พลิกโฉมประวัติศาสตร์!! เปิดหลักฐานใหม่..."พระเจ้าตาก" ไม่ได้หนีทัพ!! แต่บุกฝ่าพม่าออกไปจันทบุรีตามพระบัญชาของ "พระเจ้าเอกทัศน์"

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

ตามประวัติศาสตร์ที่เคยเล่าเรียนกันมาว่า เจ้าเมืองตาก หรือ พระยาตากสิน ตำแหน่งเลื่อนขึ้นเป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชร และดำรงตำแหน่งเป็น พระยาวชิรปราการ ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ยังไม่ทันได้ดูแลเมืองกำแพงเพชร พม่าก็ยกมาตีกรุงศรีอยุธยา จึงจำเป็นต้องช่วยป้องกันกรุงศรีอยุธยา แต่ด้วยความอ่อนแอในการปกครอง ภายในกรุงศรีอยุธยา จึงเป็นเหตุให้พระยาวชิรปราการหนีออกจากกรุงศรี ฯ เพื่อหาโอกาสกลับไปต่อสู้กู้ชาติคืนมาอีกครั้ง ดีกว่าจะอยู่และตายอย่างอดสู

 คุณกรกิจ ดิษฐาน คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ได้เผยแพร่ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊คส่วนตัว ในเรื่องของ พระเจ้าตากสิน ว่า ไม่ได้หนีทัพ แต่ตีฝ่าทัพข้าศึกตามบัญชา ของพระเจ้าเอกทัศน์ ดังนี้...

ฟ้าใหม่หลังไฟเผากรุง

"...ข้าพเจ้าขอรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อครั้งที่พม่าข้าศึกได้ทำสงครามรุกรานสยาม พระเจ้าแผ่นดินสยามได้ส่งขุนนางนามว่าพระยาตากไปยังแขวงเมืองจันทบูร เพื่อรวบรวมกำลังคนที่นั่นแล้วพากันมาช่วยกรุงสยาม แต่ภารกิจไม่ว่องไวพอ ราชอาณาจักรสยามจึงถูกข้าศึกที่ว่านั้นพิชิตลง พระเจ้าแผ่นดินกับพระบรมวงศ์และขุนนางกับไพรฟ้าทั้งปวงไม่ถูกสังหารก็พากันหนีตาย

โดยเหตุที่ทั่วแผ่นดินพังนาศจนสิ้น ย่อยยับเสียจนปราศจากผู้ใดมาปกครองบ้านเมือง มีแต่พระยาตากที่กล่าวถึงข้างต้น พระยาตากกับไพร่พลจำนวนหนึ่งยกทัพเข้ากรุง (ซึ่งถูกเผาทำลายและปล้นชิงโดยข้าศึกแล้วทิ้งเมืองไป) ผู้คนที่หนีเข้าป่าก็พากันมาเข้าร่วมกับท่าน และพากันยกให้ท่านเป็นเจ้าเหนือหัวปกครองแผ่นดิน แผ่นดินนี้จึงกลับมาสถาพรอีกครั้ง ที่จริงแล้วยิ่งมั่งคั่งกว่าเดิมเสียอีก บัดนี้มีสำเภาและเรือสินค้ามาเยือนมากกว่าแต่ก่อน ข้าพเจ้าจึงขอร้อง ฯพณฯ ให้สร้างห้างค้าขายที่นั่น และส่งตัวแทนกับข้ารับใช้เพื่อค้าขายเหมือนดังก่อนเก่า โดยเราจะให้คำมั่นสัญญาว่า บริษัทปรารถนาสิ่งใด ข้าพเจ้าจะสั่งการให้คนกรมพระคลังจัดการโดยมิให้ตกหล่น ... "

ลิขิตฉบับนี้เป็นของพระยาพิพิธโกษา (รองเจ้ากรมพระคลัง) ส่งไปถึงนายข้าหลวงใหญ่บริษัท VOC ที่เมืองปัตตาเวีย เมื่อวันที่ 13 มกราคม 1769 (ปีที่พระเจ้าตากปราบก๊กเจ้าพระฝางรวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่นได้อีกครั้ง) เพื่อรายงานว่า บัดนี้กรุงสยาม (กรุงศรีอยุธยา) ได้แตกเสียแล้ว "ถูกพม่าเผาและปล้นชิง" หากแต่พระยาตาก "ผู้ได้รับมอบหมายจากพระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อน" ได้กอบกู้กรุงขึ้นใหม่ที่ธนบุรี มีพ่อค้านายวาณิชย์มาค้าขายดังเดิม ทั้งยังคึกคักรุ่งเรืองกว่ากรุงเก่าเสียอีก จึงขอเชิญบริษัทวิลันดาไปเปิดห้างค้าขายอีกครั้ง

อนึ่ง เมื่อครั้งที่พม่าเผากรุง ห้างวิลันดาได้รับความเสียหายพอควร นายห้างคนสุดท้าย คือ "นิโคลาส บาง" จมน้ำสิ้นชีพขณะหนีการปิดล้อมของพม่าครั้งแรก นิโคลาส บางผู้นี้มีภรรยาเป็นหญิงชาวกรุงศรี ชื่อ Meutha (ไม่รู้ออกเสียงยังไงดี) มีลูก 6 คน คนหนึ่งชื่อ "มิเชล บาง" ถูกพม่าจับตัวไว้ ต้องจ่ายค่าไถ่แล้วนำสมาชิกห้างวิลันดาหนีออกจากพระนครราว 1 ปีก่อนกรุงแตก

กระนั้น แม้กรุงศรีจะมีฟ้าใหม่ แต่บริษัทวิลันดามิได้กลับมาตั้งห้างตามคำขออีก

อย่างก็ตาม จดหมายฉบับนี้มีนัยสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย ช่วยบอกเล่าสถานการณ์หลังเสียกรุงไปสู่การรวมอำนาจใหม่ได้อย่างกระชับ และย้ำว่า "พระยาตาก" ไม่ได้ตีฝ่าโดยพลการ แต่มีโองการให้ไปรวมพลรับมือที่จันทบูร

——————————————

ลิขิตฉบับนี้แปลจากภาษาดัตช์เป็นอังกฤษโดยหอจดหมายเหตุบริษัท VOC ที่กรุงจาการ์ตา (ปัตตาเวีย) และแปลเป็นไทยบางส่วนโดยผมเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2560 หรือ 1 วันหลังการรำลึก 250 ปีกรุงสยามถูกพม่าเผาและปล้นชิง

——————————————

ภาพ - "ยุดยา" หรือ View of Judea, the Capital of Siam, Johannes Vinckboons (attributed to), c. 1662 - c. 1663 ของ Rijksmuseum

พลิกโฉมประวัติศาสตร์!! เปิดหลักฐานใหม่..."พระเจ้าตาก" ไม่ได้หนีทัพ!! แต่บุกฝ่าพม่าออกไปจันทบุรีตามพระบัญชาของ "พระเจ้าเอกทัศน์"