สาธุอภินิหาร ประสบการณ์เหลือเชื่อ หลวงพ่อโต วัดสะตือ ด้วยบารมีสมเด็จโตฯ ช่วยคนโรคร้ายให้หายเป็นปลิดทิ้ง

ติดตามเรื่องราวดี ๆ อีกมากมายได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th

          พระพุทธไสยาสน์กลางแจ้งที่มีขนาดยาวที่สุด ประดิษฐานอยู่ที่วัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี อดีตเจ้าอาวาส วัดระฆังโฆษิตตาราม กทม.

สาธุอภินิหาร ประสบการณ์เหลือเชื่อ หลวงพ่อโต วัดสะตือ ด้วยบารมีสมเด็จโตฯ ช่วยคนโรคร้ายให้หายเป็นปลิดทิ้ง

            เจ้าประคุณสมเด็จฯ ถึงแก่มรณภาพในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 เมื่อวันเสาร์ เดือน 8 แรม 2 ค่ำ ปีวอก จัดวาศกจุลศักราช 1234 ตรงกับวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2415 เวลา 24.00 น. บนศาลาใหญ่วัดบางขุนพรหมใน (วัดอินทรวิหาร) สิริรวม อายุ 84 พรรษาที่ 64

         ในปี พ.ศ. 2413 ก่อนมรณภาพ 3 ปี เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้มาทำการก่อสร้างพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนปางพุทธ-ไสยาสน์ริมแม่น้ำป่าสัก ณ บ้านที่ถือกำเนิด ปัจจุบันคือ วัดสะตือ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา มีความยาว 25 วา กว้าง 4 วา สูง 8 วา

         ทางวัดสะตือได้จัดให้มีงานเทศกาล (งานประจำปี) เพื่อปิดทององค์หลวงพ่อโตเป็นประจำทุกปีๆ ละ 2 ครั้ง คือกลางเดือน 5 และกลางเดือน 12 พระพุทธไสยาสน์ หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่มาก และมีอายุ การสร้างที่ยาวนาน มีประชาชนจากทั่วสารทิศ เดินทางมานมัสการกราบไหว้ ขอพรและโชคลาภต่างๆ ซึ่งมักประสบผลตามที่ตั้งใจขอไว้ หลวงพ่อจะช่วยดลบันดาลอภิบาลรักษาให้ท่านที่เดินทางมานมัสการ มีความอยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรือง

        สาธุอภินิหาร ประสบการณ์เหลือเชื่อ หลวงพ่อโต วัดสะตือ ด้วยบารมีสมเด็จโตฯ ช่วยคนโรคร้ายให้หายเป็นปลิดทิ้ง

เรื่องที่จะนำมาเล่าต่อไปนี้ ทีมข่าวปัญญาญาณได้มาจากสมาชิกท่านหนึ่งในเว็บบอร์ดพลังจิต ที่ได้เล่าถึงอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโต วัดสะตือไว้ ดังนี้...

 

  อภินิหารหลวงพ่อโต

         เรื่องที่จะนำเสนอต่อไปนี้ ได้รับข้อมูลจากคำบอกเล่าของคุณเสงี่ยม ใจซื่อ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.สระแก้ว คุณเสงี่ยมได้เล่าว่าเขามีอาการป่วยเรื้อรัง รักษาแพทย์แผนปัจจุบันหมดเงินหมดทองเป็นจำนวนมากแต่อาการก็ไม่ทุเลา

         "แพทย์ลงความเห็นว่าเส้นประสาทของผมอาจจะพลิก รักษาให้หายขาดมีทางเดียวคือ ต้องทำการผ่าตัด ตอนนั้นผมกลัวมาก เพราะมีหมอดูซึ่งเป็นคนเขมรได้ทายเอาไว้ว่า ผมจะต้องเข้าโรงพยาบาล และต้องผ่าตัดแต่ไม่หายและจะต้องตาย ทีแรกผมไม่เชื่อ จนกระทั่งผมมีอาการปวดชาตามขา เดินไม่ไหว ผมจึงไปให้หมอตรวจ ก็ไม่คิดว่ามันจะลุกลามใหญ่โตถึงเพียงนี้"

         พวกลูกๆ ของคุณเสงี่ยมพยายามชี้แจงว่า วงการแพทย์แผนปัจจุบันมีความทันสมัยมาก อย่าไปเชื่อเรื่องหมอดูให้มากนัก แต่คำพูดของลูกๆ ก็ไม่อาจจะทำให้คุณเสงี่ยมเปลี่ยนใจ เขาขอเลือกการนอนรักษาตัวอยู่กับบ้านดีกว่าต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาล

         อาการของคุณเสงี่ยมมี "ทรง" กับ "ทรุด" คุณเสงี่ยมเริ่มหันมาศึกษาในคำสอนของพระพุทธองค์ เริ่มท่องคาถาชินบัญชร มีการปฏิบัติธรรม รักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัดไม่กินเนื้อสัตว์ทุกชนิด เพราะถือว่าเป็นการเบียดเบียนสัตว์โลกด้วยกัน จากนั้นไม่นานอาการเจ็บป่วยก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งคืนหนึ่งผมฝันว่าได้ไหว้พระนอน ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก แต่ไม่รู้ว่าพระนอนองค์นั้นอยู่ที่ไหน

         พอผมกราบท่านเสร็จผมก็ได้ยินเสียงท่านพูดว่า โยมกำลังจะพ้นทุกข์แล้วนะ บรรดาเจ้ากรรมนายเวรเขาเห็นโยมทำดี เขาเลยอโหสิให้ เพียงแต่โยมทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้พวกเขาบ้าง ทุกอย่างมันก็จะดีขึ้น จากนั้นผมก็ตกใจตื่น

         คุณเสงี่ยมไม่รู้ว่าพระนอนองค์นั้นอยู่ที่ไหน สอบถามเพื่อนฝูงก็ไม่มีใครรู้จัก จนกระทั่งวันหนึ่งญาติของคุณเสงี่ยม ซึ่งเป็นข้าราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มาเยี่ยมคุณเสงี่ยมที่บ้าน

        "ผมถามเขาว่าตอนนี้ทำงานที่ไหน เขาบอกว่าอยู่กรุงเทพฯ แต่ไปได้เมียเป็นคนอยุธยา ตอนนี้เลยต้องเดินสายขึ้นล่องกรุงเทพ ฯ - อยุธยา ทุกอาทิตย์ ผมถามเขาว่าแถวบ้านมีพระนอนองค์โตๆ บ้างหรือเปล่า เป็นพระนอนกลางแจ้ง เขาบอกว่ามีอยู่องค์หนึ่ง ชื่อ หลวงพ่อโต อยู่ที่วัดสะตือ ศักดิ์สิทธิ์มาก พอได้ยินเช่นนั้นมันรู้สึกเย็นวาบทั้งตัว บอกกับตัวเองว่าใช่แน่แล้ว พระองค์นี้แหละที่ผมเห็นในความฝันผมก็เลยขอเขาติดรถมาที่จังหวัดอยุธยาด้วยทันที

         คุณเสงี่ยมเล่าให้ฟังว่ายิ่งเข้าใกล้วัดสะตือเท่าใดก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น จนกระทั่งรถได้ขับเข้ามาภายในบริเวณวัด ภาพของพระนอนขนาดใหญ่ที่ปรากฏตรงเบื้องหน้า ทำให้คุณเสงี่ยมถึงกับขนลุกเกลียวเลยทีเดียว

         "เป็นพระองค์เดียวกับที่ผมเห็นในความฝัน เป็นเหตุการณ์ที่ต้องบอกว่าเหลือเชื่อ ไม่น่าเป็นไปได้แต่มันก็เป็นไปแล้ว"

         คุณเสงี่ยมรีบลงจากรถเพื่อไปมนัสการหลวงพ่อโต อาการปวดที่ขามันค่อยๆ ทุเลาลง ซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มาก คุณเสงี่ยมพักอยู่ที่บ้านญาติ 3 วัน ทุกวันจะต้องนำดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาหลวงพ่อโตไม่ขาด อาการปวดเรื้อรังมันดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนนี้ผมหายเป็นปกติแล้ว ไปตรวจครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาลเมื่อเดือนก่อนหมอคนที่เป็นเจ้าของไข้ยัง งง บอกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้วใครจะเชื่อบ้างว่า อำนาจของพระพุทธคุณจะสามารถรักษาโรคร้ายให้หายได้

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://board.palungjit.org