- 01 ธ.ค. 2559
ติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th/
ผู้สั่งสมบุญมาดีย่อมได้ครูดีมีอภิญญา
ผู้สั่งสมบุญมาดีย่อมได้ครูดีมีอภิญญา หลวงพ่อปานท่านก็เป็นเช่นนั้นเริ่มตั้งแต่พบหลวงพ่อคล้าย วัดบางนมโคท่านก็มีอภิญญา พอตอนบวชก็ได้หลวงพ่อสุ่นเป็นพระอุปัชฌาย์ก็เป็นพระอภิญญาอีก ครูอาจารย์ที่ท่านได้ศึกษาต่อมาก็ล้วนเป็นพระอริยเจ้าทรงฤทธิ์ทั้งนั้น คือ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย จ.สุพรรณบุรีองค์นี้หลวงพ่อสุ่นท่านสั่งไว้ว่าสิ้นท่านไปแล้วให้ศึกษากับหลวงพ่อเนียม ถัดจากหลวงพ่อเนียมก็หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน องค์นี้ก็เป็นพระอภิญญาอีกเช่นกัน ท่านสามารถทรงพุทธนิมิตไว้ได้ตลอด คือทรงอารมณ์ในพุทธานุสติกรรมฐานได้ตลอด
(วัตถุมงคล หลวงพ่อปาน ขี่นก เอื้อเฟื้อภาพโดย พีรเวทย์ อธิคุปต์ธนวัฒน)
นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ หลวงพ่อปานท่านยังได้มีโอกาสศึกษากับ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครชัยศรี แต่ไม่เพียงเท่านี้วิชาที่เลื่องลือของหลวงพ่อปานท่านนั้นท่านเรียนมาจากฆราวาสทั้งสิ้น โดยวิชายันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อปานท่านได้ร่ำเรียนมาจาก อาจารย์แจง เป็นชาวสวรรคโลก สุโขทัย ท่านไปเจอกันในสมาธิแล้วนัดแนะกัน วิชายันต์เกราะเพชรนี้เป็นวิชาที่มีอยู่ในตำราพิชัยสงคราม เป็นวิชาของอาจารย์พระร่วงเจ้าท่าน ผู้ที่จะศึกษาได้ต้องมีสมาบัติ ๘ หรือต้องเป็นพระอริยเจ้า
โดยเนื้อหาของวิชายันต์เกราะเพชรนี้โดยรวมแล้วเป็นการอาราธณาคุณพระพุทธเจ้ามาปกป้องคุ้มครอง มีข้อห้ามเด็ดขาดคือห้ามดื่มเหล้าของมึนเมาประการทั้งปวง ถ้าหญิงท้องแก่มาเป่ารับยันต์ด้วยตอนเด็ก เกิดมาจะเห็นรอยยันต์ติดมาที่หน้าผากบ้าง แก้มบ้าง เป็นที่อัศจรรย์ ผู้ที่รับไปแล้วจะไม่ตายโหง ปลอดภัยจากอสรพิษ เขี้ยวงาสารพัด คุณไสย ลมเพลมพัดทำอันตรายไม่ได้เลย ใครคิดรังแกด้วยเดรัจฉานวิชาของจะเข้าตัวผู้นั้นทันทีเพราะแพ้ภัยตัวเองสู้อำนาจพระพุทธคุณจากยันต์เกราะเพชรไม่ได้
ส่วนอีกวิชาหนึ่งคือ “คาถาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์” นั้น ท่านร่ำเรียนมาจากอาจารย์ผึ้งหรือบรมครูผึ้งบุญ เป็นชาวนครศรีธรรมราช ตามตำรากล่าวว่าตระกูลท่านเรียนมาจากพระธุดงค์ ผู้ร่ำเรียนพระคาถานี้ต้องทำทานใส่บาตรทุกวันและภาวนาคาถานี้เช้าค่ำมิได้ขาด หากภาวนา ๓ จบก็ให้ภาวนา ๓ จบทุกวันถึงได้ผล (อย่าโลเล ท่องจบเดียวบ้าง สามจบบ้าง ห้าจบบ้างตามอารมณ์มิได้ผลเลย)
การพบครูผึ้งบุญนั้น หลวงพ่อปานท่านก็พบในสมาธิอีกเช่นกัน เป็นเรื่องของผู้ได้อำนาจสมาธิฌานจึงอาจติดต่อกันทางจิตได้ จิตที่ฝึกย่อมมีอานุภาพหลายๆแบบ ทั้งสามารถส่งกระแสเหมือนคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์ ผู้ที่สามารถสื่อกันทางจิตนั้นถ้าขั้นต่ำจะสามารถสื่อสารกันแบบความรู้ทางใจ คือรู้ขึ้นมาเฉยๆ แต่ไม่เห็นภาพ สำหรับผู้ที่ได้สมาธิชั้นสูงนั้นจะเห็นภาพผู้ที่โทรจิตเข้ามาพร้อมทั้งได้ยินเสียงที่สื่ออกมาทางใจอย่างชัดเจน
เรื่อง “คาถาพระปัจเจกโพธิเจ้า” นั้น สำคัญมาก เพราะผู้ที่ท่องถาคานี้แบบเพียงแต่ท่อง ท่านว่าจะมีกินมีใช้แบบพอยาไส้ แต่ถ้าท่องคาถานี้จนได้ฌาน ท่านว่ามีกินแบบเศรษฐี ดังนั้นผู้ท่องคาถานี้ที่สำเร็จต้องเอาคาถานี้มาภาวนาจนได้สมาธิฌาน จึงถือว่าทำได้ถึงขั้นจริงๆ ผู้ที่ทำและเห็นผลมามากแล้วคือ “เจ้าของยาตราใบโพธิ์” มาขอเรียนคาถานี้กับหลวงพ่อปานตอนที่ท่านมาเทศน์ที่วัดโพธิ์ท่าเตียน
คาถาพระปัจเจกโพธิเจ้า ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
ตั้ง "นะโม" ๓ จบ
พระคาถาบทนำว่าครั้งเดียว
พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ
พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ ว่าดังนี้
"วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม" (อ่านว่า สะหวา - โหม)
จะโปรดบุคคลทั้งหลายที่ยากจนขัดสน เพื่อให้พ้นทุกข์จากความอดอยาก แต่ท่านห้ามประพฤติความชั่ว ต้องรักษาศีล ๒ ข้อ ที่สำคัญที่สุด ให้ได้แน่นอนก่อนปฏิบัติพระคาถานี้คือ
๑. อทินนาทาน เว้นจากการลักทรัพย์หรือหยิบฉวยสิ่งของ ที่เจ้าของเขาไม่อนุญาตมาเป็นสมบัติของตน
๒. เว้นจากการดื่มเสพสุรายาเมาทุกชนิด กับห้ามใช้ในทางมิจฉาชีพทุกชนิด และการพนันต่างๆ ด้วย
ถ้าผู้ใดรักษาศีล ๕ ได้ทั้งหมดก็ยิ่งดี ผู้ใดประพฤติได้ดังนี้แล้ว จงปฏิบัติตามพระคาถาของพระปัจเจกโพธิ์ จะเห็นคุณในไม่ช้าเพียงเวลา ๖ เดือนก็ทราบได้ ถ้าใครทำนานๆ ได้หลายปีก็จะมีความสุขยิ่งขึ้นไป ทั้งชาตินี้และชาติหน้า
ใครได้ปฏิบัติตามจงกระทำใจให้ผ่องแผ้ว ระลึกถึงพระรัตนตรัย และพระปัจเจกโพธิ์ให้เที่ยงแท้ (อย่าได้ระแวงหรือสงสัย)
เคล็ดวิชานี้ มีคนทำได้และประสบความสำเร็จจริงอย่างมากมายมาแล้ว
ติดตามตอนต่อๆไป ได้ที เพจ “ปาฏิหาริย์” https://www.facebook.com/partiharn99/
ข่าวโดย : ไญยิกา เมืองจำนง (สำนักข่าว ทีนิวส์)