หรือกฎหมายใช้ได้กับคนจน..!! 10 โรงแรมเถื่อนหัวหิน ยังลอยนวลเปิดให้บริการ หลังถูกแจ้งความนาน 2 เดือน ข้อหาใช้ใบอนุญาตปลอม!?

วันที่ 15 มิถุนายน นายชัยชาญ มูลมาก จ่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาโรงแรมเถื่อนระดับจังหวัด เปิดเผยว่า หลังจากฝ่ายปกครองเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับโรงแรม 10 แห่งที่ อ.หัวหิน ข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ ใช้เอกสารราชการเป็นเท็จ เปิดโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรงแรม 2547 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่ามีการใช้ใบอนุญาตปลอมทั้งหมด แต่ขณะนี้โรงแรมยังเปิดให้บริการรับลูกค้าตามปกติ เนื่องจากอยู่ระหว่างรอการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 ตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่นทั้งเทศบาลหัวหินและ อบต.หินเหล็กไฟ เพื่อสั่งระงับการใช้อาคาร หลังตรวจสอบพบใช้อาคารที่พักอาศัยเปิดกิจการโรงแรม ล่าสุดจังหวัดได้ทำหนังสือถึงผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น ( อปท.) ทั้ง 2 แห่ง เร่งรัดให้ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมาล่าช้าพอสมควร แต่ขอยืนยันว่าปกครองจังหวัดมีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อสั่งปิดโรงแรมทั้งหมดเพื่อไม่ให้เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

 

 

นายสมบูรณ์ ภู่พันธ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักการช่าง เทศบาลเมืองหัวหิน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอผู้บริหารลงนามในคำสั่งระงับใช้อาคารโรงแรม จำนวน 5 แห่ง จากจำนวน 8 แห่ง คาดว่าจะทำการปิดหมายหน้าอาคารได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนโรงแรมอีก 3 แห่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลโดยแสวงหาข้อเท็จจริงว่าอาคารดังกล่าวมีบุคคลหรือกลุ่มนิติบุคคลรายใดเป็นเจ้าของกิจการตัวจริง เพื่อไม่ให้มีปัญหาทางกฎหมายในภายหลัง ขณะที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่อ้างว่ามีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมอย่างชัดเจน และยืนยันว่าหากทางราชการพบว่าเป็นของปลอม หน่วยงานระดับจังหวัดจะต้องใช้อำนาจทำการเพิกถอนเพื่อสั่งปิดกิจการโดยไม่ได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร

 

 

 

 

ด้าน พ.ต.ท.ยศวริศ ทองสงโสม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากฝ่ายปกครองเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับข้าราชการ 3 ราย กรณีร่วมกันทุจริตออกใบอนุญาตปลอมให้โรงแรม 10 แห่ง ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐหรือ ปปท. ดำเนินการ ส่วนกรณีที่นายสมมิตร ศิลป์ประเสริฐ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าแจ้งความและให้การว่าไม่เกี่ยวข้องกับลายมือชื่อที่ปรากฎในใบอนุญาตปลอม รวมทั้งกรณีที่มีการนำสำเนาการพุดคุยในไลน์แอฟพลิเคชั่นเพื่อซื้อขายใบอนุญาตโรงแรมกับข้าราชการรายหนึ่งที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีนั้น จะเป็นหน้าที่ของ ปปท.เพื่อไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งหมดทั้งลายมือชื่อการลงนามในใบอนุญาตปลอมและการพิมพ์ข้อมูลผ่านไลน์ฯว่าปรากฎจากเครื่องมือสื่อสารของบุคคลใดในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2558.

 

 

ภาพ/ข่าว พอใจ จันทนา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ประจวบคีรีขันธ์