ดารานักแสดงรุ่นเก๋า ออกตระเวนตามวัด ล้างอุโบสถทั่วประเทศ กว่า 10 ปี พร้อมเผยถึงความสุขอันหาใดเปรียบ

16 พ.ค.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโกวิท วัฒนกุล ดารานักแสดงรุ่นเก๋าชื่อดัง บ้านเกิดอยู่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ลงพื้นที่ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบอุโบสถ วัดโพธิ์พฤกษาราม หมู่ 9 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยมีพระลูกวัด และประชาชนผู้มีจิตอาสาช่วยกันทำ โดยใช้เครื่องอัดฉีดน้ำแรงดันสูงที่ลงทุนซื้อเองจากห้างฯ  เพื่อฉีดทำความสะอาด ขจัดคราบสิ่งสกปรกบริเวณพื้น และผนังกำแพงโบสถ์ โดยฉีดลงไปที่พื้นและขยับไปอย่างช้าๆ จะทำให้คราบต่างๆที่เกาะอยู่กระเด็นหลุดออกไปหมด ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีทั้งขี้นก และตะไคร่น้ำ ที่เกิดสะสมมาหลายๆปี จนมีสภาพที่หนา ยิ่งช่วงฝนตกด้วย ก็อาจทำให้ลื่นไถลได้ง่าย

ต่อมาได้มีนักศึกษา จากวิทยาลัยการอาชีพท่าตูม ที่ว่างเว้นจากการศึกษาและได้เข้ามาเล่นในบริเวณวัด อาสาลงมือช่วยอีกแรง โดยช่วยกวาดน้ำและเศษสิ่งสกปรกออก เพื่อให้ง่ายต่อการฉีดล้าง ประจวบเหมาะกับในวันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ เป็นวันวิสาขบูชา ทางวัดได้มีกิจกรรมเวียนเทียนรอบโบสถ์อีกด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

นายจักรกฤษณ์ มีเล อายุ 20 ปี นักศึกษาจากวิทยาลัยการอาชีพท่าตูม จ.สุรินทร์ เล่าว่า ปกติแล้วหากช่วงว่างเว้นจากการศึกษา ตนและเพื่อนๆก็ไม่รู้จะไปที่ไหนกัน เลยชวนกันมานั่งเล่นที่วัดแห่งนี้ โดยซื้อน้ำอัดลม ขนม นม เนย มาดื่มกินกัน ซึ่งในวันนี้ตนเห็นคนมาทำความสะอาดบริเวณโบสถ์ เลยอยากจะทำความดีบ้าง จึงได้ชักชวนเพื่อนๆ ชื่อนายโกศัลย์ พิศเพ็ง และ นายประสิทธิ์ ยาคำ มาช่วยกันคนละไม้ คนละมือ โดยไปขอไม้กวาดทางมะพร้าวที่วัดมาช่วยกวาด พอได้ทำดีแล้วมันรู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก

 

 

 

 

นายโกวิท วัฒนกุล เล่าว่า ตนทำแบบนี้มากว่า 10 ปีแล้ว ส่วนมากจะเป็นวัด ที่ตนไปถ่ายหนังถ่ายละคร หรือไปทำบุญ แล้วเห็นวัดสกปรกมากๆ ตนก็จะจดรายชื่อวัดใส่สมุดโน๊ตไว้ หากมีเวลาว่างเมื่อไหร่ ตนก็จะไล่ทำทีละวัด ส่วนสาเหตุที่มาที่วัดนี้ คือบ้านเกิดตนอยู่ที่นี่ ตนได้มาร่วมกิจกรรมเวียนเทียนที่วัดแห่งนี้ เดินย่ำแต่ขี้นกเต็มไปหมดเลย ตนเลยจดบันทึกไว้ วันนี้มีโอกาสได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดเลยถือโอกาสนี้มาทำความสะอาดวัด ซึ่งที่ตนทำอยู่นี้มันเป็นเรื่องของความสุขทางใจ

บางครั้งตนก็ถ่ายภาพไปลงเฟซบุ๊คบ้าง ซึ่งในส่วนนี้ ตนไม่ได้อยากดังแต่ประการใด แค่ตนอยากจะให้คนอื่น หรือครอบครัวอื่นได้เห็น แล้วคิดอยากจะทำเหมือนตน และก็สามารถจะเอาวิธีนี้ ความคิดนี้ไปทำได้ หากว่าทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ หรือจังหวัด มีคนคิดแบบนี้สักที่ละ 1-2 คนก็พอแล้ว วัดในชุมชนเราก็จะสะอาดขึ้น ซึ่งบางทีที่วัดก็ไม่มีเครื่องมือทำ หรือมีพระอยู่แค่ 1-2 รูป ซึ่งไม่มีกำลังที่จะทำได้ทั้งหมด

ตนอยากจะฝากถึงประชาชนทั้งหลายที่อยากจะมาชำระสิ่งสกปรกออกจากวัด เท่ากับเป็นการชำระความโลภ โกรธ หลง ออกจากจิตใจเราด้วย พอลองได้ทำแล้ว มันจะรู้สึกปีติ อิ่มเอิบ สิ่งนั้นแหล่ะ คือ “บุญ” และได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ร.10 อีกด้วย.

 

 

 

 

ภาพ - ข่าว / สุทธิศักดิ์ สอนกล้า ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์ จ.สุรินทร์