ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา(16มี.ค.61)ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามเรื่องราวดีๆที่ใครที่ได้พบเห็นแล้วอดที่จะชื่นชมไม่ได้ เมื่อเด็กชาย วัย 12ปี และเด็กหญิง วัย 5ปี สองหนูน้อยยอดกตัญญูที่ใช้เชือกลากรถวีลแชร์พาแม่ผู้พิการเดินไม่ได้ออกตระเวณขายผลไม้ไปตามพื้นที่ตัวเมืองระนองในยามค่ำคืนเป็นประจำ โดยเด็กชายทราบชื่อว่า ด.ช.จิรชีพ สุมาลย์ ”น้องชีพ” ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนหมิงซิน จ.ระนอง ส่วนเด็กหญิงชื่อว่า ด.ญ.รุจาภา สุมาลย์ “น้องเจล” ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนหมิงซิน จ.ระนอง ซึ่งเด็กทั้งสองคนเป็นบุตรของ นายลิขิต สุมาลย์ อายุ 43 ปี(บิดา) และ น.ส.จรัสศรี เผ่าจินดา(มารดา)อายุ 29ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 90/35 ม.2 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง


กราบหัวใจน้องจริงๆ..!! สองหนูน้อยยอดกตัญญู ช่วยใช้เชือกลากวีลแชร์ พาแม่พิการตระเวนขายของยามค่ำคืน พร้อมเปิดใจกับคำพูดที่ซึ้งสุดๆ!? (ชมคลิป)

เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน รายได้หลักของครอบครัวนี้จึงได้มาจากการขายผลไม้และเงินผู้พิการ 800บาท ที่ น.ส.จรัสศรี(มารดา)ได้รับในแต่ละเดือน ซึ่งนายลิขิต(บิดา)จะมีหน้าที่คอยรับส่งลูกไปโรงเรียนและคอยซื้อผลไม้จากตลาดแล้วช่วยกันบรรจุผลไม้เป็นแพ้คในช่วงกลางวันก่อนให้ น.ส.จรัสศรี นำไปตระเวนขายในช่วงค่ำ แต่เนื่องจาก น.ส.จรัสศรี(มารดาของเด็ก)มีความพิการเดินไม่ได้เวลาออกนอกบ้านต้องใช้รถวีลแชร์ตลอดเวลา บวกกับระยะทางไปกลับที่ต้องใช้รถวีลแชร์ตระเวนขายของในแต่ละคืนระยะทางร่วม 3กิโลเมตร จึงจำเป็นต้องให้ลูกทั้งสองคนช่วยโดยจะใช้เชือกผูกกับรถวีลแชร์แล้วลากจูงพา น.ส.จรัสศรี ออกตระเวนขายของ โดยทั้ง3คนแม่และลูกจะเริ่มออกเดินทางจากบ้านช่วงเวลาประมาณ19.00น.โดยจะตระเวนขายผลไม้ตามสถานที่ต่างๆ อาทิ หน้าร้านสะดวกซื้อ และไปตามเส้นทางถนนเรืองราษฎร์ ซึ่ง ด.ช.จิรชีพ ”น้องชีพ” นอกจากลากรถวีลแชร์แล้วยังต้องคอยระวังรถและส่องไฟให้สัญญานเพื่อป้องกันรถที่สัญจรไปมาไม่ให้เฉี่ยวชนแม่และน้องสาวอีกด้วย ซึ่งกว่าจะขายของหมดและกว่าเดินทางกลับถึงบ้านอีกทีก็ประมาณเที่ยงคืนถึง 01.00น.เป็นประจำทุกคืน


กราบหัวใจน้องจริงๆ..!! สองหนูน้อยยอดกตัญญู ช่วยใช้เชือกลากวีลแชร์ พาแม่พิการตระเวนขายของยามค่ำคืน พร้อมเปิดใจกับคำพูดที่ซึ้งสุดๆ!? (ชมคลิป)

น.ส.จรัสศรี เผ่าจินดา(มารดา) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ต้องพาลูกออกมาขายของด้วยในเวลากลางคืน เนื่องจากตนเองไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวก เวลาที่ต้องเข็นวีลแชร์ตนเองจะเหนื่อยง่าย ลูกก็เลยอาสาที่จะมาช่วยตนเองเวลาที่ออกมาขายของ โดยลูกชายคนโตจะเป็นคนที่อาสามาช่วยก่อน ทีนี่พอลูกชายคนโตมาลูกสาวคนเล็กก็เลยขอตามพี่ชายเขามาด้วย อีกอย่างเวลาที่ลูกชายคนโตมาด้วยเขาจะคอยส่องไฟให้รู้ว่ามีรถมาข้างหน้า และจะคอยระวังรถให้ เพราะเคยมีอยู่วันหนึ่งที่ตนเองต้องออกมาขายของคนเดียวแล้วช่วงขากลับถนนจะโล่งช่วงนั้นจะเป็นเวลา ตี1 เกือบตี2 แล้วมีรถกระบะคันหนึ่งขับมาเร็วมากแล้วเฉียวมาด้านข้างเกือบชนตนเอง พอกลับถึงบ้านได้เล่าให้สามีฟังและลูกก็นั่งฟังอยู่ด้วย ทีนี่ลูกชายเขาก็เลยบอกถ้าช่วงวันไหนเขามาไหวเขาก็จะมาเป็นเพื่อน ระยะหลังๆเขาก็จะมาด้วยบ่อยหน่อย โดยจะเริ่มออกจากบ้านกันประมาณเกือบ 1ทุ่ม หรือ 2ทุ่ม คือถ้าวันไหนลูกค้าไม่เห็น หรือว่ามาสายช่วงนั้นแสดงว่าตนเองไม่ค่อยสบาย ส่วนเวลากลับบ้านหลังจากขายของเสร็จจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ว่าจะหมดกี่ทุ่ม แต่ส่วนใหญ่จะกลับถึงบ้านไม่เกิน ตี2 ส่วนช่วงดึกถ้าลูกไม่ไหวเขาก็จะบอกให้ตนเองโทรให้พ่อเขามารับกลับบ้านก่อน

 

ทางด้าน ด.ช.จิรชีพ สุมาลย์ ”น้องชีพ” ได้กล่าวว่า ตนเองช่วยงานแม่มา 5ปีแล้ว ได้ออกมาช่วยแม่อย่างนี้ไม่เหนื่อยและยังสนุกอีกด้วย เวลามาช่วยแม่ก็จะทำหน้าที่ลากรถให้แม่เวลาน้องสาวเหนื่อยตนเองก็จะลากต่อให้ และตนเองต้องคอยดูรถให้แม่ด้วย เพราะรถแต่ละคันจะขับกันมาเร็ว ส่วนที่ผ่านมายังไม่เคยถูกเฉี่ยวถูกชนเลย เพราะเวลารถขับกันมาเร็วตนเองก็จะใช้ไฟฉายส่องไปที่รถให้เขารู้เขาก็จะขับช้าลง และถ้าคืนไหนดึกไม่ไหวแม่ก็จะโทรบอกให้พ่อมารับกลับบ้านไปนอนก่อนได้ แต่คืนนี้ตนเองอยู่นานได้เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดไม่ต้องไปโรงเรียน

 

กราบหัวใจน้องจริงๆ..!! สองหนูน้อยยอดกตัญญู ช่วยใช้เชือกลากวีลแชร์ พาแม่พิการตระเวนขายของยามค่ำคืน พร้อมเปิดใจกับคำพูดที่ซึ้งสุดๆ!? (ชมคลิป)

ภาพ/ข่าว นิเวศน์ เสระหมาน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ระนอง