- 21 ก.ค. 2561
กระหึ่มทั้งจังหวัด..!! ปฏิบัติการปิดเมืองรวบสายแว้น กว่า 120 คัน พร้อมรวบตัวแอดมิน เพจ มิดไนท์แปดริ้ว ที่นัดรวบตัวซิ่งรถ
เมื่อ เวลา 01.00 น. ของวันนี้ 21 กรกฎาคม 2561 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อม พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ และผู้กำกับการสถานีตำรวจในสังกัดภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 18 สถานี ตลอดจนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวผลปฏิบัติการกวดขันและป้องกันการแข่งขันรถในทางสาธารณะในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 120 คัน เยาวชนและประชาชนจำนวน 121 ราย และท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐาน จำนวน 93 อัน พร้อมนำตัว แอทมินเพจเฟสบุ๊ค มิดไนท์ แปดริ้ว และ แอทมินเพจเฟสบุ๊ค รถซิ่ง 331 มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชล
ด้าน พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ตามคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 มี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานรองหัวหน้าคณะทำงาน โครงการอบรมหลักสูตร สร้างภูมิคุ้มกัน สานฝันเด็กและเยาวชนไทย ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินการปราบปรามกลุ่มเยาวชนที่มีพฤติกรรมมั่วสุมแข่งขันรถในทางสาธารณะ หลังก่อนหน้านี้ มีเพจเฟสบุ๊ค มิดไนท์ แปดริ้ว ได้โพสต์ข้อความชักชวนให้รวมตัวกันออกมาแข่งรถในคืนวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 บนถนนสิริโสธร จนมีผู้กดถูกใจและแชร์โพสต์ดังกล่าวออกไปจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนหาข่าว จนทราบว่าแอดมินเพจเฟสบุ๊ค มิดไนท์ แปดริ้ว คือนาย เอ นามสมมุติ อายุ 16 ปี ( นายธนพงษ์ เรืองสวัสดิ์ ) ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการกดดันจนในที่สุดนายเอ ได้เดินทางเข้ามามอบตัว และดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ แอดมินเพจ รถซิ่ง 331 และ เจ หลักเจ็ด ทราบชื่อต่อมา คือนายรัฐพงศ์ คำบรรจง อายุ 25 ปี ซึ่งมีพฤติกรรมชักชวนเยาวชนออกมารวมตัวแข่งขันรถยนต์ บริเวณทางหลวงหมายเลข 331 ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราและชลบุรี
นอกจากนี้ในช่วงเช้าก่อนเริ่มปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสีย และร้านแต่งรถจักรยานยนต์ จำนวน 101 ร้าน และดำเนินการจับกุม จำนวน 4 ร้าน ยึดท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวนมาก พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด พบสารเสพติดในปัสสาวะจำนวน 3 ราย แบ่งเป็น ผู้ใหญ่ 1 ราย และเยาวชนจำนวน 2 ราย พร้อมกันนี้ได้ประสานผู้ปกครองมาดำเนินการรับตัวเยาวชนกลับบ้าน พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ตระหนักถึงผลร้ายในการแข่งขันรถจักรยานยนต์บนถนน ก่อนจะนำเด็กเยาวชนทั้งหมดดำเนินการส่งตัวเข้ารับการอบรม ส่วนรถจักรยานยนต์ทั้งหมด ได้ดำเนินการตรวจยึดไว้เพื่อรอการตรวจสอบเอกสาร และการดัดแปลงสภาพ โดยขอให้ผู้ปกครองนำเอกสารของรถมาแสดง หากไม่มีจะทำการตรวจยึดตามกฎหมายต่อไป.
ภาพ / ข่าว ก้องเกียรติ พุทธิรังสิมาภรณ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ฉะเชิงเทรา