- 17 มี.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากเหตุการณ์ที่มีคนร้าย ขี่รถจักรยานยนต์ ชิงทรัพย์กระชากกระเป๋าเป้ นายฟาเบียน เวนยี อายุ28 ปี อาชีพ นักโปรแกรมเมอร์และ น.ส.อีฟา ปอมกัสเนียร อายุ 25 ปี อาชีพดีไซเนอร์ ซึ่งทั้งสองคนเป็นนักท่องเที่ยวชาวออสเตรีย ขณะกำลังจะปั่น จักรยาน ไปเที่ยวที่เพนียดคล้องช้าง เหตุเกิดบริเวณหน้าวัดเจดีย์แดง ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา ในกระเป๋ามีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง กล้องถ่ายรูป จำนวน 1 ตัว กล้องโกโปร 1 ตัว พาสปอร์ต 2 เล่ม บัตรเครดิต เงินสดจำนวน 3,000 บาท รวมทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 30,000 บาท หลบหนีไป ทางวัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหารเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2561 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 17 มี.ค. 2561 ตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ที่ห้องประชุมชั้น 3 สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา โดยมีพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผู้บัญชาการ ตำรวจท่องเที่ยว พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพ็ชร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ. อนุสรณ์ วะยะคำ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ. ศราวุธ ตันกุล ผู้กำกับ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 พ.ต.ท.ชิษณุพงศ์ ไหวดี สว.งานสืบสวนฯ ปฏิบัติราชการ กก. 2 พ.ต.ท.ศรุต ระยานนท์ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว พระนครศรีอยุธยา
โดยเมื่อวันที่ 14 มี.ค.2561 เวลาประมาณ 10.30 น. นักท่องเที่ยวชาวออสเตรีย คือ นางสาวอีวา ปอมกัสเนียรอายุ 23 ปี และนายฟาเบียน เวนนี อายุ 28 ปี ถูกชายไทย อายุประมาณ 20 – 30 ปี สวมใส่เสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงขายาว สวมหมวกนิรภัย ขับขี่รถจักรยานยนต์สีขาว-ดำ ฉกฉวยกระเป๋าใส่ทรัพย์สินบริเวณตะกร้าหน้ารถจักรยานของนางสาว อีวาฯไป ระหว่างที่ขับขี่จักรยานอยู่บริเวณถนนหน้าวัดเจดีย์แดง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ทำการสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์สีขาว-ดำ ทะเบียน 7กฉ 8126 กรุงเทพมหานคร สวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีเทา กางเกงขายาวและสวมหมวกนิรภัย ตามที่ผู้เสียหายแจ้ง จึงได้ตรวจสอบและติดตามจนพบรถจักรยานยนต์ดังกล่าว
สอบถามเจ้าของรถทราบว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2561 ได้มีเพื่อนคือ นายเอกพจน์ ไตรรงค์ อายุ 32 ปี ได้มายืมรถจักรยานยนต์ไปและได้นำรถกลับมาคืนในวันเดียวกัน โดยไม่ทราบว่านำไปใช้ทำอะไรที่ใด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้เดินทางไปยังบ้านพักของนายเอกพจน์ฯ ซึ่งเป็นที่อยู่ตามบัตรประชาชน พบนางวิไล ไตรรงค์ ได้ให้การว่าเป็นมารดาของนายเอกพจน์ฯ และเป็นเจ้าของบ้านดังกล่าวแต่ไม่พบตัวนายเอกพจน์ฯแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อตรวจสอบภายในบ้านพบเสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีเทาและกางเกงขายาวตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ผู้ก่อเหตุสวมใส่ ซึ่งนางวิไลฯ ได้รับว่านายเอกพจน์ฯได้มาถอดไว้เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการขออนุมัติหมายจับจากศาล จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าชุดสืบสวนได้ออกสืบสวนติดตามจนกระทั่งพบนายเอกพจน์ฯ หลบหนีมาอยู่ที่บริเวณข้างโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จึงได้ทำการจับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ว่านายเอกพจน์ฯกระทำผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”
โดยนายเอกพจน์ฯ ให้การรับสารภาพ ว่าเป็นผู้เอาทรัพย์ของนักท่องเที่ยวไปจริง สาเหตุที่ทำไปเพราะต้องการประชดเมีย ที่ตนสืบทราบมาว่าเมียมีผู้ชายคนใหม่ โทรศัพท์ตามเมียมาเคลียร์ปัญหาแต่เมียไม่ยอมมา จึงได้ก่อเหตุชิงทรัพย์เพื่อให้ตำรวจจับ ส่วนทรัพย์สินที่ได้มา ก็ไม่ได้นำไปขายแต่อย่างใด เพราะปรกติตนมีอาชีพ ขายส่งโรตีสายไหมอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามของกลางคืน นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ตามที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวให้หน่วยงานในสังกัดกวดขัน ป้องกันและดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ตลอดจนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดต่อนักท่องเที่ยว อันเกิดผลเสียหาย กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่ดีของประเทศไทย
สำหรับประวัติ นายเอกพจน์ ไตรรงค์ เคยถูกจับคดีจำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 84 เม็ด เมื่อปี 2554พื้นที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา โทษ 3 ปี รับสารภาพติดอยู่ 2 ปี 8 เดือน ออกมาเมื่อปี 2557
ภาพ-ข่าว เกียรติยศ ศรีสกุล –ยุพิน ศรีสกุล ผู้สื่อข่าว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา