กลายเป็นแผลในใจ ! สิบตร.ควบกระบะ พุ่งชนป้ายบอกทางกลางสี่แยก เมียและลูกชายวัย 3 ขวบ เจ็บสาหัส หลังลางานเพื่อกลับมาหาครอบครัว..!??

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561 ร.ต.อ.วุฒิชัย ทองผอม รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนเข้ากับเสาป้ายบอกทางขนาดใหญ่ บริเวณสี่แยกต้นเสมอ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง เขตเทศบาลนครตรัง ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย จึงออกไปตรวจสอบก่อนประสานไปยังหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง ออกไปรับผู้บาดเจ็บเป็นการด่วน เพื่อนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ บริเวณเกาะกลางถนนพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้าบีที 50 สี่ประตู สีบอร์นเทา ทะเบียน กฉ 5067ตรัง ชนติดอยู่กับเสาป้ายบอกทางขนาดใหญ่กลางสี่แยก สภาพหัวรถด้านหน้าพังยับเยิน น้ำมันเครื่องไหลออกจากเครื่องยนต์นองเต็มพื้นถนนเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากตัวรถ โดยทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกันบาดเจ็บทั้งหมด 3รายพ่อแม่ลูก ทราบชื่อคนขับคือ ส.ต.ต.ภานุพัฒน์ ชัยลาบ บาดเจ็บมีบาดแผลตามร่างกายขาทั้งสองข้างหักเป็นแผลเหวอะหวะ ส่วนภรรยาที่นั่งโดยสารมาด้านข้างคนขับบาดเจ็บที่ศีรษะและลูกชายวัย 3 ขวบ ที่นั่งภายในห้องโดยสารด้านหลังบาดเจ็บเล็กน้อยจากการตรวจสอบภายในรถพบอาวุธปืนยาวบรรจุอยู่ในถุงผ้าจึงได้เก็บไว้เพื่อนำไปตรวจสอบ

ทั้งนี้จากการสอบถาม นายประเทือง ญาณสูตร อายุ 48 ปีอยู่บ้านเลขที่ 171 ม.12 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์ตามหลังรถคันที่เกิดเหตุมาซึ่งน่าจะใช้ความเร็วไม่เกิน 50-60 กิโลเมตร จู่ๆได้เกิดพุ่งเข้าไปชนเสาป้ายบอกทางดังกล่าวอย่างจังโดยที่ไม่ได้มีการหักหลบหรือเสียหลักแต่อย่างใด

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ส.ต.ต.ภานุพัฒน์ ชัยลาบ มีอาชีพรับราชการตำรวจ ประจำอยู่ สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยภรรยาและลูกชายอาศัยอยู่บริเวณหน้าวัดโคกหล่อ ต.โคกหล่อ ห่างจากจุดเกิดประมาณ 1 กิโลเมตรโดยในวันนี้ได้ลาราชการเพื่อกลับมาหาภรรยาและลูกชาย ก่อนเกิดเหตุได้นำครอบครัวมานอกบ้านและระหว่างที่กำลังเดินทางกลับบ้าน ได้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นเสียก่อน ซึ่งสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากอาการหลับใน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเกิดเหตุดังกล่าว น้ำมันเครื่องที่ไหลออกมาจากตัวรถที่นองอยู่เต็มพื้นถนน ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ลื่นล้มนับ 10 คัน ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกดังกล่าวต้องนำทรายมาถมน้ำมันช่วยกันโบกรถและดูแลการจราจร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาดำเนินการแก้ไขภายหลังเกิดเหตุ.

 

ภาพ/ข่าว ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดตรัง