หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ภาคหนึ่งของพระศรีอาริย์

หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พระมหาโพธิสัตว์ผู้ลงมาเกิดบำเพ็ญบารมีในยุคของพระสมณะโคดม

ในช่วงก่อนมีการสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวดปี ๒๔๙๗ นั้น ได้มีเค้าเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดมาก่อนซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวบ้านได้ประสบพบเจอจนร่ำลือไปทั่ว ดังมีเรื่องเล่าดังต่อไปนี้ว่า

สมัยนั้นมีเด็กชายลูกชาวบ้านคนหนึ่งพ่อเขาไล่ตีจนเด็กคนนั้นวิ่งหนีเข้าไปในบริเวณวัดช้างให้ แล้วหายตัวไปซึ่งขณะนั้นวัดช้างให้มีสภาพเป็นวัดร้าง เมื่อพ่อของเด็กไล่ตามเข้าไปในวัดก็มิได้เห็นตัวเด็ก พยายามค้นหาจนอ่อนใจก็ไม่พบจึงกลับไปชวนเพื่อนบ้านมาช่วยกันค้นหาขณะที่พวกชาวบ้านกำลังเดินเข้าวัดก็เห็นเด็กนั้นเดินยิ้มเข้ามาหาแล้วหัวเราะพูดขึ้นว่า

“พ่อของมันดุร้ายไล่ทุบตีลูกไม่มีความสงสารกูเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้จึงเอามันไปซ่อนไว้” พวกชาวบ้านก็แปลกประหลาดใจ เพราะเด็กนั้นพูดแปลกหูผู้ฟังเป็นเสียงของคนแก่ แล้วเด็กก็พูดต่อไปว่า “พวกสูไม่รู้จักกูหรือ กูชื่อท่านเหยียบน้ำทะเลจืดผู้ศักดิ์สิทธิ์เจ้าของเขื่อนนี้ (สถูป) พวกสูจะลองดีก็จงเอาน้ำเกลือใส่อ่างมากูจะทำให้ดู”

มีชาวบ้านผู้หนึ่งปฏิบัติตามคำสั่งนั้น เด็กชายนั้นก็ยื่นเท้าลงเหยียบน้ำเกลือในอ่างทันทีและบอกให้ชาวบ้านชิมน้ำเกลือนั้นดู ได้ประจักษ์ว่าน้ำนั้นมีรสจืด ประดุจว่าเป็นน้ำบ่ออย่างน่าอัศจรรย์แท้

หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ภาคหนึ่งของพระศรีอาริย์

 จากนั้นเด็กพูดอีกว่า “พวกสูยังไม่เชื่อกูก็ให้ก่อไฟขึ้น”

ชาวบ้านก็ทำตามขณะกองไฟลุกโชนเป็นถ่านแดงดีแล้ว เด็กประทับทรงท่านเหยียบน้ำทะเลจืด ก็กระโดดเข้าไปยืนอยู่ในกลางกองไฟอันร้อนแรง ยิ้มแล้วถามว่า

“สูเชื่อหรือยัง”

พ่อของเด็กตกใจ เกรงลูกจะเป็นอันตราย จึงก้มลงกราบไหว้ขอโทษ เด็กนั้นจึงเดินออกจากกองไฟเป็นปกติ

ครั้นในเวลาต่อมาท่านพระครูวิสัยโสภณ (ท่านอาจารย์ทิมธมฺมธโร) เข้ามาครองวัดช้างให้ใหม่ๆ สภาพวัดเป็นวัดร้าง ทำให้ท่านข้องใจเรื่องเขตวัดของเดิม เพราะถามชาวบ้านไม่มีใครรู้คืนวันหนึ่งท่านฝันว่าพบคนแก่ยืนอยู่กลางลานวัดท่านถามถึงเขตวัดตามความข้องใจ คนแก่นั้นบอกว่า

“ให้ไปถามท่านเหยียบน้ำทะเลจืดในเขื่อน(สถูป)”

คนแก่จึงนำท่านพระครูฯ ไปพบพระภิกษุเฒ่า ๔  รูป เดินออกมาจากในเขื่อน พระภิกษุเฒ่าทั้ง ๓ ได้แก่ ๑. หลวงพ่อสี ๒.หลวงพ่อทอง ๓. หลวงพ่อจันทร์ และองค์ที่๔.องค์หลังสุด ถือไม้เท้าใหญ่ ๓ คด เดินยันออกมางกงัน เพราะความชรามากกว่าองค์ใดๆ คนแก่จึงบอกว่าองค์นี้แหละท่านเหยียบน้ำทะเลจืด

จืด ท่านจึงเอาแขนกอดคอท่านพระครูฯ พาเดินชี้เขตวัดเก่าให้ทราบทั้ง๔ทิศ ตลอดถึงเนินดิน ซึ่งเป็นโบสถ์โบราณและบันดาลให้ท่านอาจารย์ฯได้เห็นวัตถุต่างๆ ในหลุมนิมิตซึ่งเป็นของมีค่า เช่นพระพุทธรูปหล่อด้วยเงิน ๑ องค์ เมื่อจะกลับเข้าไปในเขื่อนท่านได้สั่งว่า ต้องการอะไรให้บอกแล้วเข้าในเขื่อนหายไป "คำว่าเอาอะไรให้บอก คำนี้สำคัญมากคราวต่อมาโบสถ์ก็สำเร็จพระเครื่องก็ศักดิ์สิทธิ์"