อภินิหารหลวงพ่อเงินไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! ตร.ถือหมายจับรวบอดีต สจ.แกนนำป่วนวัดหลวงพ่อเงินบางคลานทำเอากลุ่มผู้ชุมนุมแตกฮือ (คลิป)

วันที่ 25 ก.ค. 2561   ความคืบหน้าและความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ที่วัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน  เป็นเหตุต่อเนื่องมายาวนานกว่า 4 ปี เป็นคดีความฟ้องร้องกันในศาลแพ่ง ศาลอาญา ศาลปกครองที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากอดีตไวยาวัจกรของวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ได้ทำหนังสือร้องเรียนชี้เบาะแสการประพฤติตนที่ไม่เหมาะสมและการบริหารเงินบริจาคและเงินที่ได้จากการจำหน่ายวัตถุมงคล ว่า ส่อไปในทางไม่โปร่งใส จากนั้นคณะสงฆ์และพระผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ปกครองในคณะสงฆ์ได้ทำการสอบสวนและชี้มูลความผิดเมื่อปี 2557 ให้ปลด เจ้าอาวาสวัดบางคลานในขณะนั้นออกจากตำแหน่ง จากนั้นได้แต่งตั้ง พระพิสุทธิวรากร  ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน แต่ จากวันนั้นถึงวันนี้ไม่สามารถเข้าวัดหรือไปปฏิบัติกิจในฐานะรักษาการเจ้าอาวาสได้ เนื่องจากอดีตเจ้าอาวาสที่ถูกปลดไปนั้นดื้อแพ่งไม่ยอมส่งมอบหน้าที่และทรัพย์สิน โดยมีกลุ่มบุคคลหรือลูกศิษย์รวมตัวกันก่อความวุ่นวายและฟ้องร้องเป็นคดีความ จนล่าสุดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 ทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยที่เป็นกลุ่มของอดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานที่ถูกปลดไปก็ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยคู่ความที่ศาลยุติธรรมจังหวัดพิจิตรมีผลตามข้อตกลงว่าจะยินยอมไม่คัดค้าน ไม่ขัดขวาง ในการที่ พระพิสุทธิวรากร  ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ในปัจจุบันนี้ และมีคำข้อตกลงกันว่าในวันที่ 23 กรกฎาคม 2561  ทั้งสองฝ่ายจะปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้ไกล่เกลี่ยคู่ความ จึงเป็นที่มาของการปฏิบัติตามรายงานกระบวนพิจารณาไกล่เกลี่ยคู่ความ ซึ่งในวันที่ 23-24 กรกฎาคม 2561 พระพิสุทธิวรากร  ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน พร้อมด้วย นายประพันธ์ ตั้นวัฒนา ผู้ตรวจราชการ สนง.พระพุทธศาสนาแห่งชาติ  พร้อมด้วย นายกิจชัย บุญปู่  ทนายความ ได้เป็นผู้นำตำรวจ-ทหาร-ปกครอง เกือบ 100 คน ท่ามกลางการขัดขวางของชาวบ้านแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้เข้าตรวจนับเงินในตู้บริจาค 27 ตู้ ได้เงินสด 4 ล้านบาทเศษ จึงนำเข้าฝากธนาคารที่เป็นบัญชีของวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน

 

ล่าสุดวันนี้ 25 ก.ค. 2561 พระพิสุทธิวรากร  ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ในปัจจุบันนี้ ก็จะเข้าดำเนินการต่อเนื่องเพื่อจะตรวจนับวัตถุมงคลและบัญชีด้านการเงินต่างๆ แต่ปรากฏว่าได้มี ดร.กิตติ์ธเนศ  โภคินบุญญารัศมิ์ หรือ  ที่ชาวพิจิตรรู้จักกันในนามของนายสุภรณ์ พรธาดาวิทย์ “เสี่ยฮวด”  อดีต ส.จ.พิจิตร  อายุ 52 ปี พาชาวบ้านประมาณ 30 กว่าคนมานั่งขวางที่บันไดทางขึ้นวิหารหลวงพ่อเงินพร้อมกับตั้งโต๊ะแถลงการณ์โต้ตอบและคัดค้านไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงที่เป็นการไกล่เกลี่ยคู่ความของศาลจังหวัดพิจิตร คดีหมายเลขดำที่ พ 765/2560 โดยอ้างเหตุผลว่าที่ต้องรวมตัวกันบุกปิดล้อมบริเวณทางขึ้นวิหารหลวงพ่อเงิน เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนา และพระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสรูปใหม่ รวมทั้งนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนพิจิตร(โพทะเล) เข้าไปยังบนวิหารเพื่อทำการตรวจนับเงินตู้บริจาคที่เหลือบนวิหาร เหตุที่กลุ่มผู้ชุมนุมเหิมเกริม เนื่องจากกำลังของเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย คือ ทหาร – ตำรวจ – ฝ่ายปกครอง เกิดการชะล่าใจถอนกำลังออกไปส่วนหนึ่ง...จึงทำให้กลุ่มชาวบ้านที่สนับสนุนอดีตเจ้าอาวาสสามารถมายืนปักหลักยึดพื้นที่ทางขึ้นวิหารหลวงพ่อเงิน โดยไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายในวิหาร พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจนับเงินให้โปร่งใส โดย ดร.กิตติ์ธเนศ โภคินบุญญารัศมิ์ หรือเสี่ยฮวด อดีตสจ.พิจิตร  ได้กล่าวที่มาปิดล้อมวิหารในครั้งนี้ไม่อยากให้ได้ดำเนินการอะไร เนื่องจากการจะตรวจนับเงินต้องมีความไม่โปร่งใส่ โดยทราบมาว่ามีการนำเงินใส่ซอง  ใส่ถุงดำ  ออกจากวัดซึ่งความจริงต้องนับให้ครบถ้วนก่อน และแถลงตัวเลขให้ชัดเจนก่อนที่จะนำเงินออกจากวัดไปเข้าธนาคาร อีกทั้งควรดำเนินการนำเงินเข้าธนาคารทั้งหมดไม่ใช่ นำเงินบริจาคไปซื้อของกินหรือนำเงินใส่ซองให้เป็นเบี้ยเลี้ยงกับเด็กๆนักเรียนที่มาช่วยนับเงิน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง.... เพราะเงินนั้นเป็นเงินของหลวงพ่อเงิน ซึ่งนับไปแจกนักเรียนที่มานับตังค์เป็นการทำไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามขอให้ทุกอย่างต้องทำให้ถูกต้อง ดร.กิตติ์ธเนศ โภคินบุญญารัศมิ์ หรือเสี่ยฮวด อดีตสจ.พิจิตร  กล่าวในที่สุด แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จู่ๆเจ้าหน้าที่ชุดสืบตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ตำรวจภูธร สภ.โพทะเล รวมทั้งเจ้าที่หาร ฝ่ายความมั่นคง ก็ได้บุกจู่โจมเข้าจับกุม “เสี่ยฮวด” แกนนำคนสำคัญที่ปลุกระดมคนมาปั่นป่วนในวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน โดยตำรวจชุดที่เข้าจับกุมได้แสดงหมายจับกุมและแจ้งข้อหาที่เป็นหมายจับศาลยุติธรรม แม่สอด จ.ตาก  ที่ จ 45/2561 ลงวันที่ 6 มี.ค. 61 ข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ โดยเชิญตัวไปควบคุมตัวไว้ที่ สภ.โพทะเล เพื่อให้ ตำรวจ สภ.แม่สอด มารับตัวไปดำเนินคดีต่อไป

หลังจากมีการจับกุม “เสี่ยฮวด” แกนนำคนสำคัญที่บุกมาป่วนวัดหลวงพ่อเงินบางคลานก็ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมขาดแกนนำ เรียกได้ว่าวงแตกตื่นตระหนกตกใจต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ เนื่องจากไม่รู้ว่าการที่ถูกจับกุมนั้นเป็นหมายจับในคดีค้างเก่าตั้งแต่เมื่อวันที่  6 มี.ค. 2561 ไม่ใช่ความผิดหรือถูกตั้งข้อหาในการชุมนุมสร้างความวุ่นวายที่วัดหลวงพ่อเงินบางคลานแต่อย่างใด  ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น อาจเป็นเพราะอิทธิฤทธิ์และบารมีของหลวงพ่อเงินที่มาปกป้องวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลานที่ส่งผลว่าใครทำดีย่อมได้ดี ผู้ใดเจตนาไม่บริสุทธิ์ก็จะต้องมีอันเป็นไปตามที่เคยสาบานหรืออธิษฐานไว้กับหลวงพ่อเงิน นั่นเอง...รายงานล่าสุด...สำหรับการตรวจนับบัญชีเงินของทางวัด 2 วันที่ผ่านมาทั้งหมด 28 ตู้เป็นยอดเงินทั้งหมด 4,924,680 บาท ซึ่งยังไม่ได้นับเงินเหรียญอีกหลายกระถัง  อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังประชุมวางแผนการดำเนินการอยู่ หากมีเหตุการณ์อะไรจะรายงานให้ทราบต่อไป

​​​​​​

ธารารัตน์ สำนักข่าวทีนิวส์