดการน้ำในการรดผัก ก็จะมีท่อประปาเดินรอบบริเวณสวน ทั้งสองฝั่ง มีก๊อกน้ำทุกระยะ 16 เมตร ซึ่งจะมีการรดน้ำในช่วงเช้า กับช่วงเย็น  ส่วนสปริงเกอร์ก็จะใช้รดต้นดอกมะลิ  สำหรับการรดผักก็จะใช้สายยางลาก   

ซึ่งโครงการดังกล่าวตนเองได้เป็นคนนำร่องเกษตรกร และได้เป็นตัวแทนของเกษตรกรอำเภอเมืองสุรินทร์ที่เข้ารับการประกวดเกษตรกรดีเด่นด้วย  จึงทำให้คนเริ่มรู้จักซึ่งแปลงเกษตรดังกล่าว ใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ เมื่อเดือนมกราคม 2560 และเริ่มปลูกพืชต่างๆในเดือนกุมภาพันธ์ ครบเวลา 1 ปีพอดี ซึ่งหลายคนที่ได้มาชมและศึกษาดูงานนั้น ต่างรู้สึกทึ่งในแปลงเกษตรที่ใช้ระยะเวลาไม่นานและได้ผลผลิตเก็บเกี่ยวรวดเร็ว และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปหน่วยงานที่เริ่มเข้ามาเรียนรู้ ศึกษาดูงานเพิ่มมากขึ้น   หากท่านใดต้องการสอบถามหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในการทำแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ สามารถติดต่อได้ที่ นายสมฤกษ์  ยิ่งดี  เบอร์โทรศัพท์ 081-6009282 ทุกวัน

ภาพ/ข่าว เสน เหลี่ยมดี ทีมข่าวสุรินทร์นิวส์

เรียบเรียง ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์