ที่เดียวในโลก..!! จ.นครฯหยิบนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ ผลาญงบ 27.3 ล้านบาท พัฒนาปลายแหลมตะลุมพุก สุดฉาวติดแอร์กลางแจ้ง 4 ตัว (ชมคลิป)

(13 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเฟซบุ๊คชื่อดังกลุ่ม !!ประเทศคอน!! ได้มีการโพสต์คลิป/ภาพและข้อความเกี่ยวกับการโครงการพัฒนาศักยภาพปลายแหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยมีรายละเอียดการดำเนินการประกอบด้วยการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์พร้อมคุรุภัณฑ์ประกอบพื้นที่ใช้สอบ 350 ตารางเมตร จำนวน 1 หลัง ก่อสร้างห้องน้ำห้องสุขาชาย/หญิง จำนวน 2 หลัง ก่อสร้างถังเก็บน้ำบนดินคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 50 ลูกบาศก์เมตร 3 หลัง  ก่อสร้างเส้นทางศึกษาธรรมชาติความกว้างไม่น้อยกว่า 1.4 เมตร ยาวไม่น้อยกว่า 3,000 เมตรพร้อมศาลาเอนกประสงค์ขนาด 3X4 เมตรจำนวน 4 หลัง ก่อสร้างลานจอดรถพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กกว้าง 40 เมตรยาว 120 เมตร หนาไม่น้อยกว่า 10 ซ.ม. รวมพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 4,800 ตารางเมตร ก่อสร้างลานนันทนาการพื้นปูด้วยตัวหนอน พื้นที่ใช้สอย 1,600 ตารางเมตร จำนวน 2 แห่ง  ปรับปรุงเส้นทางเข้าแหล่งท่องเที่ยวกว้าง 5 เมตร ยาว 5 กม. โดยการถมหินคลุกและเกลี่ยบดอัด ทำการขยายเขตการไฟฟ้า ระยะทาง 3 กม. และจัดสร้างป้ายสื่อความหมาย/คำขวัญ จำนวน 30 ป้าย ใช้งบประมาณทิ้งสิ้น  27,339,700 บาท

 

โดยหลังจากมีการโพสต์คลิป/ภาพนิ่งและข้อความในเฟซบุ๊คดังกล่าว ปรากฏว่ามีผู้เข้าไปชม แชร์และแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง  โดยเฉพาะการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ และห้องน้ำห้องสุขา ซึ่งมีการติดแอร์กลางแจ้ง  ภายในอาคารเอนกประสงค์ 5  ตัว และติดแอร์ในห้องน้ำ 4 ตัว ทั้ง ๆ ที่เป็นห้องโถงไม่มีติดฝ่าเพดานและกั้นฟ้องแต่อย่างใด โดยใช้เหล็กกลมขนาดเล็กเชื่อมติดกับคานเหล็กหลังคาหย่อยลงมาจากคานหลังคาประมาณ 80 ซ.ม.ก่อนนำตัวแอร์มายึดติดกับเหล็ก ซึ่งแอร์ 1 ตัวใช้เหล็กกลมยึดหัวท้ายด้านละ 2 จุด และยังมีการติดตั้งพัดลมระหว่างแอร์แต่ละตัวอีกด้วย  โดยในส่วนของร์เมื่อปิดใช้งานจะไม่สามารรถควบคุมความเย็นได้เลย เนื่องจากอาคารปล่อยโล่งทุกด้านยกเว้นด้านหลังที่ใช้ไม้ระแนงขนาดกว้าง 1 นิ้วมาต่อกันเป็นฝาผนังซึ่งระหว่างรอยต่อไม้ระแนงทุกชิ้นก็ทะลุเป็นรูตลอดแนวเช่นกัน จึงถือว่าการติดแอร์สูญเปล่าไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ แม้แต่น้อย  ผู้ที่โพสต์และคนที่เข้าไปชมจำนวนมากต่างสอบถามการออกแบบอาคารและการติดแอร์ในลักษณะดังกล่าวทางสถาปนิกผู้ออกแบบดำเนินการไปได้อย่างไร โดยระบุว่าเป็นการติดแอร์ภายในอาคารที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน ถือเป็นแห่งเดียวในโลกก็ว่าได้ จึงอยากให้สถาปนิกนักออกแบบทั้งหลายช่วยอธิบายการออกแบบและวิธีการติดแอร์ดังกล่าวว่าถูกต้องตามหลักการหรือไม่ มีที่ไหนทำแบบนี้ และติดแอร์เพื่อประโยชน์อะไร หลายคนยังแสดงความคิดเห็นในลักษณะแขวะผู้ออกแบบก่อสร้างว่า “ออกแบบได้ไม่เหมือนใครในโลก เป็นการกระทำที่สุดยอดฝีมือ ถือเป็นสุดยอดมะเมซิ่งของโลกไปเลยก็ว่าได้ และน่าจะนำไปสู่ไฮต์ไลน์ในการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ซึ่งน่าจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่ว ๆ ไปก็เป็นได้

                “อย่างไรก็ตามมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นในลักษณะปกป้องหน่วยงานที่รับผิดชอบการก่อสร้าง และสถาปนิกผู้ออกแบบว่าการออกแบบและดำเนินการก่อสร้าง รวมทั้งการติดแอร์กลางแจ้งดังกล่าวน่าจะเป็นไปตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง โดยโครงการดังกล่าวดำเนินการเสร็จเรียบร้อยมากว่า 1 ปีแล้วมีการเบิกงบประมาณการก่อสร้างไปเรียบร้อยแล้ว หากการก่อสร้างผิดแบบที่กำหนดทางผู้ควบคุมงานและคณะกรรมการผู้ตรวจรับงานจ้างคงจะไม่อนุมัติให้ผ่านไปแน่ ผู้ว่าจ้าง สถาปนิก ผู้ควบคุมงาน คณะกรรมการตรวจรับการจ้างล้วนเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คงไม่กล้าอนุมัติสิ่งที่ไม่ถูกต้องออกไปแน่ ดังนั้นการที่ผู้ควบคุมการก่อสร้างและคณะกรรมการตรวจรับงานจ้างเซ็นอนุมัติให้ผ่านและมีการเบิกจ่ายงบประมาณไปเรียบร้อยแล้วทั้ง 27.3 ล้านบาทเศษก็แสดงว่ามีการก่อสร้างถูกต้องตามความต้องการและแบบการก่อสร้าง”

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง  โดยพบเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าปลายแหลมตะลุมพุก ผู้ดูแลอาคารและสถานที่ดังกล่าว เมื่อสอบรายละเอียดเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวอ้างว่าตัวเองไม่รู้เรื่องใด ๆ ทั้งสิ้นเป็นเรื่องของหัวหน้าซึ่งไม่อยู่ในหน่วย และตามปกติหัวหน้าจะอยู่ที่สำนักงานป่าไม้ในตัวจังหวัด สำหรับการก่อสร้างทราบว่าเสร็จสมบูรณ์แล้ว มีการส่างมอบงานและเบิกงบประมาณไปตั้งแต่ปลายปี 2559

                และจากการตรวจสอบรายละเอียดการก่อสร้างทุกส่วนตามที่ระบุในรายละเอียดโครงการพบว่าไม่เรียบร้อย และแทบจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโครงการนี้ได้เลย อาคารเอนกประสงค์ก็ปิดล็อคกุญแจไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ อาคารห้องน้ำ ห้องสุขาเป็นอาคารโล่งแม้จะเข้าไปภายในได้ แต่ห้องน้ำห้องสุขาก็ไม่สามารถใช้งานได้ ไม่มีน้ำ  และระบบไฟฟ้าถูกตัดออกไป ด้านหน้าอาคารเป็นแอ่งน้ำป่าชายเลน รวมทั้งลานจอดรถพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กกว้าง 40 เมตรยาว 120 เมตร หนาไม่น้อยกว่า 10 ซ.ม.รวมพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 4,800 ตารางเมตร ก่อสร้างลานนันทนาการพื้นปูด้วยตัวหนอน พื้นที่ใช้สอย 1,600 ตารางเมตร จำนวน 2 แห่ง  ก็ไม่มีช่องทางที่จะเข้าสามารถเข้าไปใช้บริการได้ ทุกจุดเหมือนไม่เคยผ่านการใช้งานใด ๆ มาก่อนแม้แต่น้อย โดยเฉพาะลานนันทนาการพื้นปูด้วยตัวหนอน พื้นที่ใช้สอย 1,600 ตารางเมตร จำนวน 2 แห่ง นอกจากจะมีแอ่งน้ำขวางทั้งด้านหน้าและด้านหลังแล้วอิฐตัวหนอนยังทรุดทำให้ชำรุดเสียหายเป็นบริเวณกว้าง  โดยรวมจึงเปรียบได้กับการก่อสร้างเสร็จแล้วทิ้งไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามวัตถุประสงค์แม้แต่น้อย

ในส่วนของเส้นทางศึกษาธรรมชาติความกว้าง 1.4 เมตร ยาวไม่น้อยกว่า 3,000 เมตรพร้อมศาลาเอนกประสงค์ขนาด 3X4 เมตรจำนวน 4 หลัง ทางเดินขึ้นต่อไปจากลานนันทนาการทางด้านทิศตะวันตก โดยเป็นทางเดินคอนกรีตเสริมเหล็กยกพื้นสูงจากพื้นป่าชายเลนประมาณ  1.5 เมตร เป็นเส้นทางยาวเข้าไปในพื้นที่ป่าชายเลนระยะทาง 3,000 เมตร หรือ 3 กม.มีรั้วทั้ง 2 ข้างโดยระยะทางประมาณ 700-800 เมตร จะมีการสร้างศาลาเอนกประสงค์สำหรับนั่งพัก 1 หลัง รวมตลอดเส้นทาง 4 หลังและเส้นทางจะไปสิ้นสุดกลางป่าชายเลน นักท่องเที่ยวหรือใครที่เดินบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติจะต้องเดินกลับทางเดิมรวมระยะทางไป-กลับ 6 กม.

                ผู้สื่อข่าวได้พบกับกลุ่มสื่อมวลชนจากจังหวัดสงขลากลุ่มหนึ่งที่เดินทางมาชมสถานที่ดังกล่าว ระบุว่าเป็นคน ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก  อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช แต่ไปมีครอบครัวใน จ.สงขลานาน ๆ จะกลับมาบ้านเยี่ยมพ่อแม่และญาติ ๆ สักครั้งหนึ่ง ในช่วงที่เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านและทราบจากว่ามีโครงการนี้จากเฟซบุ๊คประเทศคอน จึงถือโอกาสเดินทางมาตรวจสอบและเยี่ยมชม เมื่อมาเห็นก็ตกตะลึงว่ามันมีโครงการแบบนี้ในบ้านเกิดของได้อย่างไร มันสุดอะเมซิ่งจริง ๆ ผมไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อน จึงอยากจะถือโอกาสโปรโมทเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เดินทางมาชมการติดแอร์กลางแจ้ง ติดแอร์ให้สายลม 1 ในเดียวในโลกหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ขอให้มาดู มาชมกันได้ครับที่บ้านผม “แหลมตะลุมพุก”

                “ที่สำคัญอยากจะเชิญชวนนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี และ คสช.รวมทั้งปลัดกระทรวง อธิบดีที่เกี่ยวข้องเดินทางมาชมโครงการสุดยอดอะเมซิ่ง 1 เดียวในโลกให้เห็นกับตาตัวเอง จะได้ไปบอกกล่าวประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เขาแห่มาท่องเที่ยว มาชมความแปลกประหลาด สุดยอดมหัศจรรย์ กันเยอะ ๆ มั่นใจว่าโครงการแบบนี้จะได้รับความสนใจจากนักเที่ยวทุกชาติที่จะแห่กันมาชม เพราะหาชมที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว รับร้องว่าจะสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติอย่างมากมายมหาศาล 27 ล้านบาทเศษที่ลงทุนคงได้เคยในเวลารวดเร็วแน่นอน”

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบจากเอกสารรายละเอียดโครงการพบว่าโครงการนี้เป็นการดำเนินการตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2557 ซึ่งประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียมและไม่เสียโอกาส เนื่องจากอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หรือเชิงอนุรักษ์สามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนและประเทศเป็นอย่างมาก  ประกอบกับเมืองนครศรีธรรมราชถูกกำหนดให้เป็น 1 ใน 12 เมืองต้องห้าม..พลาด จึงให้ดำเนินการโครงการดังกล่าวขึ้นและให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จในระยะเวลา 1 ปี เริ่มดำเนินการเดือนตุลาคม 2558 สิ้นสุดเสร็จโครงการเดือนกันยายน 2559 และได้ตั้งตัวชี้วัดและเป้าหมายจำนวนผู้มาใช้บริการในปี 2560 จำนวน 6,000 คน แต่โครงการดังกล่าวกลับล้มเหลวไม่เกิดประโยชน์ใด ๆแม้แต่น้อยเป็นการใช้งบประมาณแบบสูญเปล่า  จึงเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในโครงการนี้อย่างเร่งด่วน.