- 30 มี.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
ความสัมพันธ์ระหว่างสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก กับ ท่านพุทธทาส ท่านทั้งสองต่างเคารพนับถือซึ่งกันและกัน มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่ง เมื่อครั้งที่สมเด็จพระญาณสังวรฯ เสด็จเยี่ยมภิกษุสามเณรและประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ๕ จังหวัด คือ สงขลา สตูล ปัตตานี นราธิวาส และยะลา ตามคำกราบทูลอาราธนา ของศูนย์อำนวยการการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
พระดร.อนิลมาน ธมฺมสากิโย หนึ่งในคณะผู้ติดตามเล่าว่า
ตอนที่เสด็จไปเยี่ยมนั้น ท่านพุทธทาสยังไม่ได้อาพาธหนัก ยังไม่ได้ล้มหมอนนอนเสื่อ เป็นแต่เพียงเจ็บออดแอด ยังออกมารับเสด็จได้เป็นชั่วโมง ท่านพาไปดูโรงมหรสพทางวิญญา ณ ลานหินโค้ง แล้วก็นำมาเสด็จประทับที่ม้าหินหน้ากุฏิ ที่ปกติเก้าอี้ม้าหินนั้นท่านอาจารย์พุทธทาสนั่งประจำ
ท่านอาจารย์พุทธทาสทูลสมเด็จพระสังฆราชให้ประทับ แล้วท่านก็ไม่ยอมนั่ง ท่านพุทธทาสทูลว่า
“ขอประทานกราบสมเด็จพระสังฆราชหน่อยที่อุตส่าห์เสด็จมาเยี่ยมถึงวัด”
เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงพยายามห้าม ท่านก็ไม่ยอม แล้วต่างคนก็ต่างกราบ
พอท่านพุทธทาสกราบ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ก็บอก ไม่ได้ๆ ต้องกราบกลับ
และวันครบรอบ 100 ปี ชาตกาลของท่านพุทธทาสภิกขุ วันที่ 27 พฤษภาคม 2549 ที่องค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติได้ประกาศยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ซึ่งเหล่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและหลายๆ หน่วยงานต่างแสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณด้วยการสืบสานปณิธานในการเผยแผ่หลักธรรมพระพุทธศาสนา สมเด็จพระญาณสังวร ลิขิตสาราณียกถา คาถาสดุดีท่านพุทธทาสภิกขุ เนื่องในวโรกาสนี้ ความว่า...
๑ โย หิ เสฏฺโฐ มหาเถโร อินฺทปญฺโญ สุวิสฺสุโต
สพฺพโสกฺขรนาเมน พุทฺธทาโสติ สมฺมโต
๒ พหุสฺสุโต สุสิกฺขิโต โสภิโต ปฏิปตฺติยา
ปสํสารหอาจาโร ปา ติโมกฺเข สุสํวุโต
๓ สลฺเลโข วิริยารมฺโภ ลิขิตเทสนาวสี
วาสี โมกฺขพลาราเม สีตารญฺเญ มโนรเม
๔ อิทานิสฺส ปริปญฺณํ สตายุ ชาตกาลโต
โส โข กาลกโต นิจจํ ธรํ กิตฺติคุเณหิปิ
อนุเทสิตธมฺมสฺส วเสเนว นิรนฺตรํ
ยูเนสโกตุฎฺฐิทาเยน วิเทเสหิ ปสํสิโต
๕ รตนตฺตยานุภาเวน รตนตฺตยเตชสา
กตปุญฺญานุภาเวน กตปุญฺญสฺส เตชสา
๖ ทยฺยชาติ วิโรเจตุ สพฺพสมฺปตฺติสิทฺธิยา
อิทฺธิ ปปฺโปตุ เวปลฺลํ วิรุฬฺหิ จุตฺตริ สทา
๗ สพฺเพปิ พุทฺธทาสสฺส สิสฺสา โหนฺตุ คุณุตฺตรา
ยมิจฺฉนฺติ สพฺพนฺตํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌตูติ ฯ
คำแปล
๑ พระมหาเถระท่านใดแล ผู้ประเสริฐสุด มีนามว่า อินทปัญญะ หรือ
ที่คนทั่วไปรู้จักกันโดยสมญานามว่า ท่านพุทธทาสภิกขุ
๒ ท่านเป็นพหูสูต เรียนรู้วิชาการต่างๆ มามาก ทั้งงามด้วยข้อ
วัตรปฏิบัติควรแก่การยกย่องสรรเสริญ สำรวมดีแล้วใน
พระปาติโมกข์
๓ มีจิตใจหมดจด ช่ำชองในบทความและเทศนา มีปกติอยู่ที่สวน
โมกขพลารามอันเป็นวัดป่าร่มเย็น เบิกบานใจ
๔ บัดนี้ เป็นวาระครบ ๑๐๐ ปี แห่งชาตกาลของท่าน องค์ท่านนั้น
ถึงแม้จะมรณภาพไปแล้ว แต่เกียรติคุณก็ยังคงอยู่ แม้แต่ชาวต่าง
ประเทศ ก็พากันยกย่องสรรเสริญ ถวายรางวัลยูเนสโกให้แก่ท่าน
ด้วยเหตุแห่งศาสนธรรมที่ท่านแนะนำพร่ำสอนอยู่เป็นประจำ
๕ ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัย ด้วยเดชแห่งพระรัตนตรัย
ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ท่านพุทธทาสได้กระทำแล้ว และ
ด้วยเดชแห่งบุญที่ท่านสั่งสมอบรมแล้ว
๖ ขอประเทศไทย จงรุ่งโรจน์ด้วยความสำเร็จดังมโนรถทุกประการ
จงประสบแต่ความสำเร็จ รุ่งเรือง ไพบูลย์อย่างยิ่งยวด ทุกเมื่อ
๗ ขอมวลศิษยานุศิษย์ของท่านพุทธทาสภิกขุทุกท่าน จงมีคุณธรรม
อันยอดเยี่ยม ปรารถนาสิ่งหนึ่งสิ่งใด ขอให้สำเร็จโดยพลัน
จงทุกประการ เทอญ ฯ
(คัดลอกจาก หนังสืออนุสรณ์เนื่องในงานเฉลิมฉลอง ๑๐๐ ปี
ชาตกาล พุทธทาสภิกขุ 27 พฤษภาคม 2549)