ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th

ตะกรุดหนังเสือ หลวงพ่อเที่ยง วัดพระพุทธบาทเขากระโดง บุรีรัมย์

วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2531 บนยอดเขากระโดง อันเป็นภูเขาไฟที่ดับมานับพัน ๆ ปี อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งของวนอุทยานเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดสี่ห้านายพร้อมด้วย ชาวบ้านอีกหลายคนได้ขึ้นไปชุุมนุมกันอยู่ที่นั่น... ชื่อของบรรดาข้าราชการจังหวัดบุรีรัมย์นั้น ท่านขอให้สงวนเอาไว้ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง แต่ชาวบ้านที่พอจะเปิดเผยได้ก็มี คุณวรพจน์ ลิ้มพานุกิจ คุณอุทัย ใจชื่น และคุณกลิ่น โนนสังกาศ เป็นชาวตลาดในเมืองบุรีรัมย์

เขามาชุมนุมทำอะไรกัน? การกระทำครั้งนี้ ในตอนแรกต้องการปกปิดเป็นความลับ เพราะไม่อยากให้ใครได้รู้เห็น แต่หลังจากผ่านการทดลองไปแล้ว ความลับทั้งหลายจึงถูกเปิดเผยขึ้น มีสิ่งหนึ่งแขวนอยู่กับกิ่งไม้ นั่นก็คือ ตะกรุด ดอกหนึ่ง ซึ่งชาวคณะได้นำมาจาก วัดพระพุทธบาทเขากระโดง เป็นของ หลวงพ่อเที่ยง ปภังกโร พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งดินแดนที่ราบสูง ได้รับจากมือมาก็เอามาลองกันเลย เพื่อที่จะดูว่าแน่จริงสมคำร่ำลือหรือเปล่า...........

ใครจะเป็นคนยิง ? เสียงผู้อาวุโสคนหนึ่งในคณะถามขึ้น ข้าราชการสังกัด นปพ. อาสาเป็นผู้ยิงเดินเข้าหาตะกรุดพร้อมด้วยปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาด 11 มม. ในมือ มีเสียงทัดทานของใครคนหนึ่งเตือนมาข้างหลัง.....เดี๋ยวเถอะมึง ได้รู้ว่าหมู่หรือจ่า หลวงพ่อท่านบอกห้ามลองของนะโว้ย!!! เฮียเงียบเถอะ เขากำลังจะเอาจริงเอาจัง. เสียงห้ามจากอีกคนยืนอยู่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

การทดลองวัตถุมงคลต่าง ๆ ของหลวงพ่อเที่ยงนั้นเป็น ข้อห้ามอย่างเด็ดขาด เพราะจะนำเอาสิ่งไม่ดีมาสู่ตัวเอง แต่คณะทดลองของขลังนี้ก็ยอมเสี่ยงด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าของที่ได้มา นั้นดีจริง เนื่องจากเห็นพิธีการสร้างแล้วน่าทึ่งแปลกพิสดารล้ำลึก ชนิดที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยนั่นเอง เริ่มตั้งแต่พิธีบวงสรวงเทพารักษ์ และดวงวิญญาณของพญาเสือโคร่ง ซึ่งน่าขนลุกขนพอง หลังจากนั้นก็มีการลงอักขระยันต์ลงบนหนังเสือโคร่ง กว่าจะเสร็จกินเวลานานมาก แล้วมาถึงพิธีปลุกเสกพระคาถากำกับ หัวใจเสือ เป็นอันแล้วเสร็จ ตะกรุดพญาเสือโคร่งมหาอำนาจ

ลองยิง"ตะกรุดหนังเสือ" หลวงพ่อเที่ยง จนหมดลูกโม่ ด้านทุกนัด!! หลับฝันเจอพญาเสือโคร่งตะปบอย่างไร้ปราณี ต้องรีบขอขมา..

หลวงพ่อเที่ยง

ปากกระบอกปืนถูกจ่อห่างจากตะกรุดดอก นั้นประมาณ 2 ฟุต ทุกคนกลั้นลมหายใจอย่างตื่นเต้น เดี๋ยวจะได้รู้กันว่าของหลวงพ่อนั้นแน่แค่ไหน แต่ก็มีเสียงทักท้วงขึ้นอีก หัวหน้าทีมสั่งให้เปลี่ยนปืนที่จะใช้ยิงเป็นปืนวอลเว่อร์แทน เพราะเก็บกระสุนที่ด้านง่ายกว่าปืนออโต้ ซึ่งจะต้องกระชากลำเลื่อนเพื่อคายกระสุนปืนที่ด้านออกจากรังเพลิงทำให้เสีย เวลา เอาล่ะยิงได้ !! มือปืนกระตุกไกยิงทันที แชะ...แชะ...!! ยิงไม่ออก กระสุนด้าน เฮ้ย ซัดให้หมดโม่ไปเลย !! เสียงหัวหน้าทีมกำกับบท มือปืนจาก นปพ. จึงสับไกรวดเดียว แชะ...แชะ...แชะ...แชะ...!! น่าอัศจรรย์..กระสุนชุดนั้นไม่ลั่นเลยแม้แต่นัดเดียว ! หัวหน้าทีมน้ำเสียงสั่น สั่งให้หันปากกกระบอกปืนไปทางอื่นแล้วลองยิงดู เปรี้ยง...เปรี้ยง...!! ทุกคนตกตะลึงเมื่อเสียงปะทุแตกของกระสุนปืนขนาด .38 ดังกึกก้อง มือปืนยังไม่แน่ใจแหงนลำกล้องขึ้นฟ้าอีกสองนัด มันก็ระเบิดออกมาไม่เหลือ

นั่นเป็นการพิสูจน์ที่ทุกคนมั่นใจทันที เมื่อกระสุนนัดที่ 4 สิ้นเสียงลง หัวหน้าทีมปราดเข้าไปเก็บเอาตะกรุดทันที. ตะกรุดดอกนี้ของผมโว้ย แสนหนึ่ง ก็ไม่ขายว่ะ !! เพราะว่าเป็นตะกรุดดอกที่ลองยิงนั่นเอง ทำให้ราคาพุ่งพรวดขึ้นไปตามความหวงแหนของเจ้าของ. เย็นนั้นที่ไปลองตะกรุดกันก็มาที่ร้านอาหารในตัวเมืองบุรีรัมย์ หลังจากที่เข้าไปขอเช่าตะกรุดเอาไว้อีกคนละหลาย ๆ ดอก ความจริงจะเอากันมากกว่านั้น แต่หลวงพ่อบอกว่าเอาไว้ให้คนอื่นเขาบ้างจะได้ทั่วถึง แยกจากร้านเหล้าแล้ว หัวหน้าทีมก็กลับมานอน แล้วคืนนั้นเองสิ่งที่หลวงพ่อเตือนเอาไว้ก็เกิดขึ้น

ขณะที่หลับสนิทได้ฝันว่ามี เสือโคร่ง ตัวใหญ่มหึมาตัวหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง ตรงเข้าไปหาแล้วกระโดดขึ้นคร่อมร่าง แยกเขี้ยวยิงฟันขาววับ ก่อนจะตะปบกรงเล็บอันแหลมคมเข้าใส่อย่างไม่ปรานีปราศรัย ท่านตกใจร้องเสียงลั่นบ้านจนคนในบ้านตื่นกันหมด มีคนในบ้านพังประตูเข้าไปพบว่าท่านนั่งตัวสั่นงันงกอยู่บนเตียงด้วยใบหน้า ซีดขาวเม็ดเหงื่อโซมหน้า. เมื่อสติกลับคืนมา ท่านก็นึกถึงคำสั่งของหลวงพ่อที่ว่า ห้ามลองของเป็นอันขาดเพราะเอาไปลองนั่นเอง ไม่เชื่อคำสั่งจึงทำให้พญาเสือโคร่งโกธร พอรุ่งเช้า ท่านจึงรีบบึ่งรถไปหาหลวงพ่อที่วัด พอเจอหน้าท่าน หลวงพ่อเลยเอ่ยถามว่า ? เจออะไรดีมาหรือ ? ท่านก็เล่าเรื่องทีฝันเห็นเสือโคร่งมาทำร้ายให้ฟัง โดยไม่กล่าวถึงเรื่องที่ไปลองตะกรุดกันเมื่อวานนี้ หลวงพ่อหัวเราะและย้อนถามไปว่า

ลองยิง"ตะกรุดหนังเสือ" หลวงพ่อเที่ยง จนหมดลูกโม่ ด้านทุกนัด!! หลับฝันเจอพญาเสือโคร่งตะปบอย่างไร้ปราณี ต้องรีบขอขมา..

ตะกรุดหนังเสือ

ถามจริง ๆ เถอะ เมื่อวานไปทดลองยิงตะกรุดดูใช่ไหม ? หลวงพ่อรู้ได้อย่างไรครับ ? ท่านย้อนถามด้วยความแปลกใจ เพราะเรื่องนี้สั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้บอกใคร ฉันสร้างของฉันมาเองแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าใครเอาไปทำอะไรที่ไหน ท่านจึงได้สารภาพว่าเอาไปลองยิงกันจริง และยิงไม่ออก ตนเองไม่ได้ตั้งใจดูแคลนนับถือหลวงพ่อมาก แต่ที่เอาไปลองก็เพื่อจะเอามาเปิดเผยให้ประชาชนทั่วไปทราบกันว่า ของหลวงพ่อดีมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น. หลวงพ่อจึงกล่าวเตือนว่า การกระทำเช่นนี้ ทำให้วิญญาณพญาเสือโคร่งโกรธมาก ทีหน้าทีหลังอย่าทำอีกเด็ดขาดเก็บตะกรุดเอาไว้ให้ดี เขาจะช่วยเราได้ในยามคับขัน !?

ข้าราชการท่านนั้นก็ก้มลงกราบบอกกับ หลวงพ่อว่า นับตั้งแต่นี้จะไม่ลองของ ของหลวงพ่ออีก และนับถือสนิทใจแล้วว่า ของหลวงพ่อนั้นเยี่ยมจริง ๆ ข้าราชการท่านนั้น ยังได้พบประสบการณ์รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์อีกถึงสองครั้งขณะที่คนอื่น เสียชีวิตหมด ครั้งหนึ่งขณะที่เข้าไปในดงชุมโจร เพื่อรับตัวมือปืนถูกซุ่มยิงเข้ามาในรถปิกอัพ ทุกคนรวมทั้งคนขับตายเกลี้ยง แต่ตัวท่านรอดมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร มีเพียงรอยกระสุนเป็นจ้ำ ๆ สามสี่แห่งที่ลำตัว. อีกครั้ง รถที่นั่งไปประสานงานกับรถสิบล้อ คนที่นั่งมาด้วยอีกสองคนตายคาที่ ส่วนท่านบาดเจ็บเล็กน้อย แต่กว่าจะเอาตัวออกมาจากซากรถที่พังยับเยิน ต้องเอาเลื่อยมาตัดถ่างเหล็ก ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ถึงเอาตัวออกมาได้

ลองยิง"ตะกรุดหนังเสือ" หลวงพ่อเที่ยง จนหมดลูกโม่ ด้านทุกนัด!! หลับฝันเจอพญาเสือโคร่งตะปบอย่างไร้ปราณี ต้องรีบขอขมา..

ตะกรุดหนังเสือ

ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูล http://watthamnurak.com. ศิษย์มีครู

เผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา เทิดทูนเกียรติศักดิ์ครูบาอาจารย์