ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ http://www.tnews.co.th

เปิดคาถาภัยพิบัติ ภาวนาไว้กันภัยทุกประการ (บทความพิเศษโดย “ทิพยจักร” )

ทันทีที่มีข่าวน้ำท่วมกระแสภัยพิบัติตามมาทันที หลายท่านถึงกับจะหาที่อยู่ที่คาดว่าจะพ้นภัย โดยลืมไปว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับกฏแห่งกรรม หนีไปไหนก็หนีกรรมไม่พ้น ในขณะเดียวกันถ้าไม่มีกรรมร่วมกับหมู่ใดมาต่อให้น้ำท่วมแผ่นดินไหวคนตายเป็นเบือมันก็รอด ถ้าวางใจแบบนี้ก็หมดกังวล

อย่างไรก็ตามการสร้างพลังใจเป็นสิ่งสำคัญนัก เพราะพลังใจเป็นตัวแปรสำคัญที่กู้วิกฤตนำพาตนให้พ้นภัยได้

ดังนั้นจากกระแสเรื่องภัยพิบัติที่สร้างความกังวลให้สังคมอยู่นี้ผมจึงขอเผยแพร่พระคาถากันภัยให้ทุกท่านพระคาถานี้ผมได้จากหลวงปู่อว้าน วัดป่านาคนิมิตร์ เมื่อปี 2554 ซึ่งท่านเมตตาเล่าว่า

อย่าโทษแต่พญานาค!! โดนภัยพิบัติเป็นกรรมร่วมหมู่ของมนุษย์ หลวงปู่อว้านพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นมอบคาถาภาวนา กันภัยทุกประการ #พลังใจกู้วิกฤติ

 

 

“ภัยพิบัติเกิดจากนาคก็จริงแต่นาคไม่ได้ทำตามอำเภอใจ

ท่านทำไปตามแก่วาระกรรมของมนุษย์

พายุฟ้าฝนที่เห็นเป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติล้วนมีโลกทิพย์ซ้อนอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น”

สำหรับพระคาถาที่ท่านมอบให้ผมไว้มีดังนี้ครับ

พุทธานุภาเวนะ

ธัมมานุภาเวนะ

สังฆานุภาเวนะ

พระพุทธเจ้าอยู่ที่นี่

พระธรรมเจ้าอยู่ที่นี่

พระสังฆเจ้าอยู่ที่นี่

ภัยพิบัติทั้งหลายจงหลีกไป

ให้ระลึกในพุทธานุสติและมรณานุสติเสมอๆจะผ่อนหนักเป็นเบาพาตนพ้นอันตรายทั้งปวงได้

อย่าโทษแต่พญานาค!! โดนภัยพิบัติเป็นกรรมร่วมหมู่ของมนุษย์ หลวงปู่อว้านพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นมอบคาถาภาวนา กันภัยทุกประการ #พลังใจกู้วิกฤติ

 

 

อย่าโทษแต่พญานาค!! โดนภัยพิบัติเป็นกรรมร่วมหมู่ของมนุษย์ หลวงปู่อว้านพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นมอบคาถาภาวนา กันภัยทุกประการ #พลังใจกู้วิกฤติ

(หลวงปู่อ้ว้าน)

ประวัติหลวงปู่อว้าน เขมโก  (บันทึก มิ.ย. ๕๑)  โดยกองทุนสัจธรรม

นามเดิม : อว้าน ศรีบุญโฮม

ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา  ใน พ.ศ. ๒๕๐๓ เมื่ออายุ ๒๕ ปี โดยมีพระครูอุดมธรรมคุณ (หลวงปู่มหาทองสุก สุจิตฺโต) เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชในน้ำ อุทกุกเขปสีมา เขตบ้านโคก เอาน้ำเป็นเขตสีมา มีศาลาอยู่กลางน้ำ สมัยก่อน ไม่ได้ขอวิสุงคามสีมา มีหนองน้ำที่ไหนเขาก็ไปปลูกศาลาเอาไว้ ทำสะพานเดิน เข้าไป เวลาบวชก็บวชกันที่ศาลากลางน้ำแล้วมาพำนักที่วัดดอยธรรมเจดีย์ กับหลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ ต่อมาได้มาศึกษาธรรมปฏิบัติกับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ที่วัดป่านิโครธาราม จังหวัดอุดรธานี

ปัจจุบัน : พำนักปฏิบัติธรรม  อบรมสั่งสอนพุทธศาสนิกชน  ณ  วัดนาคนิมิตต์ (วัดป่าบ้านนามน) บ้านนามน  ตำบลตองโขบ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร

หลวงปู่อว้าน เขมโกได้รับความเมตตาเป็นพิเศษจากหลวงปู่กงมา จิรปุญโญ ในฐานะหลาน โดยการชักนำเข้ากราบ หลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ถึง ๒ ครั้ง คือ ครั้งแรกสมัยหลวงปู่ใหญ่มั่นวิเวกมาที่บ้านโคก (วัดป่าวิสุทธิธรรม) และครั้งที่สอง ณ วัดป่าบ้านหนองผือ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

บวชเป็นพระภิกษุครั้งแรกต้องสึกเพราะถูกเกณฑ์ทหาร และรับใช้ชาติอยู่ปีเศษก็เข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ ณ สิมน้ำ โดยมีเจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาส (สมัยนั้น) อ.เมืองสกลนคร เป็นพระอุปัชฌาย์

องค์หลวงปู่เข้ามอบตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษากรรมฐานกับ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี และอยู่ที่นี่นานถึง ๖ ปี

ต่อมา กลับมาปฏิบัติธรรม และอยู่อุปัฏฐากหลวงปู่กงมาปีเศษ จนหลวงปู่กงมาถึงแก่กาลมรณภาพ จึงกลับไปภาวนาต่อที่วัดป่านิโครธารามของหลวงปู่อ่อน

สุดท้าย ได้รับการนิมนต์ให้มารักษาป่าที่วัดบ้านเกิด คือ บ้านนามน สกลนคร และเป็นสถานที่ที่หลวงปู่ใหญ่มั่นพักปฏิบัติอบรมญาติโยม นั่นก็คือ วัดป่านาคนิมิตต์ ตราบจนกระทั่งปัจจุบัน.

(บทความพิเศษ โดยนักเขียน ทิพยจักร - สำนักพิมพ์กรีนปัญญาญาณ)