พระราชดำรัสของสมเด็จฯ ตรัสถึงในหลวง เรื่องซาบซึ้งใจหาใดเปรียบ จากรักแท้ของสองพระองค์  แล้วพระราชทานรักนั้นสู่พสกนิกรและแผ่นดิน

ติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th/

พระราชดำรัสที่เราคุ้นชิน จากสมเด็จฯ พระราชินี ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันก็จะสร้างป่า...”

 

จะเห็นได้ว่า การพัฒนาแหล่งน้ำ คือสิ่งสำคัญที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงทุ่มเทพระวรกายและทรงมุ่งมั่น เพื่อพสกนิกรชาวไทยอย่างแท้จริง ดังพระราชดำรัสของสมเด็จฯ พระราชินี เคยพระราชทานสัมภาษณ์ไว้ในนิตยสารสกุลไทยว่า

 

“ทูลพระเจ้าอยู่หัวว่า ปีหนึ่ง ขอให้ทรงพาไปต่างประเทศสักเดือนหนึ่ง สองเดือน แทนที่จะไปหัวหินก็ยังดีท่านบอกว่า “เสียเงินตราต่างประเทศ” เรื่องไปเมืองนอก พระเจ้าอยู่หัวก็รับสั่งว่าเงินตราต่างประเทศยิ่งแพ้เปรียบ เสียดุลอยู่แล้ว ท่านก็ไม่ยอม ความที่จริง ท่านสนุกกับการหาแหล่งน้ำของท่าน คือท่านทรงเขม็ดแขม่มาก”

  พระราชดำรัสของสมเด็จฯ ตรัสถึงในหลวง เรื่องซาบซึ้งใจหาใดเปรียบ จากรักแท้ของสองพระองค์  แล้วพระราชทานรักนั้นสู่พสกนิกรและแผ่นดิน

เรื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเรื่องความเรียบง่าย และมัธยัสถ์ นั้น เราได้ทราบกันมาแล้วจากภาพหลอดยาสีพระทนต์ส่วนพระองค์ ซึ่งเคยเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ (หาอ่านได้จาก “เย็นศิระเพราะพระบริบาล”) หรือแม้แต่เรื่องงานฮันนีมูนที่เรียบง่ายที่สุด ด้วยมีพระราชประสงค์ไม่ให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ โดยโปรดให้มีผู้ติดตามแต่น้อยและเลือกเสด็จพระราชดำเนินฮันนีมูน พักผ่อนที่วังไกลกังวล หัวหิน นับเป็นการฮันนีมูนที่เรียบง่ายและสิ้นเปลืองน้อยที่สุด

พระราชดำรัสของสมเด็จฯ ตรัสถึงในหลวง เรื่องซาบซึ้งใจหาใดเปรียบ จากรักแท้ของสองพระองค์  แล้วพระราชทานรักนั้นสู่พสกนิกรและแผ่นดิน

นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ ยังเคยพระราชทานสัมภาษณ์ กับสื่อต่างประเทศอีกว่า

 

"เราไม่ค่อยชอบเวลาใครมาถ่ายภาพภรรยาของเรา เราจะรู้สึกหวงและอิจฉา (jealous) บรรดาช่างภาพทั้งหลายเพราะเราชอบถ่ายภาพพระราชินีด้วยตัวเราเอง เราไม่เคยทิ้งรูปถ่ายของเธอแม้แต่สักภาพเดียว แม้ว่าจะมีบางภาพที่เราไม่ค่อยชอบก็ตาม"


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปิดเผยกับ Mr Reginald Davis ช่างภาพจากประเทศอังกฤษ เมื่อครั้งยังทรงอยู่ในช่วงหนุ่มสาว
หลายปีต่อมาเมื่อประเทศไทยถูกรุกรานจากระบบคอมมิวนิสต์ ในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯต้องทรงตรากตรำเสด็จไปเยี่ยมและปลอบขวัญชาวบ้านในที่อันตรายทั่วประเทศ

"I don't think that I would like to be a King" 
Mr Davisถึงกลับกราบทูลพระองค์เช่นนั้นเมื่อเห็นความเหน็ดเหนื่อยของทั้งสองพระองค์

"เราไม่ตำหนิท่านหรอก ...มันเป็นงานที่หนักมาก แต่งานจากการสงคราม(war work)จะทำให้คุณรู้ซึ้งว่า... ในเวลาสงบ คุณมัวใช้เวลาไปกับสิ่งไม่สำคัญเลย เหมือนที่ครั้งก่อนที่เจอกัน เราบอกท่านว่าเราอิจฉาช่างภาพคนอื่นเวลาถ่ายภาพภรรยาของเรา...
แต่ตอนนี้ไม่มีความอิจฉาใดๆอีกแล้ว ไม่มีเวลาสำหรับเรื่องแบบนั้นแล้ว"

 

ท้ายที่สุดนี้ ขอยกพระราชดำรัสบางตอน  ของสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ มาเผยแพร่ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้

 

  พระราชดำรัสของสมเด็จฯ ตรัสถึงในหลวง เรื่องซาบซึ้งใจหาใดเปรียบ จากรักแท้ของสองพระองค์  แล้วพระราชทานรักนั้นสู่พสกนิกรและแผ่นดิน

(บางตอนจากหนังสือ "70ปี รักแท้ของในหลวงและพระราชินี")

พระราชดำรัสของสมเด็จฯ ตรัสถึงในหลวง เรื่องซาบซึ้งใจหาใดเปรียบ จากรักแท้ของสองพระองค์  แล้วพระราชทานรักนั้นสู่พสกนิกรและแผ่นดิน

หนังสือแนะนำ : ติดตามเรื่องราวของในหลวงรัชกาลที่ ๙ กับพระราชินี สองชีวิต สองดวงใจ หนึ่งความรักเพื่อปวงประชาได้ในหนังสือ “๗๐ ปี รักแท้ของในหลวงและราชินี” เรียบเรียงโดย “สุวิสุทธิ์”

สนใจหนังสือสั่งซื้อได้ที่

Line ID: @gppbook

Facebook : Gppbook

โทรศัพท์0 2525 4242 ต่อ 201-202

 

เขียนข่าวโดย : ไญยิกา เมืองจำนงค์