มันไม่ใช่เรื่องเล็กนะ !? ชาวบ้านทนมานานนับปี พบ "สารเคมีในแหล่งน้ำสาธารณะ" ร้องเรียนมาแล้วหลายหน่วยงาน แต่ไร้การเหลียวแล!! (คลิป)

ชาวบ้านทนไม่ใหวนานนับปีหลังพบสารเคมีลงแหล่งน้ำสาธารณะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างชาวบ้านร้องต่อ สนง.ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่หลังจากได้ร้องไปหลายหน่วยงานไล้การเหลียวแล

วันที่ 26 มีนาคม เวลา 15.00 น. นายปรีดา เวทยาวงศ์ รองเลขาธิการ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงพื้นที่หมู่ 4 ตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง พบนางสุชาดา คำมี อายุ 42 บ้านเลขที่ 90 หมู่ 4 ตำบลบางบุตร สืบเนื่องจากนางสาวสุชาดา คำมี ได้ทำหนังสือร้องเรียนผ่านไปยังสำนักงานตรวจการแผ่นดินเรื่องมีน้ำเสียไหลเข้ามาในพื้นที่ทำมาหากินจนเกิดการเน่าเสียหน้าดินเสื่อมสภาพทำการเกษตรไม่ได้ต้นยางยืนต้นตาย นาข้าวต้นข้าวเน่าเสียหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ไม่ให้ความสนใจเคยทำหนังสือร้องเรียนไปหลายครั้งแต่ไม่เป็นผลโดยที่นางสาวสุชาดา คำมี ได้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ไว้แล้ว ซึ่งจากการลงพื้นที่ของผู้ตรวจการก็พบว่า บริเวณพื้นที่ดินของนางสาวสุชาดา คำมี ส่วนที่อยู่ติดกับแหล่งน้ำสาธารณะมีน้ำเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นเป็นวงกว้าง ต้นยางที่ปลูกอยู่ในพื้นที่บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ บริเวณโคนยางเริ่มเน่าดินมีสีเหลืองใบยางเริ่มร่วงหล่น ในแปลนาที่มีน้ำขังอยู่พบว่ามีคราบสนิมลอยอยู่เหนือผิวน้ำกระจายเต็มพื้นที่ ตรงบริเวณที่เคยมีน้ำท่วมถึงและวันนี้น้ำแห้งลงไปแล้วพบว่าหน้าดินมีสีดำมีคราบสนิมสีเหลือปนอยู่ ดินมีกลิ่นเหม็นคล้ายกำมะถัน ใกล้เคียงกับพื้นที่ดินของนางสาวสุชาดา คำมี มีโรงงานตั้งอยู่โรงงานหนึ่งชื่อ บริษัท วิน โพรเสส จำกัด ซึ่งจากสภาพแวดล้อมจึงเป็นไปได้ที่ว่าโรงงานเป็นผู้ปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำสาธารณะ

 

 

 

 

ซึ่งหลังจากลงพื้นที่แล้วนายปรีดา เวทยาวงศ์ ได้กล่าวว่า ตามหนังสือร้องเรียนของนางสาวสุชาดา คำมี ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เราพบว่าพื้นที่ทำกินของนางสาวสุชาดา คำมี เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างจริง แหล่งน้ำสาธารณะเน่าเสียเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ และจากการตรวจสอบไปยังโรงงานก็พบว่ายังมีการผลิตอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเรื่องที่อุตสาหกรรมจังหวัดระยองมีหนังสือสั่งการให้โรงงานหยุดประกอบกิจการชั่วคราวเพื่อแก้ไขเหตุเดือดร้อนรำคาญเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง นายดงพล รุจิธรรมรัช นายอำเภอบ้านค่าย เป็นประธาน เชิญผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนซึ่งประกอบด้วยนางสาวสุชาดา คำมี ผู้เดือดร้อนกรณีโรงงานทำน้ำเสียจนไหลเข้าไร่นาผู้ที่ทำหนังสือร้องเรียนถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประชาชนที่ได้รับผลกระทบในกรณีเดียวกัน กำนันตำบลบางบุตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลบางบุตร นายก อบต.บางบุตร อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข อบต.บางบุตร โดยประธานในที่ประชุมกล่าวเปิดประชุมว่า ตามที่โรงงานวินโพรเสสได้ปิดกั้นทางน้ำบริเวณโรงงานตามคำสั่งของอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังที่นาของผู้ร้องเรียนส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่พืชสวนไร่นาเป็นวงกว้าง ซึ่งหลังจากที่เกิดผลกระทบขึ้นมาแล้วเมื่อช่วงปลายปีอุตสาหกรรมจังหวัดระยองได้ลงคำสั่งให้โรงงานหยุดกิจการชั่วคราวและแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบ

 

 

แต่ทางผู้ร้องเรียนรวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบยืนยันว่าโรงงานไม่ยอมหยุดกิจการแต่ยังทำตามปกติ ตามหนังสือสั่งการของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินถึงจังหวัดระยองชี้แจงข้อเท็จจริงหนังสือด่วนที่สุดที่ ผผ 09/159 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 โดยก่อนหน้านี้ท่านปรีดา เวทยาวงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ลงพื้นที่และพบกับผู้ที่เดือดร้อนแล้วซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่ายังเกิดความเสียหายอยู่ การที่เชิญผู้เกี่ยวข้องทุกส่วนมาประชุมวันนี้เพื่อจะหาแนวทางแก้ไขและป้องกัน จึงได้เชิญตัวแทนของบริษัทเข้ามาชีแจง โดยทางบริษัท ได้ส่ง นายเกษม ศรีชมพู มาเป็นตัวแทน โดยที่ประชุมการติดตามมีบทสรุปว่า ตัวแทนจากบริษัทวินโพรเสส จำกัด จะนำข้อเสนอในที่ประชุมทุกหัวข้อเสนอต่อบรอดผู้บริหารเพื่อจัดทำงบประมาณลงมาแก้ไขปรับปรุงพร้อมทั้งการดูแลเยียวยาประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะทราบผลภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ด้านนายปรีดา เวทยาวงศ์ ได้กล่าวว่าจะนำผลการประชุมร่วมทุกภาคส่วนวันนี้ไปเสนอต่อสำนักงานตรวจการแผ่นดิน และจะเดินทางมาฝังผลการแก้ไขปัญหาของโรงงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ร้องเรียนตลอดจนประชาชนที่ได้รับผลกระทบเกิดความสบายใจปัญหาทุกอย่างต้องจบ

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว ราชัญ กองทอง ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวทีนิวส์จ.ระยอง