ผู้ว่าฯ นอภ.สังขะ รุดตรวจสอบโครงการอาหารกลางวัน หลังสื่อนำเสนอข่าวส่อทุจริต ครูยันถูกสั่งให้หักวันละ 1,000 บาท ขณะที่ผอ.ยันโปร่งใสตรวจสอบได้

วันนี้(15 มิ.ย.61)ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานความคืบหน้า หลังนำเสนอข่าว กรณี จ่าประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต สส.สุรินทร์ เขต 6 พรรคเพื่อไทย ,นายสมยศ  ดวงอินทร์ ผู้ใหญ่บ้านตราด  ผู้นำชาวบ้าน และผู้ปกครอง ร้องเรียน โครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนจตุคามวิทยา บ้านตราด  ต.ตาคง  อ.สังขะ จ.สุรินทร์  ส่อทุจริต เบิกค่าอาหารกลางวัน นักเรียน จำนวน 175 คน หัวละ 20 บาท เป็นเงิน มื้อละ 3,210 บาท แต่กลับใช้เงินผิดจุดประสงค์  โดยมีการหักหัวคิวเก็บไว้วันละ 1,000 บาท ตามที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อไปแล้วนั้น

 

ซึ่งเมื่อวานนี้(14 มิ.ย.61)จ่าประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต สส.สุรินทร์ เขต 6 พรรคเพื่อไทย, นายสมยศ  ดวงอินทร์  ผู้ใหญ่บ้านตราด  ผู้นำชาวบ้าน และผู้ปกครอง ได้บุกเข้าตรวจสอบ โครงการอาหารกลางวัน พบมีเพียงกับข้าว เป็น แกงพะโล้ 2 หม้อ ซึ่งเป็นไข่ไก่ฟองเล็กๆ มากใส่เศษหมูสามชั้นไม่มากนัก แจกจ่ายให้กับเด็กนักเรียนคนละ 1 ฟอง พร้อมผลไม้ที่เป็นส้มเขียวหวานลูกเล็กๆเท่ากับลูกมะนาวคนละ 1 ลูก  และข้าวที่ใช้ในการรับประทานอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนทางโรงเรียน ก็ไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้รวมทั้งภาชนะที่ใช้ในการใส่อาหารทางโรงเรียน ก็ไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้กับเด็กนักเรียนแต่อย่างใด

ซึ่งเมื่อวานนี้(14 มิ.ย.61)จ่าประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต สส.สุรินทร์ เขต 6 พรรคเพื่อไทย, นายสมยศ  ดวงอินทร์  ผู้ใหญ่บ้านตราด  ผู้นำชาวบ้าน และผู้ปกครอง ได้บุกเข้าตรวจสอบ โครงการอาหารกลางวัน พบมีเพียงกับข้าว เป็น แกงพะโล้ 2 หม้อ ซึ่งเป็นไข่ไก่ฟองเล็กๆ มากใส่เศษหมูสามชั้นไม่มากนัก แจกจ่ายให้กับเด็กนักเรียนคนละ 1 ฟอง พร้อมผลไม้ที่เป็นส้มเขียวหวานลูกเล็กๆเท่ากับลูกมะนาวคนละ 1 ลูก  และข้าวที่ใช้ในการรับประทานอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนทางโรงเรียน ก็ไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้รวมทั้งภาชนะที่ใช้ในการใส่อาหารทางโรงเรียน ก็ไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้กับเด็กนักเรียนแต่อย่างใด

 

นายสมยศ  ดวงอินทร์ ผู้ใหญ่บ้านตราด กล่าวว่า วันนี้กับเมื่อวานนี้ต่างกันเยอะ ดูจากอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ข้าวห่อมาจากบ้าน ตั้งจานใส่แกงพะโล้ 3-4 ชาม มีส้มเขียวหวานวางระเนระนาดกับพื้น มันไม่มีระเบียบเหมือนกับวันนี้ ดูเหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย  ดูแล้วลุกๆหลานๆมีความสุข หลังสื่อนำเสนอข่าว มีการเปลี่ยนแปลงชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ

 

นายแสวง ยอดเกษ ครูผู้รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวัน  กล่าวว่า ตนในฐานะเจ้าของโครงการ และได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้เป็น ผู้รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวัน ตนก็ได้รับนโยบายและคำสั่งจากผู้อำนวยการโรงเรียน ทำหนังสือเสนองบประมาณจาก อบต.คาคง ก้สนับสนุนงบประมาณมา  ตนก็ทำเรื่องยืมเงินทุกๆ 10 วัน ตามที่ได้รายหัวมา ทางผอ.รร ก็ได้เรียกประชุมกันว่า งบประมาณวันละ 3,210 บาท โดยมีผอ.รร.ประธาน สั่งซื้ออาหารวันละ 2,000 บาท กั้นเงินไว้วันละ 1,000 บาท เพื่อให้ ผอ.บริหาร ถ้าจะใช้จ่ายอะไรก็ให้มาบอก ผอ. ตนก็ทำตามมติที่ประชุมโดยมี ผอ.เป็นประธาน อาหารกลางวัน เงินที่หักไว้วันละ 1,000 บาท ตกเดือนละ 20,000 บาท ส่วนเงินตนไม่ทราบจริงๆเพราะ ผอ.เอาไปบริหาร เพราะผอ.จะเรียก ครูแสวงเอาเงินมาทำธุระหน่อย เป็นครั้งละ 2,000-3,000 บาท ตนก็ให้ไป  เงินโครงการอาหารกลางวันตนตั้งเบิกทุกๆ 10 วัน ตนยืนยันไม่ได้ทุจริตโครงการอาหารกลางวัน และไม่เคยเห็นด้วยกับนโยบายของ ผอ. แต่ด้วยที่ตนไม่ผู้ใต้บังคับบัญชา จึงพูดอะไรไม่ได้มากนัก เคยไปหาจ่าประสิทธิ์ถึงบ้าน  เพื่อปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้น  ตนก็ได้แต่ทำตามคำสั่ง ตนก็เป็นครูใหม่กับครูผู้ช่วยอีกคน  ไม่มีใครอยากทำ ถ้าตนไม่ทำเด็กนักเรียนก็ไม่มีอะไรจะรับประทานอาหารกลางวัน อีกวันเดียว อบต.ส่งหนังสือมาให้ทางโรงเรียนส่งโครงการ หาใครในโรงเรียนจะมารับผิดชอบโครงการอาหารกลางวันก็ไม่ได้  ตามกฎหมาย และระเบียบ สพฐ.ให้ซื้ออาหารกลางวันทั้งหมด  ผิดหรือถูกต้องไปดูที่ผู้บริหารเอาเงินจำนวนวันละ 1,000 บาทไปใช้ทำอะไร ถ้าเอาไปใช้ซื้อเครื่องปรุง ก็ถูกตามกฎระเบียบ ถ้าเงินที่ซื้อไม่พอพียงก็จะขอเงินจาก ผอ.มาจ่ายตามบิล ร้านค้าหรือสหกรณ์ เพราะเงิน 2,000 บาท จะซื้ออาหารกลางวันก็จะไม่พอแล้ว
 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวประจำจ.สุรินทร์ ได้รับโทรศัพท์จาก นายสุเทียบ จันทสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนจตุคามวิทยา เพื่อขอชี้แจงว่า ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ลงพื้นที่ ตนไม่อยู่ที่โรงเรียนเพราะผู้บริหาร สพฐ.เขต 3 เรียกมาสอบถามข้อเท็จจริง  ตนในฐานะผู้บริหาร และเป็นลูกบ้านชาวบ้านตราดแห่งนี้ ขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด  โดยใช้งบวันละ 3,120 บาท จากค่าหัวเด็กนักเรียนจำนวน 157 คน ซึ่งตกหัวละ 20 บาท ได้มีการตามที่จัดสรรมา สามารถตรวจสอบได้  ส่วนเงินที่หักไว้วันละ 1,000 บาท เป็นการกั้นเงินเอาไว้สำหรับการบริหารเบ็ดเตล็ด  ใช้จ่าย หมุนเวียน การทำนา ปลูกไผ่กิมซุง และเกษตรพอเพียง เลี้ยงเห็ด และอุดหนุนสหกรณ์ เพื่อนำมาเป็นอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนต่อไป

 

ด้าน นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า เงินโครงการอาหารกลางวันต้องจ่ายซื้อเป็นค่าอาหารทั้งหมด จะกั๊กเก็บเอาไว้ไม่ได้ ต้องดูที่มาตรฐานการจัดการ บริหารของทางโรงเรียน  ซึ่งทางจังหวัดสุรินทร์พยายามเข้มงวดตรวจสอบให้ ค่าอาหารเด็กรายหัว มีการใช้ครบเต็มจำนวน เพื่อประโยชน์ทางสารอหารที่นักเรียนจะได้รับ  ซึ่งศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ และ ผอ.สพฐ.เขต 3 พยายามตรวจสอบกันอยู่แล้ว  จากการตรวจสอบหลายๆโรงเรียนพบว่า ไม่มีปัญหา มีน้อยมากที่พบ อาหารกลางวันที่น้อยมากกว่าที่ควรจะเป็น  ได้ลงมาแก้ไขและกำชับให้ทางโรงเรียนดูแลให้ดี ว่า ควรจะมีรายการอาหารกลางวันเป็นรายสัปดาห์ ดูสารอาหารที่เด็กควรจะได้รับ ส่วนกรณีชาวบ้านร้องเรียน โครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนจตุคามวิทยา บ้านตราด  ต.ตาคง  อ.สังขะ จ.สุรินทร์  ส่อทุจริต จะมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ภาพ/ข่าว ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์