- 29 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 28 เม.ย. 2561 บริเวณพื้นที่เรือนจำเก่า (วัดขมิ้น) ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่าที่ร้อยตรีพิเชียน ลิมป์หวังอยู่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี สมทรงสรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์(ประเทศไทย ) จำกัด นายอิสสระพงษ์ แทนศิริ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และ โตโยต้ามอเตอร์ (ประเทศไทย ) จำกัด ร่วมแนะนำโครงการ “โตโยต้า เมืองสีเขียว อยุธยา “ ศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงาน ตั้งอยู่ หน้าตลาดหัวรอจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้แนวคิด “เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต”
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า สำหรับโครงการ “โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา” เป็นจังหวัดที่ 4 ที่โตโยต้าได้นำองค์ความรู้ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้ามาประยุกต์ใช้ และยังเป็นจังหวัดแรกที่ได้ต่อยอดองค์ความรู้โดยความร่วมมือกับเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ในการบูรณะเรือนจำเก่า หน้าตลาดหัวรอ บนพื้นที่ขนาด 8 ไร่ ให้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงาน ต่อจาก ศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน ”ชีวพนาเวศ” ในโรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ ผ่านการนำองค์ความรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมทั้ง 5 ด้านของโตโยต้า มาประยุกต์ใช้และนำเสนอเป็นแนวทางให้เกิดขึ้นภายในพื้นที่เมืองสีเขียวอัน ได้แก่ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ส่งเสริมการอนุรักษ์ต้นไม้ที่มีอยู่เดิม การปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยเน้นไม้ยืนต้นหรือสร้างสวนป่าในเมืองโดยใช้ความรู้ด้านการปลูกป่านิเวศตามหลักของ ศาสตราจารย์ ดร.อากิระ มิยาวากิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกป่าจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
การกำจัดขยะ โดยการจัดการขยะอย่างครบวงจรส่งเสริมการลดปริมาณขยะ ลดการใช้สินค้าที่ก่อให้เกิดขยะ การคัดแยกขยะและการนำไปใช้ประโยชน์ ตามหลักสุขาภิบาล การอนุรักษ์น้ำ การส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า การประหยัดน้ำ การนำทรัพยากรน้ำมาใช้อย่างรู้คุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด การลดการใช้พลังงานและการใช้พลังงานทางเลือก ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ หลอดไฟ LED การเดินทางอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการเดินทางที่ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง การเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง การจัดการด้านผังเมืองให้เป็นเมืองที่มีการใช้พลังงาน ในการเดินทางน้อยที่สุด เช่น การสนับสนุนให้ใช้จักรยาน การใช้รถพลังงานไฟฟ้า HA:MO
งานในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ประเทศไทยจำกัดร่วมกับเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาเรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้แทนจำหน่าย Toyota ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อแนะนำโครงการและส่งเสริมให้คนในชุมชนท้องถิ่นสามารถใช้ชีวิตอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติภายในงานได้มีการจัดกิจกรรมร่วมกับคนในชุมชนท้องถิ่นกว่า 300 คนโดยการปลูกปาล์นิเวศอย่างยั่งยืนเพิ่มพื้นที่สีเขียว ทั้งนี้ ยังได้มีการเปิดตัว “เยาวชนโตโยต้าเมืองสีเขียว” จากความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยาในการคัดสรรเยาวชนที่ เป็นตัวแทนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาเรียนรู้การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า เพื่อมอบหมายหน้าที่ให้เป็นผู้บรรยายองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมในศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ ให้กับชุมชนท้องถิ่น นักท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจ ต่อไปในอนาคต ปัจจุบันโครงการ “โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา” กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 14 เดือน และมีกำหนดเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งในระหว่างการก่อสร้าง โตโยต้าจะเปิดพื้นที่บางส่วน สำหรับการจัดกิจกรรมร่วมกับคนในพื้นที่ อาทิ การจัดกิจกรรมออกกำลังกายในสวน การจัดตลาดขายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ช่วงท้าย นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา “เป็นความตั้งใจของโตโยต้าที่จะนำเสนอการใช้ชีวิตในเมืองอย่างมีคุณภาพ ร่วมกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นแหล่งส่งเสริมการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมนอกห้องเรียน ให้กับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ละแวกใกล้เคียง โดยในอนาคต โตโยต้าคาดหวังว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเยี่ยมเยือนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตลอดจนสามารถจุดประกาย ให้ผู้ที่มาเยี่ยมชม ได้เกิดจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมพร้อมนำไปสู่การลงมือปฏิบัติอันจะเป็นการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นเมืองสีเขียว ให้เกิดความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมเพื่อธรรมชาติชีวิตต่อไป สำหรับ โครงการนี้นับได้ว่าจะเป็นปอดแห่งใหม่ให้กับพี่น้องชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกที่หนึ่ง
ภาพ-ข่าว เกียรติยศ ศรีสกุล-ยุพิน ศรีสกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวที นิวส์ จ.พระนครศรีอยุธยา