พระเมตตาในสมเด็จพระพันวัสสา กับความอกตัญญูของคณะราษฎร์!!! ทั้งพระชนม์ชีพทรงมีแต่โทมนัส ทั้งยังทรงโดนทำร้ายร้ายจิตใจจากคนกลุ่มเดิมๆ!!

ติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ที่ http://www.tnews.co.th

จากกรณีหมุดคณะราฎรที่หายไปจาก ลานพระบรมรูปทรงม้า ทำให้กระแสความสนใจเหตุบ้านการเมือง ในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครองกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องพระราชวังวินเซอร์ ที่ถูกแชร์ออกไปในโลกโซเชียลอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ล่าสุด 22 เมษายน ที่เฟซบุ๊คของ Pun Da” ก็ได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยมีเนื้อหาส่วนใหญ่กล่าวถึงพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ใจความว่า...

 

 

ตั้งแต่หมุดคณะราษฎรหายไป มีเรื่องนึงที่โดดเด่นขึ้นมา
.
คือ เรื่องพระราชวังวินเซอร์ ซึ่งรัชกาลที่๕โปรดฯให้สร้างเพื่อเป็นที่ประทับของสยามมกุฎราชกุมารพระองค์แรกของสยาม เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ
.
ซึ่งทรงเป็น"ลุงแท้ๆ"ของรัชกาลที่๙ แต่สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ ถ้าไม่ย้ายสายมกุฏราชกุมารไปทางโอรสสมเด็จพระศรีพัชรินทรฯ รัชกาลที่๖ ก็คงเป็น"เจ้าฟ้ามหิดล"พระราชบิดาของรัชกาลที่๙
.
แต่ที่ทำให้คิดก็คือ การรื้อวังซึ่งงดงาม และทรงคุณค่าในหลายๆด้าน เพื่อเอามาสร้างสนามกีฬา สะท้อนความอหังการ์ในอำนาจใหม่ของกลุ่มคณะราษฎร์ ก็...เท่านั้นเอง
.
พระเมตตาในสมเด็จพระพันวัสสา กับความอกตัญญูของคณะราษฎร์!!! ทั้งพระชนม์ชีพทรงมีแต่โทมนัส ทั้งยังทรงโดนทำร้ายร้ายจิตใจจากคนกลุ่มเดิมๆ!!

(วังวินเซอร์ ทุ่งปทุมวัน)

 

ที่ใช้คำว่ากลุ่มคณะราษฎร์ก็เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ หลวงศุภฯคงทำไม่ได้คนเดียว
.
เพียงแค่การอวดศักดาจึง ทำลายโบราณสถานที่ปัจจุบันประเมินค่าไม่ได้ลง
.
และทำร้ายจิตใจสมเด็จพระพันวัสสา ผู้ที่ทรงเคยช่วยลงขันไถ่บ้านเมืองหลังจากรบกับฝรั่งเศสเมื่อ รศ.112 
.
ถ้าไม่มีตรงนี้ ก็ไม่มีเอกราชไม่มีนักเรียนนอกให้กลับมาปฏิวัติ 
.
และเพราะค่าไถ่สงครามกับฝรั่งเศสคราวนี้แหละ เงินสำรองสะเทือนไปยันรัชกาลที่๗ ซ้ำด้วยเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก หุ้นวอลสตรีทตกรูดๆๆ อเมริกันยังต้องเข้าแถวปันอาหาร
.
แต่คณะราษฎรนี่แหละ เขียนแถลงการณ์ซะราวกับบ้านเมืองเรามันแร้นแค้นอยู่ชาติเดียว คงเหมือนคนสมัยนี้ที่เรียกประเทศไทยว่ากะลาแลนด์มั้ง ไม่รู้คณะราษฎร์กลับชาติมาเกิดหรือเปล่า
.
สมเด็จพระพันวัสสาท่านเป็นพระองค์แรกที่ก่อตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เปิดวังแจกของแจกอาหารช่วยน้ำท่วม
.
ที่ดินหลายแปลงที่รัชกาลที่๙พระราชทานให้เข้าโครงการปฏิรูปที่ดินเมื่อหลายสิบปีก่อน ก็น่าจะมาจาก"มรดก"จากพระพันวัสสา
.

พระเมตตาในสมเด็จพระพันวัสสา กับความอกตัญญูของคณะราษฎร์!!! ทั้งพระชนม์ชีพทรงมีแต่โทมนัส ทั้งยังทรงโดนทำร้ายร้ายจิตใจจากคนกลุ่มเดิมๆ!!

(พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า)

 

ความ"ช่างกล้า"ของคณะราษฎร์ยังไม่จบง่ายๆ หลังทูลเชิญ "หลาน"ท่านเป็นกษัตริย์ (ไม่แปลกหรอกที่แรกๆพระพันวัสสาท่านจะค้าน จนเมื่อมีการอ้างรัชกาลที่๗ ท่านก็จำใจยอม)
.
ตอนคณะราษฎรโดนโจมตีเรื่องพระคลังข้างที่ ก็หาเรื่องกลบข่าวด้วยการเชิญ รัชกาลที่๘ เสด็จนิวัตพระนครครั้งแรก เชิญกันอยู่สองรอบสามรอบ
.
เอ้า พอยุวกษัตริย์ รัชกาลที่๘ ท่านมา (ตอนนั้น รัชกาลที่๘ทรงบ่นกับสมเด็จย่าว่า "ตาอ้วนดุ" หมายถึงพระยาพหล) มาแล้ว กลับไปแหม่บๆ
.
ก็จับ "ลูกเลี้ยง" ของพระพันวัสสา คือกรมหลวงชัยนาทนเรนทร เข้าคุกตะรุเตาในฐานะนักโทษการเมือง ปลดบรรดาศักดิ์ ให้เป็น "นายรังสิต" เฉยๆ
.
ทั้งที่เจ้าองค์นี้ชีวิตทำแต่เรื่องสาธารณสุข เป็นคนชวนพระบรมราชชนกของรัชกาลที่๙ มาช่วยงานศิริราช ท่านจึงหันไปเรียนหมอ

พระเมตตาในสมเด็จพระพันวัสสา กับความอกตัญญูของคณะราษฎร์!!! ทั้งพระชนม์ชีพทรงมีแต่โทมนัส ทั้งยังทรงโดนทำร้ายร้ายจิตใจจากคนกลุ่มเดิมๆ!!

 


ก็ไม่รู้สินะ ประวัติศาสตร์อาจมีหลายด้าน คนก็มีหลายแง่มุม คณะราษฎรก็เหมือนกัน
.
แต่ถ้าจะหาคนที่ "ถูกกระทำ" มาโดยตลอด แต่ก็ยอมเสียสละเพื่อส่วนรวมมาตลอดอีกเหมือนกัน ไม่ได้มีแค่นายปรีดี หรือ ดร.ป๋วยของลิเบอรั่ล
.
ก็นี่แหละ สมเด็จพระพันวัสสาราชินีสมัยรัชกาลที่๕ ย่ารัชกาลที่๙ นี่แหละหนึ่งใน "ของแท้".

 

บทความจาก : เฟซบุ๊ค Pun Da