- 18 ก.ค. 2561
ตะลึงพบรถขนกัญชาอัดแท่งน้ำหนัก 559 กก.มูลค่า 8,385,000 บาท จอดทิ้งไร่มันจอดทิ้งไร่มันสำปะหลัง หากหลุดไปขายต่างประเทศ มูลค่าจะเพิ่มอีกหลายเท่าตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 18 ก.ค. 61 ที่ด่านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมาพลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พลตำรวจตรีสุคุณ พรหมายน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พลตำรวจตรี วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พันตำรวจเอก ดิเรก ปลั่งดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และ พันตำรวจเอก หัสพงศ์ เติมศิริตังคโณบล รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกันแถลงข่าวคดี “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกระทำการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน” คดีอาญาที่ 355/2561 ของ สถานีตำรวจภูธรปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา พร้อมทั้งแถลงข่าว จับกัญชาอัดแท่งทั้งสิ้น 559 น้ำหนักประมาณ 559 กิโลกรัม ซึ่งหากนำมาจำหน่ายในเขตจังหวัดนครราชสีมา และพื้นที่ตอนใน จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 15,000 บาท รวมมูลค่าทั้งหมด 8,385,000 บาท
พลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า สำหรับ คดี “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกระทำการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน” คดีอาญาที่ 355/2561 ของ สถานีตำรวจภูธรปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นคดีที่ผู้ต้องหาชักชวนเกษตรกรให้เข้าร่วมโครงการเพาะปลูกมันเทศญี่ปุ่น เพื่อให้เกษตรกรที่ปลูกขายยอดพันธุ์และหัวมัน ซึ่งบริษัทฯ จะรับซื้อหัวมันและยอดพันธุ์คืนทั้งหมด แต่เกษตรกรจะต้องซื้อยอดพันธุ์ จาก บริษัทฯ และเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนมาก เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายราย และปัจจุบันยังพบว่ามีการหาสมาชิกอยู่ โดยทางตำรวจภูธรภาค 3 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง ผลการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า พฤติการณ์การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกระทำการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน” จึงได้ไปยื่นคำร้องขอให้ศาลจังหวัดนครราชสีมา ออกหมายจับ ผู้ต้องหา และศาลอนุมัติออกหมายจับไว้แล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสาม นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปักธงชัย ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และในวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปยื่นคำร้องฝากขังที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา และขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว บัดนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนครราชสีมา สำหรับมาตรการยึด อายัด ทรัพย์สินของผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนได้มีหนังสือไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการยึด อายัด ทรัพย์สินของผู้ต้องหา เป็นอีกส่วนหนึ่งแล้ว ทราบว่าบัดนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ ปปง.ในคดีดังกล่าวคาดว่า จะสรุปสำนวนการสอบสวน เสนออัยการจังหวัดนครราชสีมา ภายในสิ้นเดือน กรกฎาคม 2561
พลตำรวจตรี วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า วันนี้ได้มีการตรวจยึดกัญชาแท่งอัดแท่ง น้ำหนักประมาณ 559 กิโลกรัม โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้เรียกประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน และชุดป้องกันปราบปราม เพื่อตั้งจุดตรวจจุดสกัดยาเสพติด ในห้วงระดมกวาดล้างอาชญากรรม ขณะเตรียมการตั้งจุดตรวจจุดสกัด มีชาวบ้านมาแจ้งว่า พบรถยนต์ต้องสงสัยหลบหนีจากจุดตรวจจุดสกัดยาเสพติด จอดอยู่บริเวณไร่มันสัมปะหลัง ถนนหนองหอย - หนองบัวโคก ตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา ชุดสืบสวน และชุดป้องกันปราบปราม จึงได้ติดตามไปยังจุดที่รับแจ้งเหตุดังกล่าว พบรถยนต์ ยี่ห้อ ISUZU แคป สีบรอนทอง เลขทะเบียน พค 7585 นครราชสีมา แต่ไม่พบผู้ขับขี่ จากการตรวจสอบ พบกัญชาอัดแท่งบรรจุในถุงกระสอบปุ๋ย ห่อด้วยถุงพลาสติก สีดำ จำนวน 14 ถุง ถุงละ 40 ห่อ ห่อละประมาณ 1 กิโลกรัม รวมกัญชาอัดแท่งทั้งสิ้น 559 น้ำหนักประมาณ 559 กิโลกรัม ซึ่งหากนำมาจำหน่ายในเขตจังหวัดนครราชสีมา และพื้นที่ตอนใน จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 15,000 บาท รวมมูลค่าทั้งหมด 8,385,000 บาท และหากหลุดไปจำหน่ายถึงต่างประเทศ มูลค่าจะเพิ่มอีกหลายเท่าตัว จึงได้ร่วมกันตรวจยึด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว ไพฑูรย์ คาบพิมาย ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครราชสีมา