ทหารพรานนาวิกโยธินร่วมกับสรรพสามิตจันทบุรีและตำรวจภูธรบ้านแปลง สกัดจับขบวนการลักลอบขนบุหรี่เถื่อน จำนวนมาก ใช้รถติดสติ๊กเก้อร้านสะดวกซื้อชื่อดังตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ไม่รอด สารภาพแค่รับจ้างขนเท่านั้น ทั้งคู่คอตกหลังเจ้าหน้าที่สรรพสามิตชี้ปรับคนละ17,581,110บาท

      เมื่อเวลา 22.00 น.โดยประมาณของคืนวันที่ 6 เมษายน 2562 ที่ฐานปฏิบัติการบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี  นาวเอกธีรวัฒน์ แสนใจรักษ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี นาวาเอก ไมตรี บุตรบุรี หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2  นาวโทสมคิด แดงสุข รองหัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 เรือโท ตรีภพ เข็มทอง ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 522 ฐานบ้านแหลม ร่วมกับ

นายวิโรจน์  มหาผลศิริกุล สรรพสามิตพื้นที่จันทบุรี   พันตำรวจเอกชัชวาลย์ โตโสภณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านแปลง  ทำการจับกุม 2 สามีภรรยา วัยรุ่น ร่วมกันลักลอบขนบุหรี่เถื่อนนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 47 กล่อง หรือ  2350 ห่อ (23,500)ซอง โดยทั้งคู่สารภาพรับจ้างจากนายทุนขน

ทหารพรานนาวิกโยธินร่วมสรรพสามิตและภูธรรวบผัวเมียวัยรุ่นขนบุหรี่เถื่อนปรับสูงคนละ17ล้านบาท

 

ทหารพรานนาวิกโยธินร่วมสรรพสามิตและภูธรรวบผัวเมียวัยรุ่นขนบุหรี่เถื่อนปรับสูงคนละ17ล้านบาท

 

       เจ้าหน้าที่จับกุมเปิดเผยว่า จากการรายงานของสายข่าวทราบว่าจะมีการลักลอบขนบุหรี่ซิ๊กกาแรตเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้เส้นทางสายชายแดนตลาดบ้านแหลม จึงได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนตั้งจุดสกัดตรวจค้น จนกระทั่งในเวลา 22.00 น.โดยประมาณ ได้มีรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อโตโยต้า สีเทาเลขทะเบียน1 ฒช 3571 กรุงเทพฯ หลังคาสูงทึกด้านข้างติดสติ๊กเก้อร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ตรงตามที่สายรายงานจึงให้หยุดรถและขอตรวจค้น พบในรถมีนายเอกพจน์ บุญเกิด อายุ 20 ปี ชาว พลูตาหลวง ชลบุรี เป็นคนขับด้านข้างคนขับมี นางสาว จิตรานุช พรมจักร อายุ 20 ปี ชาวท่าอุเทน นครพนม  จากการตรวจค้นพบบุหรี่ซิกกาแรตต่างประเทศจำนวน47 กล่อง หรือ  2350 ห่อ (23,500)ซอง  ซุกซ่อนมากับกล่องขนม จึงควบคุมตัวเพื่อสอบสวนในกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 522 บ้านแหลม

 

ทหารพรานนาวิกโยธินร่วมสรรพสามิตและภูธรรวบผัวเมียวัยรุ่นขนบุหรี่เถื่อนปรับสูงคนละ17ล้านบาท

 

ทหารพรานนาวิกโยธินร่วมสรรพสามิตและภูธรรวบผัวเมียวัยรุ่นขนบุหรี่เถื่อนปรับสูงคนละ17ล้านบาท

       จากการสอบสวนในเบื้องต้นทั้งคู่ให้การปฏิเสธ แต่จำนนด้วยหลักฐาน จึงจำยอมรับสารภาพว่ารับจ้างขนบุหรี่จำนวนดังกล่าวจากนายทุนเพื่อนำส่งในพื้นที่ชลบุรี ซึ่งเคยทำมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ครั้งนี้ไม่รอด แต่ทั้งคู่ยังไม่เปิดเผยถึงนายทุนที่จ้างมาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้ง 3 ข้อหาคือ ร่วมกันมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี 2.ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้ามิได้เสียภาษี 3.ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยกันจำหน่าย ช่วยกันพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของนำเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร และเจ้าพนักงานสรรพสามิตจันทบุรีได้ประเมิน ภาษีเพื่อนำมากำหนดค่าปรับ ทั้งตามมูลค่า และปริมาณซึ่งในกรณีดังกล่าว ผู้กระทำต้องชำระค่าปรับคนละ 17,581,110 บาท อัตราปรับสูง และมีฐานความผิดสูงสุดคือโทษจำคุก ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร จึงส่งผู้กระทำผิดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

 

ทหารพรานนาวิกโยธินร่วมสรรพสามิตและภูธรรวบผัวเมียวัยรุ่นขนบุหรี่เถื่อนปรับสูงคนละ17ล้านบาท

ภาพ/ข่าว นายไพโรจน์ อนุ นักข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์