พ่อไม่เคยบอกว่า..พ่อเหนื่อยแค่ไหน!! เปิดพระตำหนักประจำภูมิภาค "ศูนย์บัญชาการของพ่อหลวง ร.๙" พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก!!

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

พ่อไม่เคยบอกว่า..พ่อเหนื่อยแค่ไหน!! เปิดพระตำหนักประจำภูมิภาค "ศูนย์บัญชาการของพ่อหลวง ร.๙" พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก!!

            หลายคนคงสังเกตเห็นแล้วว่า ในหลวง ร.๙ ของเราเป็นกษัตริย์ที่ทรงงานด้วยพระองค์เอง และทรงดูแลโปรเจกต์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด สังเกตได้จากทรงมีห้องทำงานในวังสวนจิตรฯ ที่มีลักษณะเหมือนห้องบัญชาการ เพื่อรับข่าวสารจากต้นตอที่อัพเดตทันท่วงที แล้วยามที่เสด็จฯ แปรพระราชฐานไปจังหวัดต่างๆ เพื่อลงพื้นที่ ติดตามดูงานในภูมิภาคต่างๆ เป็นประจำทุกปี เพื่อให้ได้ทอดพระเนตรโครงการพระราชดำริต่างๆ อย่างใกล้ชิด และเพื่อให้การเยี่ยมเยียนราษฎรด้วยพระองค์เองเป็นไปโดยสะดวก จึงทรงมีพระตำหนักประจำภูมิภาคเพื่อการนี้ 

 

 

             มีการประมาณกันว่าในแต่ละปี พระองค์ประทับอยู่ที่ต่างจังหวัดประมาณ ๒๐๐ วัน หรือ ๗ เดือน โดยจะเสด็จฯ ไปทรงงานที่ภาคเหนือประมาณ ๒ เดือนถึง ๒ เดือนครึ่ง ภาคใต้ประมาณ ๑ เดือนครึ่ง ภาคอีสานประมาณ ๑ เดือน และภาคตะวันตกอีกประมาณ ๑-๒ เดือน โดยในหลวงจะทรงใช้พระตำหนักส่วนพระองค์เป็นเสมือนออฟฟิศหรือศูนย์บัญชาการในแต่ละภูมิภาค โดยพระตำหนักหลักๆ ที่เสด็จอยู่เสมอมี ๕ แห่ง คือ

๑.พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน กรุงเทพมหานคร

         พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เป็นพระตำหนักในพระราชวังดุสิต ตั้งอยู่ที่แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

พ่อไม่เคยบอกว่า..พ่อเหนื่อยแค่ไหน!! เปิดพระตำหนักประจำภูมิภาค "ศูนย์บัญชาการของพ่อหลวง ร.๙" พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก!!

 

๒.พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่

                พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างขึ้นและพระราชทานนาม พระตำหนักองค์นี้ว่า "ภูพิงคราชนิเวศน์" ใช้เป็นที่ประทับในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรม ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงงาน และเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ รวมทั้งเพื่อรับรองพระราชอาคันตุกะที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับไทยในโอกาสต่างๆ การที่ทรงเลือกสร้างที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากมีอากาศเย็นสบาย ภูมิประเทศสวยงาม อีกทั้งเคยเป็นเมืองหลวงมาก่อน ผู้คนพลเมืองยังดำรงรักษาจารีตขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงามไว้

พ่อไม่เคยบอกว่า..พ่อเหนื่อยแค่ไหน!! เปิดพระตำหนักประจำภูมิภาค "ศูนย์บัญชาการของพ่อหลวง ร.๙" พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก!!

 

๓.พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร

              พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร เป็นพระตำหนักที่สร้างขึ้นในบริเวณเทือกเขาภูพาน ใน พ.ศ. ๒๕๑๘ โดย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นผู้ทรงเลือกพื้นที่สร้างพระตำหนักด้วยพระองค์เอง ทรงใช้แผนที่ทางอากาศและการเสด็จสำรวจเส้นทางบริเวณ ป่าเขา น้ำตก เป็นปัจจัยในการกำหนดเขตพื้นที่ก่อสร้างพระตำหนักและบริเวณพระตำหนักซึ่งประกอบด้วยเขตพระราชฐานชั้นในและเขตพระราชฐานชั้นนอก

พ่อไม่เคยบอกว่า..พ่อเหนื่อยแค่ไหน!! เปิดพระตำหนักประจำภูมิภาค "ศูนย์บัญชาการของพ่อหลวง ร.๙" พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก!!

 

๔.วังไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

             วังไกลกังวล เป็น พระราชฐานในสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระองค์ เป็นรโหฐานที่ประทับแปรพระราชฐานในต่างจังหวัด และเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี

พ่อไม่เคยบอกว่า..พ่อเหนื่อยแค่ไหน!! เปิดพระตำหนักประจำภูมิภาค "ศูนย์บัญชาการของพ่อหลวง ร.๙" พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก!!

 

๕.พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส

          พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ตั้งอยู่บริเวณเขาตันหยง (ตันหยง แปลว่า พิกุล) ตำบลกะลุวอเหนือ ตาม ทางหลวงสายนราธิวาส – ตากใบ ห่างจากตัวเมืองนราธิวาส ประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นที่แปรพระราชฐานของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ในช่วงเดือนสิงหาคมและตุลาคม ของทุกปี

พ่อไม่เคยบอกว่า..พ่อเหนื่อยแค่ไหน!! เปิดพระตำหนักประจำภูมิภาค "ศูนย์บัญชาการของพ่อหลวง ร.๙" พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก!!

 

           ช่วงต้นปีประมาณเดือนมกราคม-ต้นเดือนมีนาคม จะประทับอยู่ที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ พอถึงฤดูร้อนก็จะเสด็จฯ มาประทับที่วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะเสด็จฯ ลงปักษ์ใต้ไปพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส ในช่วงฤดูฝน ราวเดือนสิงหาคม-กันยายน พอถึงช่วงฤดูหนาว ราวเดือนพฤศจิกายน ก็จะเสด็จฯ มายังพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร ก่อนที่จะเสด็จฯ กลับมายังพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน กรุงเทพมหานคร ในช่วงปลายปี รวมไปถึงช่วงที่มีงานพระราชพิธีต่างๆ อาทิ งานเฉลิมพระชนมพรรษา งานฉัตรมงคล หรืองานพระราชทานปริญญาบัตร เป็นต้น

        

            การมีพระตำหนักประจำแต่ละภูมิภาคนั้นช่วยเอื้ออำนวยให้ในหลวงทรงงานได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น และที่สำคัญคือทำให้ท่านเข้าถึงความทุกข์ร้อนของราษฎรได้อย่างใกล้ชิด เพราะพระองค์จะทรงลัดเลาะไปตามหมู่บ้านที่ยากจนด้วยพระองค์เอง เสด็จฯ ไปแม้กระทั่งบนบ้านที่เอนโย้เย้ บางบ้านทรงต้องลอดใต้บันได บางบ้านทรงเดินไปทอดพระเนตรชีวิตชาวบ้านกันถึงก้นครัวเลยทีเดียว โดยพระองค์จะเสด็จฯ ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงพลบค่ำ บางครั้งเสด็จถึง ๒-๓ ทุ่มก็มี ทั้งที่สมัยนั้นไม่มีไฟฟ้า มีเพียงไฟฉายนำทางเท่านั้น

            พระตำหนักต่างๆ ทั่วประเทศจึงไม่ใช่แค่ใช้ประทับหรือประพาสเพื่อการพักผ่อนเท่านั้น แต่เปรียบเหมือนศูนย์บัญชาการการทรงงานของในหลวงสำหรับการพัฒนาประเทศและบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนให้คลายลงนั่นเอง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ นับตั้งแต่การครองราชย์ ๗๐ ปี ที่พระองค์ทรงห่วงใยราษฎรของพระองค์ และทรงได้รับการยกย่องว่าเป็น "พระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก" 

 

 

ที่มาจาก : เพจ สานต่อที่พ่อทำ