- 28 พ.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีที่มีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลหนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ทางการเกษตรที่อยู่ริมห้วยน้ำสานเป็นบริเวณกว้าง จากการที่มีฝนตกหนักเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 ทำให้มีน้ำเอ่อล้นลำห้วย ท่วมขังนาน 3 วัน ทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายบางส่วน ซึ่งชาวบ้านระบุสาเหตุอาจจะมาโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำห้วยน้ำสาน ตั้งอยู่บ้านสันติสุข หมู่ 7 ต.หนองบัว อ.ภูเรือ ซึ่งเป็นฝายคอนกรีตมีประตูระบายน้ำ 3 บาน เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนกันยายน 2558 แล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2559 ใช้งบประมาณ 44.7 ล้านบาท ชาวบ้านเชื่อว่าดินโคลนที่อยู่ริมห้วยบริเวณโครงการได้พังลงในน้ำทำให้ลำห้วยตื้นเขินและเป็นเหตุให้น้ำท่วมนั้น
นายพิสิทธิ์ ทิพย์โอสถ ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 3 อุดรธานี ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า โครงนี้เกิดจากความต้องการของประชาชนในพื้นที่ อบต.หนองบัว ได้ทำเรื่องขอความอนุเคราะห์ด้านงบประมาณมายังสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 3 อุดรธานี เพื่อปรับปรุงฟื้นฟูทางน้ำห้วยน้ำสาน แก้ปัญหาน้ำแล้ง และน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านป่าจันตมและบ้านสันติสุข สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 3 อุดรธานี จึงทำเรื่องขออนุมัติงบประมาณมาดำเนินโครงการก่อสร้างฝายคอนกรีต โดยก่อนเริ่มโครงการได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และผลกระทบด้านอื่นๆ ตามขั้นตอนของกฏหมาย ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ หรือแม้กระทั่งการออกแบบที่เหมาะสม
นายพิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างมีอุปสรรค โดยมีเจ้าของที่ดินบางรายไม่ยินยอมให้ทำคันดินกั้นน้ำ และมีการเรียกร้องเงินค่าชดเชยที่สูงมาก ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำไม่มีเงินจ่ายค่าชดเชย เหมือนดังเช่นกรมชลประทาน ทำได้เพียงขอความร่วมมือให้ประชาชนเสียสละที่ดินบางส่วนเพื่อส่วนรวม ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้เกิดจากตัวฝายกั้นน้ำ แต่เกิดจากปริมาณน้ำที่ไหลมาจากบนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงและบนภูเรือ ไหลมาบรรจบกัน ทำกระแสน้ำดันกันเอ่อล้นลำห้วยน้ำสานและลำห้วยสาขา บริเวณโครงการได้ขุดเปิดทางน้ำกว้างและลึกกว่าเดิมมาก ซึ่งแต่ละปี ก่อนจะก่อสร้างโครงการ ซึ่งเห็นได้จากระดับน้ำทั้งหน้าฝายและท้ายฝายมีระดับเท่ากัน และน้ำมีสีขุ่นแดงมาก แสดงให้เห็นว่า หน้าดินบนภูเขาถูกกระแสน้ำชะล้างลงมาอย่างรวดเร็ว ประกอบกับด้านท้ายฝาย ลำห้วยน้ำสานยังคงตื้นเขิน มีกอไผ่และต้นไม่ปกคลุมขวางทางน้ำอยางหนาแน่น อย่างไรก็ตาม น้ำท่วมครั้งนี้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ ทุกครั้งก็ท่วมเพียง 3-4 วัน และขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
นายพิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า จากปัญหาดังกล่าว ตนขอยืนยันว่าทางสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 3 อุดรธานี ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้หาทางแก้ปัญหา โดยได้ปรึกษากับทาง อบต.หนองบัว และชาวบ้าน อาจจะมีการขุดลอกเปิดทางน้ำห้วยน้ำสานด้านท้ายฝาย ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดิน พร้อมทั้งกำลังจะมีการจัดตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำที่มีคณะกรรมการเป็นชาวบ้าน ดูแลบริหารจัดการน้ำร่วมกันเอง การเปิดปิดประตูน้ำต้องอยู่ภายใต้การตัดสินใจของคณะกรรมการองค์รผู้ใช้น้ำ ในฤดูฝน เมื่อมีฝนตกหนักบนภูหลวงหรือภูเรือ ต้องมีการแจ้งเตือนประสานงานกับองค์กรผู้ใช้น้ำ การใช้ประโยชน์จากฝายชุมชนจะเป็นผู้กำหนด เป็นการแก้ปัญหาระยะยาว ชาวบ้านสามารถใข้ประโยชน์จากโครงการนี้ได้อย่างยั่งยืน ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 3 อุดรธานี กล่าว.
ภัทราวุธ บุญประเสริฐ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.เลย