- 14 พ.ค. 2562
คดีตำรวจชุดสืบสวนภาค9อุ้มตำรวจด้วยกันไปรีดเงิน ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกแม่ตำรวจที่เสียหายและเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ไปสอบปากคำพร้อมหลักฐานเพิ่มเติม ผู้เสียหายอีกคนแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนตำรวจ4นายที่ถูกกล่าวหาซึ่งถูกดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัยร้ายแรงหากผิดจริงโทษถึงขั้นไล่ออก
ความคืบหน้าคดีตำรวจสังกัดชุดสืบสวนภูธรภาค9ถูกกล่าวหาว่าอุ้มตำรวจด้วยกันไปรีดเงินจำนวน 5 แสนบาทที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งในอ.หาดใหญ่ และทางผู้เสียหายคือ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป) สภ.กระพ้อ จ.ปัตตานี ได้ร้องเรียนผู้บังคับบัญชาและแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจที่ร่วมกันก่อเหตุ และเมื่อวานนี้ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค9ได้สั่งการให้ดำเนินคดีอาญาและทางวินัยร้ายแรงกับตำรวจ4นายและพลเรือนอีก1คนแล้ว
ในทางคดีล่าสุดทางพนักงานสอบสวนสภ.หาดใหญ่ ได้เรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพิ่มเติมอีก2 คน คือ นาย รุ่งเกียร์ติ หนูพันธ์ อายุ30ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย6คนที่ถูกตำรวจอุ้มไปที่เซฟเฮ้าส์และถูกซ้อมได้รับบาดเจ็บด้วย และ นาง อุบล จันทร์ดำ อายุ48 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ เป็นผู้ที่ประสานงานเรื่องเงินค่าไถ่กับตำรวจ โดยผู้เป็นแม่ได้นำหลักฐานที่เป็นการแช็ตไลน์มามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมรวมทั้งชี้ตัวยืนยันตำรวจ3นายและหญิงสาวอีก1คนที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินค่าไถ่ตัว ซึ่งชี้ตัวได้อย่างถูกต้อง ในขณะที่นายรุ่งรัตน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้แจ้งความเพิ่มเติมในข้อหาทำร้ายร่างกายด้วย
นางอุบล กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางหญิงสาวที่เป็นผู้ประสานงานและอ้างว่าเป็นเมียตำรวจได้ติดต่อมาเพื่อที่จะขอคืนเงินและคืนรถเก๋งที่ยึดไปให้แต่หลังจากเรื่องนี้กลายเป็นข่าวและมีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีก็เงียบหายไปทั้งหมดซึ่งคดีนี้ขอให้ตำรวจดำเนินการไปตามกฏหมาย
ในขณะที่ นายรุ่งรัตน์ บอกว่า ในวันเกิดเหตุถูกอุ้มไปที่เซฟเฮ้าส์จำนวน6 คน และถูกทำร้ายร่างกาย5 คน มีเพียงคนเดียวที่ไม่โดนคือ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ ที่เป็นตำรวจ
ด้านตำรวจทั้ง4นายที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ซึ่งโดนทั้งคดีอาญา และทางวินัยอย่างร้ายแรง โดยในส่วนของทางวินัยหากสุดท้ายแล้วผลการสอบสวนพบว่ามีความผิดจริงก็จะมีโทษถึงขั้นไล่ออก
นภาลัย ชูศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สงขลา