จำได้ไหม?  ชายชรานุ่งโสร่ง ไม่ใส่เสื้อ ที่พูดตอบคำถามกับนายหลวง รัชกาลที่๙ จนพระองค์มีความพอพระราชหฤทัย และทรงเรียกเขาว่า "พระสหายแห่งสายบุรี"  นายวาเด็ง ปูเต๊ะ

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th

จำได้ไหม?  ชายชรานุ่งโสร่ง ไม่ใส่เสื้อ ที่พูดตอบคำถามกับนายหลวง รัชกาลที่๙ จนพระองค์มีความพอพระราชหฤทัย และทรงเรียกเขาว่า “พระสหายแห่งสายบุรี”  นายวาเด็ง ปูเต๊ะ

จำได้ไหม?  ชายชรานุ่งโสร่ง ไม่ใส่เสื้อ ที่พูดตอบคำถามกับนายหลวง รัชกาลที่๙ จนพระองค์มีความพอพระราชหฤทัย และทรงเรียกเขาว่า "พระสหายแห่งสายบุรี"  นายวาเด็ง ปูเต๊ะ

ในวันที่30 กันยายน 2535 ในหลวงรัชกาลที่๙  เสด็จพระราชดำเนินยังโครงการพัฒนาพรุแฆแฆ อ.สายบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมขนาดใหญ่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ จึงทรงมีพระราชดำรัสให้ศึกษาหาวิธีระบายน้ำในที่ลุ่มยามน้ำหลากและเก็บกักไว้ใช้ยามหน้าแล้ง ชาวบ้านจะได้มีน้ำใช้เพื่อการเพาะปลูก และเพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจน  ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระ เนตรด้วยพระองค์เอง แต่เนื่องด้วยเวลาเย็นแล้ว และไม่ได้เตรียมเส้นทางไว้รอรับเสด็จล่วงหน้า ที่สำคัญเป็นเส้นทางทุรกันดาร รถยนต์ยังเข้าไปไม่ถึงจุดหมาย เจ้าหน้าที่จึงกราบบังคมทูลว่าเสด็จฯ ไปไม่ได้ ด้วยพระราชหฤทัยที่มุ่งมั่นในอันที่จะบำบัดความเดือดร้อนของชาวบ้าน พระองค์ยังเสด็จพระราชดำเนินต่อไป เมื่อสิ้นสุดเส้นทางรถยนต์ จึงเสด็จฯ ตามทางเท้าเล็กๆ สองข้างรกชัฏไปอีกไกลด้วยพระบาท เมื่อถึงชายคลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จนั้น ตะวันลับขอบฟ้าพอดี ทรงพิจารณาแผนที่ด้วยแสงจากไฟฉายเป็นเวลานาน ท่ามกลางความมืดมิดและความตึงเครียดของเจ้าหน้าที่ถวายอารักขา

จำได้ไหม?  ชายชรานุ่งโสร่ง ไม่ใส่เสื้อ ที่พูดตอบคำถามกับนายหลวง รัชกาลที่๙ จนพระองค์มีความพอพระราชหฤทัย และทรงเรียกเขาว่า "พระสหายแห่งสายบุรี"  นายวาเด็ง ปูเต๊ะ

 

จำได้ไหม?  ชายชรานุ่งโสร่ง ไม่ใส่เสื้อ ที่พูดตอบคำถามกับนายหลวง รัชกาลที่๙ จนพระองค์มีความพอพระราชหฤทัย และทรงเรียกเขาว่า "พระสหายแห่งสายบุรี"  นายวาเด็ง ปูเต๊ะ

ขณะที่ นายวาเด็ง ปูเต๊ะ เป็นชาวบ้านหมู่ 5 บ้านทุ่งเค็จ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการดูแลต้นทุเรียนและลองกองในสวน ช่วงเวลาใกล้ค่ำได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา หนึ่งในจำนวนนั้นได้กวักมือเรียกให้เข้าไปหา แต่ปู่วาเด็งไม่กล้าเข้าใกล้ จากนั้นทหารกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาและกล่าวว่าในหลวง รัชกาลที่๙  เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรความเป็นไปได้ในการสร้างอาคารกั้นน้ำที่คลองน้ำจืด “ตอนนั้นเป๊าะทราบแล้วว่าเป็นในหลวง แต่จะเข้าไปใกล้ๆ ก็ไม่กล้า เพราะว่านุ่งโสร่งตัวเดียว ไม่ได้สวมเสื้อ”  พอเข้าไปใกล้ๆ ท่านก็บอกว่า จะมาขุดคลองชลประทานให้ พอได้ยินอย่างนั้นดีใจมาก คุยกันเยอะ ท่านถามว่าถึงเส้นทางของลำคลอง และ ถ้าไปออกทะเลจะมีกี่เกาะ เป๊าะก็ตอบท่านไปว่ามี 4 เกาะ ท่านก็ชมว่า เก่งสามารถจำทุกที่ที่ผ่านไปได้ แล้วท่านก็เปิดดูแผนที่ที่นำมาด้วย แล้วบอกว่า เป๊าะรู้จริง ไม่โกหก ทุกสิ่งที่เป๊าะบอกมีอยู่ในแผนที่ของพระองค์แล้ว ในหลวงคุยกับเป๊าะเป็นภาษามลายู พอเจอกันบ่อยๆ คุยกัน มีความเห็นตรงกัน ด้วยความเป็นคนซื่อตรง ในหลวง จึงมีพระราชดำรัสให้เป็น “พระสหายแห่งสายบุรี”  เป๊าะบอกว่า”ทุกสิ่งทุกอย่างที่บอกท่านไปทั้งหมดเป็นความจริง พูดโกหกไม่ได้จะเป็นบาป" ปู่วาเด็งเล่าเหตุการณ์ ซึ่งในครั้งนั้นปู่วาเด็งได้ถวายที่ดิน และ เครื่องสูบน้ำที่ซื้อมาใหม่แก่ ในหลวงรชกาลที่๙  เพื่อดำเนินโครงการพระราชดำริด้วย
 

จำได้ไหม?  ชายชรานุ่งโสร่ง ไม่ใส่เสื้อ ที่พูดตอบคำถามกับนายหลวง รัชกาลที่๙ จนพระองค์มีความพอพระราชหฤทัย และทรงเรียกเขาว่า "พระสหายแห่งสายบุรี"  นายวาเด็ง ปูเต๊ะ
 

จำได้ไหม?  ชายชรานุ่งโสร่ง ไม่ใส่เสื้อ ที่พูดตอบคำถามกับนายหลวง รัชกาลที่๙ จนพระองค์มีความพอพระราชหฤทัย และทรงเรียกเขาว่า "พระสหายแห่งสายบุรี"  นายวาเด็ง ปูเต๊ะ

เมื่อครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระประชวร ประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ปู่วาเด็งได้เดินทางจาก จ.ปัตตานี มาเข้าเฝ้าถวายพระพร เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2552 ใช้วิธีลงนามถวายพระพรด้วยการพิมพ์นิ้วโป้งมือข้างขวาลงบนสมุดลงนามถวายพระพร แล้วให้หลานชายเขียนชื่อ “วาเด็ง” กำกับอีกครั้ง เนื่องจากไม่สามารถเขียนภาษาไทยได้ อย่างไรก็ตาม ปู่วาเด็ง เสียชีวิตลงอย่างสงบที่บ้านพัก ในวันที่ 7 สิงหาคม 2555 หลังเข้ารักษาอาการป่วยด้วยโรคหัวใจและโรคไตที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มานานกว่า 1 ปี โดยก่อนสิ้นใจได้ฝากผู้ใกล้ชิดให้ดูแลต้นจำปาดะหลังบ้านที่มีอายุกว่า 100 ปี ให้ดี และให้นำผลจำปาดะไปถวายในหลวง ดั่งที่ตนเองเคยปฏิบัติทุกปี

จำได้ไหม?  ชายชรานุ่งโสร่ง ไม่ใส่เสื้อ ที่พูดตอบคำถามกับนายหลวง รัชกาลที่๙ จนพระองค์มีความพอพระราชหฤทัย และทรงเรียกเขาว่า "พระสหายแห่งสายบุรี"  นายวาเด็ง ปูเต๊ะ

ที่มา : http://news.muslimthaipost.com/news/27315

ข่าวโดย :  กิตติ ทีนิวส์  / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ – ทีนิวส์