โจรอ้วน-ผอม หลอกเอาเงินคุณตาวัย 77 ปี สูญเงินกว่า 6 แสน

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายศิริชัย ชะลอเจริญยิ่ง อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 62/1 ม.5 ต.หนองบัวน้อย อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้ถูก 2 หญิงสาวอ้วน-ผอม ผิวขาว ขับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์  สีบรอนซ์ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน พร้อมด้วยผู้ชาย 1 คน เอาเงินจำนวน 6 แสนบาทหลบหนีไปอย่างลอยนวล เหตุเกิดหน้าห้างบิ๊กซีสาขาสามแยกปัก ตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ก่อนลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.โพธิ์กลาง ท่ามกลางความตกใจของญาติจำนวนมาก

 

 

นายศิริชัย ชะลอเจริญยิ่ง เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าได้มีผู้หญิง 2 คน อ้วน-ผอม ขับขี่รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์  สีบรอนซ์ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาหาตนที่บ้านและสอบถามซื้อที่ดิน จำนวน 10 ไร่ โดยตนเสนอขายไร่ละ 3 แสน 5 หมื่นบาท และต่อรองเหลือ 3 แสน 4 หมื่นบาท ซึ่งในระหว่างนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดียววันรุ่งขึ้นจะนำเงินมาให้ หลังจากนั้น หญิงสาวทั้ง 2 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 40-50 ปี 

 

 

ได้สอบถามว่ารู้จักนายหยัด อาศัยอยู่ที่บ้านโกรกลึก อำเภอด่านขุนทดมั้ย ซึ่งตนบอกว่าไม่รู้จัก และชักชวนหว่านล้อม ให้ตนไปด้วยเพื่อที่จะไปซื้อที่อีกแปลง จำนวน 31 ไร่ โดยเสนอขายให้ ไร่ละ 1.5 ล้าน ซึ่งมีทำเลค่อนข้างสวย แต่ติดว่าเอาไปจำนำกับนายทุน ที่ปักธงชัย จึงต้องหาเงินไปไถ่ถอนออกมา เป็นจำนวนเงิน 3 ล้าน 5 แสนบาท แต่เงินไม่พอ จึงขอยืมเงิน 6 แสน หากไถ่ถอนเสร็จแล้ว จะนำโฉนดไปขายให้นายทุนที่จังหวัดนครปฐม โดยที่ลุงจะได้ส่วนต่างฟรี 5 แสน ไม่ร่วม 6 แสนที่ยืมไป

 

ตนจึงเชื่อใจและไปเบิกงานที่ธนาคารกรุงศรี สาขาเซฟวัน ในตัวเมืองนครราชสีมา คนเดียว ก่อนจะมานั่งรอ พร้อมด้วยซองน้ำตาลที่มีเงินอยู่จำนวน 6 แสนบาท หลังจากนั้นได้ขึ้นรถพร้อมด้วยหญิงสาว 2 คนและผู้ชายชื่อหยัด ได้ขอเงินเพื่อที่จะนับรวมกัน กลุ่มมิจฉาชีพ จึงขับรถพาลุงไปที่ บิ๊กซี อยู่บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พร้อมออกกลอุบายให้ไปถ่ายสำเนาบัตรประชาชน 3 ใบ แต่เจ้าหน้าที่ข้างในบอกไม่มี จึงกลับมาก็ไม่เห็นรถคันดังกล่าว ตนจึงคิดว่าโดนหลอกอย่างแน่นอน และก็ไม่ได้ขอชื่อ หรือถ่ายเอกสารอะไรไว้เลย ส่วนบัญชีธนาคารคนร้ายก็เอาไปด้วย โดยมีเงินเหลืออยู่ในบัญชีจำนวน 7 หมื่นบาท จึงวิงวอนให้ตำรวจ จับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

 

 

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม ร้อยตำรวจโทศุภชัย แก่นธาตุ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพธิ์กลาง เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมพูดว่า ตนทำงานตั้งแต่ 08.00 -20.00 น.มีหลายคดีที่จะต้องทำ ไม่ได้ทำคดีหลอกเงิน 6 แสนคดีเดียว พร้อมชี้หน้าช่างภาพห้ามถ่าย และให้ไปถามเอาข้อมูลกลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเอาเอง เพราะตามไล่กล้องวงจรปิดอยู่ ส่วนตนลงได้แค่บันทึกไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ส่วนจะนัดมาสอบปากคำวันไหน ยังไม่ทราบ เพราะคดีเยอะ.    

 

ภาพ/ข่าว ชุติมา ถนัดค้า ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดนครราชสีมา