รู้ยัง..!!คำว่าแจงสี่เบี้ยที่แท้มีที่มาแบบนี้นี่เอง มีค่าเพียงแค่ 1 สลึง

หอยเบี้ยเป็นเงินในยุคสมัยของสมเด็จพระนารายมหาราช เป็นเงินที่มีค่าน้อยที่สุด หอยเบี้ย 800 ตัวเท่ากับ 1 เฟื้อง 2 เฟื้องเท่ากับ 1 สลึง เพราะฉะนั้นเงิน 1 สลึงจะมีหอยเบี้ย 1600 ตัว เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ จังหวัดลพบุรีได้อธิบายให้คณะกรรมการและสมาชิกของสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย

 

เผยความรู้ ที่มาของ "แจงสี่เบี้ย" ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ยุคที่ค่าเงินน้อยที่สุด เพียงแค่ 1 สลึง

เผยความรู้ ที่มาของ "แจงสี่เบี้ย" ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ยุคที่ค่าเงินน้อยที่สุด เพียงแค่ 1 สลึง

        เมื่อวันที่ 7 ก.ย.61 คณะกรรมการ ที่ปรึกษา อนุกรรมการ และสมาชิก สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ที่เดินทางไปประชุมสัญจร ประจำเดือนที่ จังหวัดลพบุรี และไปศึกษาดูงานทัศนะศึกษาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดลพบุรี เพื่อนำไปเผยแพร่ช่วยกันประชาสัมพันธ์ โดยในช่วงหนึ่งได้อธิบายถึงที่ไปที่มาของคำว่าแจงสี่เบี้ยว่า เล่ากันว่าหอยเบี้ยมาจากหมู่เกาะมัลดีฟ แถวฟิลิปปิน คำว่าแจงสี่เบี้ยนั้น ที่ไปที่มาของคำนี้ก็คือ ในช่วงรัชสมัยของรัชกาลที่ 6 ที่เจ้าชายชาวต่างชาติเข้ามาประเทศสยามของเรา

 

เผยความรู้ ที่มาของ "แจงสี่เบี้ย" ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ยุคที่ค่าเงินน้อยที่สุด เพียงแค่ 1 สลึง

เผยความรู้ ที่มาของ "แจงสี่เบี้ย" ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ยุคที่ค่าเงินน้อยที่สุด เพียงแค่ 1 สลึง

       เขาบอกว่าคนสยามนั้นมีการเล่นการพนันจากหอยเบี้ยพวกนี้ โดยการการแทง แบบที่เรียกว่าแจงสี่เบี้ย โดยการนำหอยมาใส่ถุง แล้วเอาเสื่อมาปู แล้วก็เขียนกากะบาดไว้ แล้วเขียนตัวเลขเช่นเลข 1 เลข 2 เลข 3 เลข 4 แล้วนำหอยที่ใส่ถุงมาตีออกหรือเทออกบางส่วนเทไม่ต้องหมด แล้วทำการคัดออกที่ละ 4 ตัว จนกระทั้งเหลือหอยกองสุดท้าย เพื่อให้คนแทงพนัน ก็ประมาณว่าคล้าๆยกับการพนันไฮโลนั้นเอง  ส่วนข้อมูลอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่.

 

เผยความรู้ ที่มาของ "แจงสี่เบี้ย" ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ยุคที่ค่าเงินน้อยที่สุด เพียงแค่ 1 สลึง

เผยความรู้ ที่มาของ "แจงสี่เบี้ย" ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ยุคที่ค่าเงินน้อยที่สุด เพียงแค่ 1 สลึง

ชัชวาลย์ คำไท้ ศูนย์ข่าวภาคเหนือ สำนักข่าวทีนิวส์