เรียนรู้จากความผิดพลาด!! บทเรียนลูกผู้ชายของ “ไผ่ ดาวดิน” ให้ราคาต่างกับเนติวิทย์ มีความเป็นลูกผู้ชายกว่าเยอะ!! #โดยสุวินัย ภรณวลัย

ลูกผู้ชายชื่อไผ่ / สุวินัย ภรณวลัย

 

โดยส่วนตัวแม้ผมมิได้เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงหลังๆของไผ่ ดาวดิน โดยเฉพาะเรื่องเรื่องการแชร์ข่าว "พระราชประวัติกษัตริย์พระองค์ใหม่ของไทย"จากเว็บข่าว BBCThai พร้อมคอมเมนต์ซึ่งผมมองว่าเป็นการกระทำที่ขาดความยั้งคิด

(อ.สุวินัย ภรณวลัย เจ้าของบทความ)

แต่ความห้าว กร้าวแกร่งของไผ่ ทำให้ผมมองเห็นตัวตนในวัยหนุ่มของ "พี่เสก" (เสกสรรค์ ประเสริฐกุล) ที่ผมเคารพรักในตัวของไผ่ และผมไม่แปลกใจนักที่ กลุ่มคนเดือนตุลาจำนวนไม่น้อยแสดงความเห็นใจในชะตากรรมของไผ่อย่างเปิดเผย คงเป็นเพราะพวกเขา (รวมทั้งตัวผมด้วย) แลเห็นส่วนเสี้ยวแห่งตัวตนของพวกเขาในตัวไผ่ นั่นเอง

มันเป็นอภิสิทธิ์ของลูกผู้ชายในวัยฉกรรจ์เท่านั้นจริงๆ ที่จะลุกขึ้นมากล้า ท้าโลก ท้าอำนาจรัฐอย่างไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆทั้งสิ้น โดยไม่หวั่นเกรงผลกระทบใดๆที่จะตามมา

ไผ่! กลายเป็นสัญลักษณ์ของขบถทางความคิดในยุคปัจจุบันนี้ เขามีคุณสมบัติของนักปฏิวัติอาชีพ เพียงแต่เขาเกิดผิดยุค และเกิดมาช้าไปหกสิบปีเท่านั้น

 

(เนติวิทย์ )

โดยส่วนตัวผมมองไผ่ ต่างไปจากเนติวิทย์และให้ราคาต่างกันมาก โดยวัดจากความเป็นลูกผู้ชายในตัว มิได้วัดจากความเกรียนทางความคิดเฉยๆ

ล่าสุด ทนายของไผ่คนหนึ่งได้โพสต์ในเฟซบุ้คส่วนตัวของเขาว่า
"กลับจากขอนแก่นคราวนี้ สังเกตได้ว่าแววตาไผ่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เต็มไปด้วยความหวัง วันนี้ดูอ่อนล้าและไร้แววหวัง
คุกมันกร่อนความหวังของคนเรา และคงเป็นแบบนี้อีกหลายปีเดือน
โปรดขังมันไว้และเรียกมันว่า นี่คือความดีงาม คือความยุติธรรม"

 

ผมอยากให้ไผ่ มองในทางร้ายเรื่องคดีนี้ไว้ก่อนแล้วมุ่งแปลงคุกให้เป็นมหาลัยลูกผู้ชาย มหาลัยแห่งชีวิต

ผมอยากให้ไผ่มองว่า นี่คือโอกาสอันหาได้ยากที่ไผ่จะใช้เวลาในคุก ศึกษาอ่านหนังสือเป็นร้อยๆเป็นพันๆเล่มหลังจากนี้
เพื่อออกมาเป็นผู้นำสังคมในอนาคตข้างหน้า และเพื่อทำงานใหญ่ในวันข้างหน้า

 

ผมอยากให้ไผ่ฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่งดุจนักมวยนักรบระหว่างที่อยู่ในคุก
รวมทั้งอยากให้ไผ่ฝึกฝนทางจิตหมั่นเจริญสมาธิเพื่อให้จิตมีพลัง สงบนิ่ง หนักแน่นและไม่ฟุ้งซ่าน

สุดท้ายผมอยากให้ไผ่หมั่นตรวจสอบ ทบทวนบทเรียนข้อผิดพลาดทางความคิดและการเคลื่อนไหวของตนเอง
เพื่อสถาปนาความเป็นใหญ่ทางอุดมการณ์ในอนาคต

 

บทความโดย : สุวินัย ภรณวลัย