- 24 ก.ค. 2561
ฟังชัดๆ จากปากครูเบี้ยวหนี้หรือไม่ ประธานชมรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นหนี้สินวิกฤติครูชำนาญการพิเศษ จ.ลำปาง และอดีตครูรวมตัวร้องนายกฯตู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 23 ก.ค.61 ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีกลุ่มอดีตครูเกษียณออายุราชการ ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดลำปาง นำโดย นาย สุวัช ศรีสด ประธานชมรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่เป็นหนี้สินวิกฤติ ครูชำนาญการพิเศษ จังหวัดลำปาง และอดีตครูซึ่งเดินทางมาจากอำเภอด่านขุนทด และอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีฯผ่านสื่อมวลชน โดยมีเอกสารเป็นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเอกสารหลักฐานรายชื่อผู้กู้เงินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตครูให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีความภาคภูมิในเกียรติของวิชาชีพ ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนด้วยวิถีพอเพียง เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินจากกลุ่มครูที่เป็นหนี้วิกฤติ อัตราดอกเบี้ย 3.50 บาท
ด้าน นาย สุวัช ศรีสด ประธานชมรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่เป็นหนี้สินวิกฤติ ครูชำนาญการพิเศษ จ.ลำปาง กล่าวว่า ตามที่ได้มีภาพของนำเสนอข่าวว่าครูไม่ชำระหนี้ตามสื่อต่าง ๆ นั้น เป็นเพียงการแสดงสัญญาลักษณ์เพียงอย่างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งก็เปรียบเสมือนกับผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรหากมีมากล้นตลาดจนไม่สามารถขายได้ ก็มีการนำผลผลิตมาเททิ้ง ส่วนวันนี้ตนเองและกลุ่มครูมีข้อเรียกร้องคือ เราไม่ได้ต้องการที่จะให้ทางรัฐบาลมายกหนี้ให้ เพราะทุกคนยอมจ่ายหนี้ แต่เราเพียงขอความเมตตาจากรัฐบาลเพราะที่ผ่านมากลุ่มเราได้รับความเดือดร้อน และจากข้อสั่งการให้ช่วยเหลือกลุ่มครู แต่มีปัญหาคือเรื่องของความช่วยเหลือยังไม่ลงมาถึงกลุ่มครู ดังนั้นตนเองและกลุ่มครูจึงอยากวอนให้ทางสื่อมวลชนได้ส่งผ่านไปยังนายกรัฐมนตรีฯ ว่า ขอให้ช่วยเหลือกลุ่มครูด้วย โดยขอให้มีการรวมหนี้ ลดดอก และขยายเวลาในการส่งฯ เพียงเท่านี้กลุ่มครูก็ไม่เดือดร้อนแล้ว
ส่วนที่มีเป็นประเด็นมากในขณะนี้ว่าครูเบี้ยวหนี้นั้น ตนเองขอชี้แจงว่าในจิตวิญญาณของครู เชื่อว่าไม่มีใครทำอย่างนั้นแน่นอน โดยเฉพาะในกลุ่มของตนเองซึ่งเคยยื่นหนังสือมาตลอด และก็ไม่เคยบอกเลยว่าจะเบี้ยวหนี้เพราะที่ผ่านมาก็รับมาตลอดว่าเป็นหนี้ฯ และก็ไม่ได้ต้องการที่จะให้ใครมายกหนี้ฯให้ด้วย เพียงแต่อยากจะขอความเมตตาว่า ตั้งกองทุนสนับสนุนพิเศษเพื่อความมั่นคง ชพค. ที่ออมสินมอบให้กับ สกสค. มีอยู่แล้ว เอาเงินตรงนี้มาตั้งกองทุนเท่านี้ก็จบ สามารถทำได้ ซึ่งครูที่เดือดร้อนนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นครูบำนาญ ส่วนครูที่กำลังเกษียณนั้นถ้าเงินประจำหรือที่เรียกว่าเงินวิริยะฐานะ หายไป ก็จะไม่พอจ่ายและเมื่อไม่พอจ่ายก็เป็นปัญหา เพระทุกวันนี้ยอมรับว่าครูเป็นหนี้หลายด้าน ดังนั้นหากความเมตตาตรงจุดนี้สัมฤทธิ์ผลและเห็นความสำคัญของพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ เพียงแค่รวมหนี้ ลดดอก ขยายเวลา ให้เท่านั้นก็สามารถช่วยครูได้แล้ว เพราะที่ผ่านมาก็มีโมเดลที่ทำสำเร็จมาแล้ว ดังนั้นตนเองขอยีนยันว่าไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเบี้ยวหนี้แต่อย่างใด
ภาพ/ข่าว ไพฑูรย์ คาบพิมาย ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครราชสีมา