- 10 ส.ค. 2561
กระบี่ ชื่นมื่น จบอย่างภาคภูมิ หลักสูตรฝึกทบทวน อปพร. เตรียมพร้อมรับสาธารณภัย
ชื่นมื่น จบอย่างภาคภูมิ หลักสูตรฝึกทบทวน อปพร. เทศบาลเมืองกระบี่ ติวเข้ม จัดโครงการฝึกอบรมทบทวน แก่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หรือ อปพร.ในสังกัด กว่า 50 คน เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ฝึกทักษะการปฏิบัติ ความรู้ด้านกฎหมาย ด้านจราจร เทคนิคการป้องกันและระงับอัคคีภัยเบื้องต้น พร้อมให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวเต็มความสามารถ
ล่าสุดวันที่ 10 สิงหาคม 61 ที่ห้องประชุมบันไทยสมอ เทศบาลเมืองกระบี่ นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรี เป็นประธานมอบใบประกาศเกียรติบัตร แก่สมาชิกอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ภายหลังกว่า 50 ชีวิต สำเร็จหลักสูตรการเข้าร่วมโครงการฝึกทบทวนอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ควบคุมการฝึกโดย จ่าเอก นรินทร์ แดงดงอ่อน หัวหน้าชุดตรวจ อปพร. เจ้าพนังงานป้องกันฯ ระหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคม 2561
โดยทั้ง 3 วันจัดให้มีการอบรมให้ความรู้ด้าน กฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติ การฝึกระเบียบแถว การฝึกอบรมเทคนิคการป้องกันและระงับอัคคีภัยเบื้องต้น โดยมีวิทยากรจาก สนง.ปภ.จังหวัดกระบี่ สถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ โรงพยาบาลกระบี่ และมูลนิธิประชาสันติสุข ร่วมบรรยาย
โดยในวันเปิดโครงการ นายกเทศมนตรี ได้กล่าวว่า สถานการณ์ สาธารณภัย ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มเกิดขึ้นถี่ และทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชนและทางราชการ
ทั้งนี้ เราไม่สามารถห้ามสาธารณภัยไม่ให้เกิดขึ้นได้ แต่สามารถเตรียมป้องกันแก้ไข ควบคุมและบรรเทาภัยได้ ในการจัดการกับเหตุสาธารณภัย ถ้าจะให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการฝ่ายเดียวกำลังพลไม่พอ ทำให้เกิดการล่าช้า ในการเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย จำเป็นต้องร่วมมือ จากทุกภาคส่วน คือภาคประชาชนและหนึ่งในหน่วยงานหรือองค์กรที่มีส่วนสำคัญ ในการจัดการสาธารณภัย คืออาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หรือ อปพร. ซึ่งเป็นองค์กรที่มาจากประชาชนในท้องที่เป็นสำคัญ
โดยจะเห็นได้จากกรณีดินโคลนจากภูเขาถล่มลงมาทับบ้านเรือนใน อ.บ่อเกลือ จ.น่าน ทำให้ประชาชนเสียชีวิตจำนวน 8 ราย และการช่วยเหลือกู้ภัยเด็ก ติดถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าอาสาสมัครต่างๆ เป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทุกชาติ ทุกภาษา ที่ประสบภัยด้วยการเสียสละ ไม่หวังสิ่งตอบแทนด้วยความจริงใจเป็นที่ประจักษ์ต่อคนทั่วโลก
นายกเทศมนตรี กล่าวอีกว่า สิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่าการฝึกทบทวน อปพร. คือ การเพิ่มศักยภาพสมาชิก อปพร.ให้มีคุณภาพ มีระเบียบวินัย และปฏิบัติตนอยู่ในกรอบระเบียบข้อบังคับ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน พ.ศ.2553 เพราะปัจจุบัน อปพร.ถือเป็นองค์กรที่มีกำลังเป็นจำนวนมาก การควบคุมดูแลให้อยู่ในระเบียบวินัย จึงเป็นเรื่องสำคัญ การออกปฏิบัติงานต้องมีคำสั่งใช้จากเจ้าพนักงานของรัฐ เพื่อให้อปพร.อยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด ป้องกันการร้องเรียน หรือฟ้องร้องจากประชาชน โดยการกระทำของ อปพร.โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่ออปพร.ปฏิบัติตนด้วยความถูกต้องเป็นประโยชน์ต่อสังคมย่อมนำไปสู่ความเชื่อมั่น ความเจริญ ของหน่วยงาน อปพร.
ข่าว/ภาพ บัญฑิต รอดเกิด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.กระบี่