ได้คืนเพียงร่างไร้วิญญาณ !! แม่ร่ำไห้ใจจะขาด หลัง จนท.พบศพแล้ว 1 ใน 2 ด.ญ.จมแก่งคุดคู้น้ำโขงเชียงคาน (มีคลิป)

จากกรณีเกิดเหตุการณ์ด.ญ.สุดารัตน์  กระซงรัมย์ หรือน้ององุ่น อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 3 บ้านนาเบน  ต.เขาแก้ว  อ.เชียงคาน จ.เลย  และด.ญ.ลัดดาวัลย์  ชำนาญ  หรือน้องลัด อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/2 บ้านโสกเก่า  หมู่ 1 ต.เขาแก้ว  อ.เชียงคาน จ.เลย  จมน้ำหายไป ขณะลงเล่นน้ำที่แก่งคุดคู้ในแม่น้ำโขง ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 10 มีนาคม 2561 

หลังเกิดเหตุ  เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำเชียงคาน  เจ้าหน้าที่ นรข.เชียงคาน  เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างคีรีธรรม จ.เลย  และเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเชียงคาน และอบต.เชียงคาน กว่า 30 นาย  ได้ระดมกำลังกันออกค้นหาเด็กหญิงทั้งสองคน แต่ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยว และเป็นช่วงเวลาค่ำมืดแล้ว

 

 

ล่าสุด วันนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกค้นหาติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยได้เน้นการค้นหาบนผิวน้ำ เนื่องจากเชื่อว่าศพจะเริ่มลอยขึ้นมาแล้ว  ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.  เจ้าหน้าที่ได้พบศพ ด.ญ.ลัดดาวัลย์  ชำนาญ  ติดอยู่ที่โขดหิน ห่างจากจุดจมน้ำประมาณ 200 เมตร  ส่วนศพของ ด.ญ.สุดารัตน์  กระซงรัมย์  เจ้าหน้าที่กำลังค้นหา คาดว่าจะติดอยู่ซอกโขดหินในจุดที่ไม่ห่างกันมากนัก

ด้านนางบัวบาน  ศรีชื่น  อายุ 48 ปี  แม่ของด.ญ.ลัดดาวัลย์  หลังได้พบศพลูกสาว ก็ได้ร้องไห้อย่างสุดเสียงด้วยความเสียใจ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนทำงานรับจ้างอยู่โรงงานทำก้อนอิฐในอำเภอเชียงคาน  ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 13.00 น.  ลูกสาวได้มาขอเอารถจักรยานยนต์ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่ไม่บอกว่าจะไหน ตนก็ไม่อนุญาต เพราะเป็นห่วงลูก  แต่ลูกสาวก็รบเร้าจนตนใจอ่อน ยอมให้เอารถไป  แล้วก็ตนก็ทำงานตามปกติ แต่รู้ว่าแสบตา น้ำตาไหลทั้งวัน ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร

 

 

นางบัวบานกล่าวว่า หลังจากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. เถ้าแก่ก็มาบอกว่าลูกสาวจมน้ำ  ตนจึงรีบมาดู แต่ไม่พบอะไรเลย  มีเพียงรองเท้าของลูกสาวเท่านั้น รู้สึกเสียใจมากที่สุด เพราะมีลูกสาวเพียงคนเดียว ส่วนลูกชายคนโต ก็หายตัวออกจากบ้านไปทำงานที่อื่น ไม่ติดต่อกลับมานานแล้ว จึงเหลือลูกสาวอยู่บ้าน เป็นความหวังของพ่อแม่ ตั้งใจจะส่งเสียให้เรียนสูงๆ กำลังจะขึ้น ม.1 อยู่แล้ว

นางบัวบานเปิดเผยถึงลางสังหรณ์ก่อนเกิดเหตุว่า  สองวันก่อนเกิดเหตุมีนกเอี้ยงบินมาตกในบ้านพัก ไม่นาน นกตัวนั้นก็ตายในตะกร้าเสื้อผ้า วันต่อมา มีงูสีดำ ตัวขนาดเท่านิ้วก้อย เข้ามาอยู่บนที่นอน  ด้วยความกลัวว่าจะเป็นงูพิษ สามีจึงใช้ไม้ไล่ตีจนตายแล้วเอาไปทิ้ง  ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงที่สุดในชีวิต สูญเสียลูกสาวไปอย่างไม่มีวันกลับ. 

 

 

ภัทราวุธ  บุญประเสริฐ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.เลย 

ภาพส่วหนึ่งจากมูลนิธิสว่างคีรีธรรม จ.เลย