สาวคนขับรถเก๋งขวางรถกู้ภัยเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว เผยไม่ได้ตั้งใจ แต่ตกใจทำอะไรไม่ถูก

จากกรณีบนโลกโซเชี่ยนได้มีการแชร์ภาพคลิปรถยนต์เก๋งคันหนึ่งที่วิ่งอยู่ด้านหน้าของรถหน่วยกู้ชีพของมูลนิธิแห่งหนึ่งในย่านอำเภอบางเสาธงจังหวัดสมุทรปราการ ที่กำลังใช้ความเร็วเพื่อนำผู้ป่วยซึ่งเป็นหญิงท้องแก่ใกล้คลอดส่งที่โรงพยาบาลบางพลี  โดยใช้เส้นทางถนนเทพารักษ์จากสี่แยกอำเภอบางเสาธง มุ่งหน้ามายังโรงพยาบาลบางพลี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอบางพลี โดยภาพจากคลิปดังกล่าวจะเห็นได้ว่ารถเก๋งที่ขับอยู่ด้านหน้าของรถกู้ชีพไม่ยอมให้ทางหรือหลบเข้าทางด้านซ้ายและมีการเหยียบเบรกในระยะกระชั้นชิดเป็นระยะ โดยที่ด้านหน้าของรถเก๋งดังกล่าวก็ไม่มีรถคันอื่นขับอยู่เลย โดยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพได้ทำตามขั้นตอนที่ได้อบรมมาทุกอย่างทั้งเปิดไฟวับวาบเปิดเสียงหวอรถพยาบาลกระพริบไฟสูงและบีบแตรร่วมทั้งใช้เสียงพูดผ่านไมล์เพื่อขอทางแต่รถเก๋งคันดังกล่าวยังคงเพิกเฉยไม่ยอมให้ทางกับรถกู้ชีพคันดังกล่าวเป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตรซึ่งผู้ป่วยในขณะนั้นมีอาการเจ็บท้องอย่างหนักส่งเสียงร้องตลอดเวลาจนกระทั่งก่อนถึงทางเลี้ยวปากทางเข้าโรงพยาบาลบางพลีอีก 50 เมตรรถเก๋งคันดังกล่าวจึงยอมหลบทางให้

 

สาวขับเก๋ง เข้าพบจนท. พร้อมพูดทั้งน้ำตา

 

ในวันนี้ที่ 18 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปทางอาสากู้ชีพคนดังกล่าวผ่านทางโทรศัพท์เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยอาสากู้ชีพคนดังกล่าวได้เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นของวานนี้เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยเป็นหญิงท้องแก่ใกล้คลอดมีอาการเจ็บท้องและน้ำเดินอยู่ที่บริเวณริมถนนเทพารักษ์ใกล้สี่แยก การเคหะเมืองใหม่บางพลี เขตพื้นที่อำเภอบางเสาธง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมกำลังนำรถกู้ภัยกู้ชีพเดินทางไปทำการรับผู้ป่วยรายดังกล่าว ซึ่งท้องแก่มากและมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงเพื่อนำส่งที่โรงพยาบาลบางพลี โดยใช้ถนนเทพารักษ์มุ่งหน้ามาที่โรงพยาบาลบางพลี ตลอดทางรถที่สัญจรไปมาในถนนสายดังกล่าวแต่พากันหลบเข้าซ้ายให้ทางมาโดยตลอดจนกระทั่งเหลือระยะทางประมาณ 2 กิโลเศษจะถึงโรงพยาบาลบางพลี ก็ได้พบรถเก๋งคันดังกล่าววิ่งอยู่ทางด้านเลนขวาโดยที่ไม่ยอมให้ทางและพยายามเหยียบเบรกในระยะกระชั้นชิดคล้ายจงใจแกล้งแม้ว่าอาสาผู้ช่วยที่นั่งมาในรถจะใช้เสียงพูดผ่านเครื่องขยายเสียงเพื่อขอทางแต่รถเก๋งคันดังกล่าวก็ยังขับอยู่อย่างเดิมไม่ยอมให้ทางจนกระทั่งใกล้ถึงทางเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลรถเก๋งคันดังกล่าวจึงหลบเข้าเลนซ้าย และที่ตนนำคลิปมาโพสต์ในโลกโซเชี่ยนก็ไม่ได้ต้องการประจานหรือต่อว่าแต่อย่างไร เพียงต้องการที่จะบอกว่าใครที่ให้ทางกับรถพยาบาลแลรถกู้ภัยในขณะที่เปิดไฟขอทาง คุณคือฮีโร่จริง ๆ เพราะเวลาทุกวินาทีมีคุณค่าสำหรับผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บเสมอ

 

สาวขับเก๋ง เข้าพบจนท. พร้อมพูดทั้งน้ำตา

 

ด้าน พ.ต.ท.ประมวล  ทองภู รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้กล่าวว่า หลังจากที่ได้ตรวจสอบภาพจากคลิปแล้วพบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวทะเบียน 7 กย 7992 กรุงเทพมหานคร ขับขี่มาตามถนนเทพารักษ์ ไม่ให้ทางกับรถพยาบาลที่วิ่งมาจากบางปลา เพื่อจะส่งคนไข้ไปยังโรงพยาบาลบางพลี การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตร 71 (2) และมีโทษปรับตาม พ.ร.บ.จราจรางบก พ.ศ.2522 มาตร 148 มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามเจ้าของรถคันดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา

 

สาวขับเก๋ง เข้าพบจนท. พร้อมพูดทั้งน้ำตา

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. ของวันนี้ น.ส.น้ำอ้อย (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี พนักงานโชว์รูมขายรถยนต์ยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเทพารักษ์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง สมุทรปราการ และเป็นคนขับรถเก่งคันที่ไม่ยอมให้ทางรถกู้ภัย เป็นรถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน 7 กย 7992 กรุงเทพมหานคร คันที่อยู่ในคลิป ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประมวล ทองภู รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สมุทรปราการ ให้มารับทราบข้อกล่าวหา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นผู้ขับขี่รถ เห็นรถเป็นสัญญาณไฟวับวาบหรือเสียงไซเลน ไม่หยุดหรือหลบเข้าช่องทางด้านซ้าย เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตร 71 (2) และ มาตร 148 ก่อนทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงินสดจำนวน  500 บาท

 

สาวขับเก๋ง เข้าพบจนท. พร้อมพูดทั้งน้ำตา

 

น.ส.น้ำอ้อย (นามสมมุติ) ได้เล่าว่า เมื่อวานนี้หลังจากที่เลิกงานตนได้ขับรถไปสอบที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในย่าน ต.บางปลา อ.บางพลีสมุทรปราการ ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ตนกำลังขับรถเพื่อที่จะกลับบ้านพักที่อยู่ในพื้นที่ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง สมุทรปราการ โดยใช้เส้นทางถนนเทพารักษ์ ขณะที่ขับมาก่อนถึงห้างบิ๊กซีบางพลี ได้มีรถกู้ภัย ซึ่งขับมาทางเลนขวาด้วยความเร็วพร้อมทั้งเป็นสัญญาณไฟวับวาบและเสียไซเลนมาจี้ท้ายรถของตน ทำให้ตนตกใจทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ จึงทำอะไรไม่ถูกและไม่รู้จะทำอย่างไร อย่างที่เห็นในคลิป พักใหญ่หลังตนตั้งสติได้จึงได้หักรถหลบเข้าทางด้านซ้าย ตนขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะกรีดขวางแต่อย่างไร เป็นเพราะตกใจจึงทำอะไรไม่ถูก ตนอยากขอโทษเจ้าหน้าที่กู้ภัยและผู้ป่วยซึ่งหญิงสาวท้องแก่ด้วย ตนไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แต่เป็นเพราะตกใจเลยทำอะไรไม่ถูก

 

สาวขับเก๋ง เข้าพบจนท. พร้อมพูดทั้งน้ำตา

 

ภาพ/ข่าว  สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.สมุทรปราการ