นายก อบต. ชาวบ้าน ยืนยันไม่มีใครใจดำ วางยาโคกระบือต่างถิ่น ไม่มีศึกแย่งน้ำแน่นอน

จากกรณีมีการรายงานว่าที่ จังหวัดนครราชสีมา มีภัยแล้งคุกคามอย่างหนัก ทำให้สัตว์เลี้ยงประเภทโค กระบือ จำนวนมากในหลายพื้นที่ ไม่มีแหล่งน้ำกิน จึงต้องมีการอพยพ โค กระบือ ออกไปหากินต่างถิ่น และมีประชาชนโรยสารเคมีไว้รอบสระ เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าพื้นที่ของตนเองนั้น

 

 

ด้าน นายเจษฎา พิมพ์จันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนอุดม อำเภอเมืองยาง จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตามที่มีการรายงานข่าวในเบื้องต้นนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ ตนยังสามารถควบคุมและดูแลพี่น้องประชาชนได้เพราะแหล่งกักเก็บน้ำหลายจุดในพื้นที่ยังมีปริมาณน้ำเพียงพอ อีกครั้งในช่วงนี้ยังมีพายุฝนตกเข้ามาในพื้นที่บ่อยครั้ง จึงทำให้มีการรองรับน้ำ เพื่อใช้ในช่วงแล้งนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบในพื้นที่พบเกษตรกรมีการเลี้ยงโคและกระบือ จำนวนกว่า 3 หมื่นตัว และยังไม่พบการเสียชีวิตหรือเจ็บป่วยจากการกินน้ำจากสารเคมี ซึ่งตนไม่รู้ว่าคนที่ปล่อยข่าวต้องการอะไร อีกทั้งในอำเภอเมืองยาง รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้มีการประชุมสอบถาม ไปถึงผู้นำชุมชนของแต่ละท้องที่ว่าใครมีปัญหาอะไร แต่ก็ไม่พบตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งหากเกษตรกรต้องการฉีดยาฆ่าหญ้าในช่วงนี้ ก็ยังต้องมีการบอกผู้นำชุมชนให้ประกาศ ให้ลูกบ้านที่เลี้ยงโค กระบือเพื่อทราบ จะได้ไม่เข้าไปบริเวณพื้นที่นั้น

 

ทั้งนี้ นางมุกดา สาหร่ายกลาง อายุ 51 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 บ้านโนนปีบ ตำบลโนนอุดม อำเภอเมืองยาง เล่าว่า ต้นมีอาชีพเป็นเกษตรกรเลี้ยงวัวเป็นหลัก ก็นำออกมาหากินหญ้าตามทุ่งนาเป็นประจำ ซึ่งยังไม่พบปัญหาเกี่ยวกับภัยแล้งในพื้นที่ เพราะแหล่งน้ำก็ยังมีปริมาณน้ำเยอะ ส่วนการโดยสารเคมี รอบสระน้ำเพื่อสกัดโคและกระบือ ไม่ให้เข้าไปกินน้ำนั้น ตนไม่ได้ข่าว คิดว่าคงไม่มีใครใจดำ มาโรยสารเคมี เพื่อทำลายชีวิตสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน ในส่วนของน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีการแย่งชิงน้ำ กันอย่างแน่นอน

 

ภาพ/ข่าว ชุติมา ถนัดค้า ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์จังหวัดนครราชสีมา