ที่มาของพระมหาพิชัยมงกุฎ สิ่งมงคลล้ำค่าบนแผ่นดิน 1ใน เครื่องราชกกุธภัณฑ์สัญลักษณ์ของพระราชา ทรงเคยสวมเพียงครั้งเดียวตลอดรัชกาล

ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th/

เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ หมายถึง สิ่งของอันเป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นพระราชาธิบดี รวม ๕ สิ่ง เมื่อพระมหากษัตริย์เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษก จะได้มีการถวายเครื่องเบญจกกุธภัณฑ์ ๕ สิ่ง อันแสดงถึงการเป็นพระราชาธิบดีโดยสมบูรณ์ สำหรับเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ ตามตำราที่มีมาแต่โบราณ จะมีกล่าวถึงแตกต่างกันออกไป อันจะเป็นเพราะในแต่ละภูมิภาคมีความเชื่อ หรือคติที่แตกต่างกัน

ในส่วนของเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ของพระมหากษัตริย์ไทยนั้นมีปรากฏรายชื่อในศิลาจารึกเรื่องอภิเษกพระเจ้าเลอไทย เมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๐ อยู่ ๓ สิ่ง คือ ๑. เศวตฉัตร ๒. พระขรรค์ชัยศรี๓. มงกุฎ ส่วนอีก ๒ สิ่งนั้นไม่ปรากฏว่าเป็นอะไร

ที่มาของพระมหาพิชัยมงกุฎ สิ่งมงคลล้ำค่าบนแผ่นดิน 1ใน เครื่องราชกกุธภัณฑ์สัญลักษณ์ของพระราชา ทรงเคยสวมเพียงครั้งเดียวตลอดรัชกาล

ที่มาของพระมหาพิชัยมงกุฎ สิ่งมงคลล้ำค่าบนแผ่นดิน 1ใน เครื่องราชกกุธภัณฑ์สัญลักษณ์ของพระราชา ทรงเคยสวมเพียงครั้งเดียวตลอดรัชกาล

ในครั้งนี้ จะเล่าถึงเรื่องพระมหาพิชัยมงกุฏ ซึ่งจัดเป็นสิ่งมงคลอันดับแรกในเครื่องราชกกุธภัณฑ์

พระมหาพิชัยมงกุฎ เป็นพระมหามงกุฎทองคำลงยาประดับ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธ-ยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เฉพาะองค์พระมหามงกุฎซึ่งไม่รวมถึงพระจอน สูง ๕๑ ซม. ถ้ารวมถึงพระจอนสูง ๖๖ ซม. มีน้ำหนัก ๗๓๐๐ กรัม

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แต่งเติมพระมหาพิชัยมงกุฎนี้โดยประดับเพชรขนาดใหญ่ที่ยอดพระมหามงกุฎ ๑ เม็ด และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานขนานนามเพชรเม็ดนี้ว่า “พระมหาวิเชียรมณี”

 

ความหมายของพระมหาพิชัยมงกุฎนี้ แสดงถึงยอดพระวิมานของพระอินทร์หรือเทพ พระมหามงกุฎนี้สร้างขึ้นในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 ทำด้วยทองคำลงยาประดับเพชร

ครั้นถึงสมัยพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงมีรับสั่งให้นำเพชรเม็ดใหญ่จากประเทศอินเดียมาประดับไว้บนยอดพระมหาพิชัยมงกุฎ

ซึ่งมีความหมายว่าเป็นของหนัก เป็นพระราชภาระของพ่ออยู่หัว เพราะต้องทรงแบกรับความทุกข์ ความโศก และโรคภัยของประชาชนทั้งปวง พระมหาพิชัยมงกุฎมีน้ำหนักกว่า 7.3 กิโลกรัม

ที่มาของพระมหาพิชัยมงกุฎ สิ่งมงคลล้ำค่าบนแผ่นดิน 1ใน เครื่องราชกกุธภัณฑ์สัญลักษณ์ของพระราชา ทรงเคยสวมเพียงครั้งเดียวตลอดรัชกาล

 

 

 

ที่มาของพระมหาพิชัยมงกุฎ สิ่งมงคลล้ำค่าบนแผ่นดิน 1ใน เครื่องราชกกุธภัณฑ์สัญลักษณ์ของพระราชา ทรงเคยสวมเพียงครั้งเดียวตลอดรัชกาล

เครื่องราชกกุธภัณฑ์ มีความสำคัญยิ่งเพราะเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระราชาธิบดี จึงเป็นสิ่งที่จะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายใน ซึ่งเป็นเครื่องทรงของพระมหากษัตริย์ไทย เครื่องทรงเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่า "พระเจ้าอยู่พระองค์นั้นๆได้ผ่านพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเป็นพ่ออยู่หัว" ตรงตามโบราณราชประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่ครั้งกรุงเก่าทุกประการ

ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเครื่องเบญจราชฯ นี้ เพียงแค่ครั้งเดียว นั่นก็คือวันที่พระองค์เข้าพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเป็นพ่ออยู่หัวและจะไม่ทรงเครื่องเบญจราชฯอีกเลยตลอดรัชกาล

เพราะเครื่องเบญจราชฯ นี้เป็นเครื่องทรงที่สงวนไว้สำหรับพิธีบรมราชาภิเษกเท่านั้น ดังนั้นหลังจากพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว เจ้าพนักงานจะอัญเชิญครื่องเบญจราชฯทอดถวายไว้ที่ข้างๆ พระราชบัลลังก์แทน

 

ความหมายของเครื่องราชกกุธภัณฑ์

กกุธภัณฑ์ หรือ เครื่องราชกกุธภัณฑ์ ตามรูปศัพท์แปลว่าเครื่องใช้สำหรับพระมหากษัตริย์

กกุธภัณฑ์ เป็นคำภาษาบาลี มาจาก กกุธ แปลว่า เครื่องหมายความเป็นพระราชา + ภณฑ แปลว่า ของใช้

เครื่องราชกกุธภัณฑ์จึงหมายถึง อุปกรณ์, เครื่องทรง และ/หรือ สิ่งอื่นๆ ที่เป็นของพระมหากษัตริย์ของประเทศต่างๆ ที่มอบให้แก่พระมหากษัตริย์องค์ต่อไปเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการมอบสิทธิในการครองราชบัลลังก์

เครื่องราชกกุธภัณฑ์จะประกอบด้วย พระมหาพิชัยมงกุฎ, พระแสงขรรค์ชัยศรี, ธารพระกร, วาลวิชนี(พัดวาลวิชนี,พระแส้จามรี), ฉลองพระบาทเชิงงอน และสิ่งอื่นๆ ที่ถือว่าเป็นสิ่งประกอบเกียรติยศของประมุขของประเทศตามแต่ประเทศไป

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องได้ที่ : เปิดประวัติพระแสงขรรค์ชัยศรี ศาสตราวุธคู่บารมีแห่งราชา สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีค่าแห่งสุวรรณภูมิ สุดยอด1ใน5 เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์

เรียบเรียงข้อมูลและภาพประกอบจาก : วิกิพีเดีย , เพจคลังประวัติศาสตร์ไทย, สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ฯ (TK Park)

ข่าวโดย :ไญยิกา เมืองจำนงค์  (สำนักข่าว ปัญญาญาณ ทีนิวส์)