- 16 ต.ค. 2559
รู้จริง...รู้แจ้ง...ทุกเรื่องราวแห่งพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th
พระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานคำแนะนำเรื่อง "การเกิดนิมิต" ในสมาธิ
------------------------------------------------------------------------------
พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร เล่าถึงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงเคยพระราชทานคำแนะนำเกี่ยวกับ "การทำสมาธิ" ไว้ว่า
"ครั้งหนึ่งได้เข้าเฝ้า ผมก็กราบบังคมทูลว่า ผมเพิ่งหัดปฏิบัติ แต่ว่าหัดแล้วจิตสงบเร็ว เวลาสงบก็จะมีอาการอย่างจิตที่เริ่มสงบทั้งหลายที่ผมไม่คุ้นเคย ครั้งหนึ่งผมนั่งแล้วก็รู้สึกว่าตัวผมลอยขึ้น พอลอยขึ้นสูงจากพื้นเกินศอกหนึ่ง หัวก็เริ่มบ่ายทิ้งลงช้า ๆ ผมก็เลยเลิก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า ‘ที่ไปเลิกนั่นผิด ... เพราะที่จริงการทำสมาธินั้น อะไรเกิดขึ้น ผู้ทำสมาธิถ้าสติยังอยู่กับตัวก็ควรจะรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง แล้วอยู่กับภาวะนั้นไป’
อีกครั้งหนึ่ง ผมนั่งสมาธิแล้ว พอจิตสงบก็เหมือนตกลงไปในความมืด คล้าย ๆ กับในท่อขนาดพอตัว ดิ่งลงไปไม่เร็วนัก แต่เร็วพอสมควร ที่ปลายท่อข้างโน้นเห็นแสงสว่างเป็นจุดเล็ก ๆ ผมก็ตกใจ เลิกทำสมาธิ
ผมไปกราบบังคมทูลเล่าถวาย ท่านก็ทรงรับสั่งอีกว่า ‘ผิด... ไม่ควรจะเลิก แต่ควรคุมสติให้มี แล้วก็อยู่กับภาวะที่ตัวกำลังประสบนั้นไปเรื่อย ๆ’
แล้วในที่สุด ท่านบอกว่า ‘มันจะผ่านขั้นตอนเหล่านี้แล้วไปสู่ความสงบจริง ๆ’ "
ผมเอามาเทียบเคียงกับคำสอนของครูบาอาจารย์...เห็นว่าตรงกันหมด จึงได้รู้ว่าทรงปฏิบัติไปได้มาก หากเป็นคนธรรมดาคงจะหาคนที่ศีลสมบูรณ์เหมือนพระองค์ได้ยาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมบูรณ์ทางศีล ท่านไม่ล่วงศีล เพราะฉะนั้น เมื่อมีศีลเป็นพื้นฐานธรรมดา สมาธิก็เกิดง่าย สมาธิก็จะอยู่มั่นคง และในที่สุดจะตามมาด้วยปัญญา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
พระมหากษัตริย์ของเราท่านทรงมีทศพิธราชธรรม ต่างจากพระเจ้าแผ่นดินบ้านอื่นเขา แล้วในทศพิธราชธรรม ๑๐ มีอยู่ข้อหนึ่ง คือ ‘ศีลต้องมี’
ถ้าหากจะมีอะไรที่แลดูเหมือนว่าทรงล่วงศีลบ้าง...ก็ทรงมีเหตุผลและไม่ได้ตั้งพระทัยที่จะทำ ยกตัวอย่างในงานสังคมที่เขามีการดื่ม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถือด้วยและเสวยน้ำจัณฑ์ด้วย แต่ไม่ได้ขาดสติ ... เป็นการปฏิบัติคล้อยตามสังคมเพื่อที่จะให้ไม่เสียมารยาท และเป็นการเอาใจแขก"
พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร
ที่มา : หนังสือ "สองธรรมราชา", อัครวัฒน์ โอสถานุเคราะห์