ปปท.ตื่นลุยแหลมตะลุมพุก !! สอบ 2 โครงการส่อทุจริต “โอเพ่นแอร์” พบอีกอาคารหรู "หอคอยชมวิว" ทิ้งให้วัวหลบแดดหลบฝน (ชมคลิป)

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 17 ก.พ.2561  พ ท.กรทิพย์  ดาโรจน์ รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการ คณะกรรมการ  ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้สั่งการให้นายอภินันท์ นาวิกนันทน์  ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขตพื้นที่ 8  ดำเนินการตรวจสอบโครงการพัฒนาพื้นที่ปลายแหลมตะลุมพุก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่ใช้งบประมาณดำเนินการกว่า 23 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างอาคารแต่มีการติดแอร์กลางแจ้ง หรือ “โอเพ่นแอร์ รวมทั้งรายละเอียดอื่น ๆ หลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จกลับทิ้งร้างไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามวัตถุประสงค์เดิม จนนายไพโรจน์ รัตนรัตน์ อดีตนายก อบต.ปากพนังฝั่งตะวันออก กรรมการชมรมคนลุ่มน้ำพึ่งพาตนเองและแกนนำเรียกน้องให้ก่อสร้างแนวคนกั้นคลื่นและทวงคืนโฉนดทะเล เรียกร้องผ่านทางโลกโซเชี่ยลให้มีการตรวจสอบการดำเนินการในโครงการเพราะสื่อการทุจริตอย่างชัดเจน จนมีคนในโลกโซเชี่ยลเข้าไปชม แชร์ และแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง

 

                ต่อมาในวันเดียวกันนี้ (17 ก.พ.) นายอภินันท์ นาวิกนันทน์  ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขตพื้นที่ 8 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ณทัศน์ ม่วงแก้ว นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ สำนักงาน ปปท.เขต 8 และนายศุภกร กาญจน นักวิชาการยุติธรรม สำนักงาน ปปท.เขต 8 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ปปท.เขต 8 อีกจำนวนหนึ่งเดินทางลงพื้นที่แหลมตะลุมพุกเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในโครงการดังกล่าว   โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างจังหวัดที่ทราบเรื่องจากสื่อมวลชนและโลกโซเชี่ยลแห่เดินทางมาเที่ยวชมโครงการ ฯจำนวนมาก ทำให้แหลมตะลุมพุกที่ซบเซากลับมาคึกคักเป็นพิเศษ ในขณะที่ทางหน่วยห้ามล่าสัตว์แหมตะลุมพุก เจ้าของพื้นที่การตั้งด่านเก็บเงินค่าเข้าชมคนละ 20 บาท สร้างรายได้ให้กับหน่วยอีกทางหนึ่งทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เปิดให้เข้าได้โดยไม่มีการเก็บเงินแต่อย่างใด

 

 

 

 

 

 

จากการสอบถามนักท่องเที่ยวกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าทราบจากการโลกโซเชี่ยลและการเสนอข่าวของสื่อมวลชน ประกอบกับอยากจะมาท่องเที่ยวแหลมตะลุมพุกมานานแล้วจึงถือโอกาสช่วงเทศกาลตรุษจีนเดินทางมาเที่ยวแหลมตะลุมพุกและถือโอกาสมาชมโครงการพัฒนาพื้นที่ปลายแหลมตะลุมพุก อยากจะมาดูให้เห็นกับตาเกี่ยวกับการติดแอร์กลางแจ้งหรือ “โอเพ่นแอร์” ที่ทางโฆษกกระทรวงทรัพยาการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยืนยันว่าเป็นการก่อสร้างตามแบบแปลน และได้มาเห็นกับตาตัวเองยอมรับว่าไม่เคยเห็นการติดแอร์ในลักษณะนี้มาก่อน หากเป็นไปตามแบบแปลนการก่อสร้างจริง ๆ ถือเป็นเรื่องที่แปลกมาก ๆ และสงสัยว่าโครงการของรัฐอนุมัติงบประมาณให้ติดแอร์ในลักษณะนี้ได้ด้วยหรือซึ่งอาจจะมีที่เดียวในโลกก็ได้ 

 

                นายประยุทธ์ ฐานะวัฒนา กำนันตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ ปปท.ได้เดินทางลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในโครงการดังกล่าว   ในส่วนของตนมองว่าโครงการที่เกิดขึ้นเป็นการดำเนินการที่ชุ่ยมาก ๆ จนตนไม่อยากจะกล่าวถึง แต่หากมองในอีกด้านหนึ่งก็เป็นผลดีในการส่งเสริมการท่องเที่ยวก็เป็นได้ เพราะหลังตกเป็นข่าวตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. 2561 ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่แหลมตะลุมพุกเป็นจำนวนมาก สร้างความคึกคักอย่างเห็นได้ชัด  ร้านค้า ร้านอาหารในพื้นที่มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยว มีรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ แม้แต่ทางหน่วยพิทักษ์ป่าแหบมตะลุมพุกก็ถือโอกาสตั้งด่านเก็บเงินคนที่เข้าไปเที่ยวชมโครงการมีรายได้ไม่น้อยเช่นกัน  ที่สำคัญป้ายสื่อความหมายที่กำหนดไว้ในโครงการ 30 ป้ายซึ่งไม่มีแม้แต่ป้ายเดียวปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่และผู้รับเหมาบรรทุกป้ายทยอยเข้ามาติดตามจุดต่าง ๆ หลายจุดแล้ว

 

                ในขณะที่ พ.ต.ท.ณธรรศ ม่วงแก้ว นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ สำนักงาน ปปท.กล่าวว่า หลังจากได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ตรวจสอบโครงการนี้ซึ่งเข้าข่ายการทุจริตในภาครัฐ พบว่าการดำเนินการไม่ชอบมาพากลในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะที่เห็นกับตาหรือความผิดปกติเชิงประจักษ์ในหลาย ๆ ส่วน โดยเฉพาะการก่อสร้างแล้วเสร็จไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ใด ๆ และการก่อสร้างในรายละเอียดทั้งตัวอาคาร ลานจอดรถ ลานนันทนาการ ถังเก็บน้ำ ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ไม่ได้คุณภาพ  ส่วนสิ่งที่เป็นไฮไลต์ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาชมคือการติดแอร์ในอาคารที่ไม่มีการกั้นฝาผนังใด ๆ เป็นเรื่องที่แปลกมาก ๆ และดูเหมือนว่าอาคารและส่วนประกอบอื่น ๆไม่ได้เปิดใช้ให้เกิดประโยชน์ใด ๆ เลยทั้ง ๆ ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเบิกจ่ายงบประมาณไปหมดแล้ว แม้แต่ห้องน้ำก็ใช้ไม่ได้ ไม่มีน้ำ  ซึ่งตนและเจ้าหน้าที่ ปปท.ได้เก็บข้อมูลพร้อมภาพถ่ายในแต่ละส่วนไว้อย่างละเอียด หลังจากนี้จะเดินทางเข้าตรวจสอบเอกสารโครงการนี้ของทางราชการหลายหน่วยงานทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ  นอกจากนี้ยังทราบว่ามีนายช่างโยธาของ อบต.แหลมตะลุมพุก ซึ่งดั้งการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจรับการจ้างในโครงการนี้ เมื่อเห็น การก่อสร้างที่ไม่ชอบมาพากลได้ยื่นหนังสือขอลาออกไปก่อนที่การก่อสร้างจะแล้วเสร็จ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ทาง ปปท.ก็จะต้องเรียกมาสอบสวนด้วยเช่นกันสิ่งแวดล้อม เพื่อสรุปว่ามีการทุจริตประพฤติมิชอบในโครงการนี้หรือไม่

 

 

 

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากโครงการพัฒนาพื้นที่ปลายแหลมตะลุมพุก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโครงการดังกล่าวแล้วนายไพโรจน์ รัตนรัตน์ กรรมการชมรมคนลุ่มน้ำพึ่งพาตนเองและนายประยุทธ์ ฐานะวัฒนา กำนันตำบลแหลมตะลุมพุก พร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่งยังได้นำคณะเจ้าหน้าที่ ปปท.เขต  8 เดินทางไปชมโครงการอีกโครงการหนึ่งที่อยู่บริเวณปลายแหลมตะลุมพุก ห่างจากจุดอาคารโอเพ่นแอร์ไปประมาณ 3 กม. ซึ่งมีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ พร้อมหอคอยชมวิวทิวทัศน์แหลมตุมพุก ใช้งบประมาณนับ 10 ล้าน ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จไปเมื่อ 2-3 ปีก่อนแต่ทิ้งรกร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์ใด ๆ เช่นเดียวกัน พบว่าตัวอาคารขนาดใหญ่มีห้องกว้างถึง 6 ห้อง และอยู่ห่างจากหอคอยประมาณ 40 เมตร แต่ภายในอาคารถูกคนร้ายรื้อสายไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า ลูกปิดประตู และฝ้าเพดานออกไปหมดแล้ว และภายในอาคารชำรุดทรุดโทรมอย่างหนักและกลายเป็นที่หลบแดดหลบฝนของฝูงวัวชาวบ้านโดยวัวถ่ายมูลไว้เต็มไปหมด รวมทั้งห้องน้ำห้องส้วมก็พังเสียหายอย่างหนักเช่นกัน  ทั้ง ๆ ที่อาคารและหอคอยชมวิวไม่เคยเปิดใช้งานมาก่อน  โดยระหว่างตัวอาคารกับหอคอยชมวิวถูกน้ำท่วมขังและมีป่าโกงกางขึ้นเต็มไปหมด ไม่สามารถเดินไปมาได้ เจ้าหน้าที่ต้องลงทุนขี่คอกันเดินลุยน้ำ ลุยโคลนและป่าโกงกาง เพื่อไปยังหอคอย โดยพบว่าหอคอยไม่ได้เปิดใช้ให้เกิดประโยชน์เช่นกัน  เจ้าหน้าที่ ปปท.ได้เก็บรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นพร้อมถ่ายภาพไว้เก็บไว้เป็นหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบการทุจริตเช่นเดียวกัน

 

  นายไพโรจน์ รัตนรัตน์ กล่าวว่า โครงการสร้างอาคารและหอคอยชมวิวทิวทัศน์แหบมตะลุมพุก เป็นโครงการส่งเสริมเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เช่นเดียวกัน ตนไม่แน่ใจว่าใช้งบประมาณไปจำนวนเท่าไหร่ อาจจะมากกส่า 10 ล้านก็ได้ ก่อสร้างแล้วเสร็จ เบิกจ่ายงบประมาณไปหมดแล้วเทื่อ 2-3 ปีก่อน ในจุดนี้ไฟฟ้ายังเข้ามาไม่ถึงแต่มีการติดตั้งเสาไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าภายในอาคาร คาดว่าจะจัดทำโครงการต่อยอดขยายเขตไฟฟ้า ซึ่งต้องใช้งบประมาณอีกหลายล้านบาท  แต่เมื่อยังไม่ได้รับงบประมาณมาดำเนินการ ตัวอาคารและหอคอนที่สร้างแล้วเสร็จ พร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้า มีวัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้าครบถ้วน ถูกทิ้งรกร้างว่างเปล่ามานานไม่ได้เกิดประโยชน์ใด ๆ จนคนร้ายเข้ามามั่วสุมและขโมยสายไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า ฝ้าเพดาน แม้แต่ลูกปิดประตู ทั้งภายในอาคารและหอคอยชมวิวไปหมดแล้ว ภายในอาคาร ห้องน้ำ และตัวหอคอยชมวิวก็ชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก เป็นการใช้งบประมาณไปแบบสูญเปล่า

 

 “ โดยสรุป 2 โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศแหลมตะลุมพุกใช้งบประมาณรวมแล้วน่าจะเกิน 30 ล้านบาท สร้างเสร็จแล้วทิ้ง ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ แม้แต่น้อย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำเหมือนกับว่าประเทศไทยมีงบประมาณเหลือใช้มากมาย จึงสร้างแล้วทิ้งไร้ประโยชน์ในพื้นที่เดียวกันถึง 2 โครงการ  หลังจากนี้ทาง ปปท.คงจะสรุปผลการตรวจสอบและสอบสวนว่ามีการทุจริตประพฤติมิชอบหรือไม่  อีกไม่นานคงมีคำตอบให้ชาวแหลมตะลุมพุกและชาวไทยทั่วประเทศอย่างแน่นอน” นายไพโรจน์ กล่าวในที่สุด.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว ยุทธนะ  เตมะศิริ   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์  จ.นครศรีธรรมราช