สุดยอดมนต์เรียกผี!! เพียงภาวนา "วิญญาณนัง" ไปเรื่อยๆ ห้ามหยุด แล้วศัตรูจะเห็นเป็นภาพลวงตา กระสุนปืนยังทำอะไรไม่ได้ #บุญฤทธิ์หลวงพ่อกวย

สุดยอดมนต์เรียกผี !!  ให้ภาวนาคำว่า วิญญาณนัง ไปเรื่อย ๆ อย่าได้หยุดภาวนาแล้วศัตรูจะเห็นเป็นภาพลวงตา หากยิงมาจะยิงได้แค่เงาของเรายิงตัวไม่ได้เลย ... #  บุญฤทธิ์หลวงพ่อกวย

คนเราลองมีความศรัทธาแล้ว  …..    ** อภินิหารและความอัศจรรย์ย่อมเกิดขึ้นได้  **

ทั้งครูบาอาจารย์ท่านก็มักเมตตาผู้มีศรัทธาแรงกล้า ด้วยมีจิตเชื่อมั่นยึดถือท่านอย่างสุดโต่ง !! บุคคลประเภทนี้ครูบาอาจารย์ช่วยเหลือได้รวดเร็ว มักช่วยได้อย่างอัศจรรย์กว่าผู้ฅนทั่วไป ด้วยศรัทธาเป็นพื้นฐานลองรับความอัศจรรย์ทางจิตได้ดีเยี่ยม ตัวอย่างฅนโบราณแขวนบูชาวัตถุมงคลกับตัว มักเห็นมีประสบการณ์อัศจรรย์มากมาย ด้วยคนสมัยก่อนเขามีศรัทธาเชื่อมั่นจริงนั้นเอง

              ในอดีตมีศิษย์หลวงพ่อกวยผู้หนึ่งชื่อเฮียเคี้ยง เป็นศิษย์รุ่นหลังที่เคารพหลวงพ่อกวย รู้จักหลวงพ่อกวยจากบทความข้อเขียน เกิดเคารพรักท่านจับใจคล้ายผูกพันมาแต่ปางก่อน แม้นไม่ทันกราบหลวงพ่อกวยสมัยทรงสังขาร แต่ได้ไปที่วัดโฆสิตารามจุดธูปบอกกล่าวฝากตัวเป็นศิษย์ต่อหน้าหลวงพ่อกวย เฮียเคี้ยงมั่นใจมากว่าหลวงพ่อกวยรับแกเป็นศิษย์

สิ่งที่ทำให้เฮียเคี้ยงมั่นใจว่า หลวงพ่อกวยรับแกเป็นศิษย์ คือ ศรัทธา คำเดียวมั่นอยู่ในใจเฮียเคี้ยงอย่างเต็มเปี่ยม เขาว่าฅนเราลองมีความศรัทธาแล้ว

**อภินิหารและความอัศจรรย์ย่อมเกิดขึ้นได้**

แกมีที่อยู่แปลงหนึ่ง แกอยากขายที่แปลงนี้เพื่อเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นทุน น่าแปลกที่ที่ดินแปลงนี้ อยู่มาจนแล้วจนรอดขายไม่ได้ซักที ทำทุกวิถีทางแล้วก็ยังขายไม่ได้ค้างคามานาน บางคราวมีผู้ติดต่อมาจะซื้อ ๆ พอนาทีสุดท้ายเปลี่ยนใจกะทันหันเสียเฉย ๆ มันน่าแปลกมาก  เฮียเคี้ยงจนปัญญาหวนนึกถึงหลวงพ่อกวย เฮียงเคี้ยงได้จุดธูปบอกเล่าความทุกข์ต่อหลวงพ่อกวย แล้วนำผ้าจีวรของหลวงพ่อกวยที่เก็บรักษาอยู่ แกนำผ้าจีวรหลวงพ่อไปปัดไปโบก ณ ที่ดินแปลงที่จะขาย จุดธูปบอกหลวงพ่อให้ช่วยให้ขายที่ดินนี้ได้ บอกว่าอะไรที่ขัดขวางกลั่นแกล้งขอให้หลวงพ่อกวยช่วยปัดเป่า แล้วนำผ้าจีวรไปผูกไว้กับปลายยอดไม้ไว้ ณ ที่นั้น

              เวลาผ่านไปไม่นานก็มีผู้มาซื้อที่แปลงนี้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ประกาศขายนานเป็นปี ฅนผลัดเปลี่ยนมาดูหลายเจ้าไม่ซื้อ ด้วยความสงสัยภายหลังเฮียเคี้ยงไปพบเจอกับผู้มีสมาธิจิต ได้สอบถามว่าเหตุใดที่แปลงที่ประกาศขายแล้วขายไม่ได้นั้น แล้วจู่ ๆ ทำไมจึงขายได้อย่างรวดเร็วไม่น่าเชื่อ ผู้ทรงสมาธิเมื่อตรวจดูทางจิตแล้วตอบว่า
............
       เดิมที่ดินแปลงนี้มีดวงวิญญาณดวงหนึ่ง สิงอยู่ เป็นเจ้าที่อยู่ที่นี่ วิญญาณดวงนี้นี่เองที่คอยกลั่นแกล้งขัดขวางต่าง ๆ ที่ดินแปลงนี้จึงขายไม่ได้ซักที แต่เห็นมีเห็นมีพระสงฆ์รูปหนึ่ง รูปร่างผอม สูงโปร่ง ลักษณะขาวเหลือง ลักษณะหน้าตาท่านคมกล้าดูดุดันจริงจัง พระสงฆ์รูปนี้เวลานี้ท่านเห็นท่านอยู่บนยอดไม้ ถามท่าน ๆ ว่าดวงวิญญาณมันกลั่นแกล้งศิษย์ท่าน จึงได้ถีบมันลงเสียจากศาล แบบนี้ให้อยู่ไม่ได้คอยกลั่นแกล้งกัน แล้วยังเห็นวิญญาณอดีตเจ้าที่ ที่เวลานี้ลดอันดับ กลายเป็นผีเร่รอนไปเสียแล้ว วิญญาณนี้ไปยืนร้องไห้อยู่นอกเขตที่ดินของเฮียเคี้ยง เข้าใจว่าแกคงว่าคิดตนผิดที่ไประรานศิษย์ของพระสงฆ์รูปนี้ ....
 

ผู้ทรงภูมิทางจิตถามเฮียเคี้ยงว่า พระสงฆ์รูปนี้เป็นใครท่านชื่ออะไรเห็นท่าทางท่านดุและเงียบขรึม แต่บารมีท่านมากเหลือเกิน รู้สึกศรัทธาท่านจับใจ เฮียเคี้ยงพูดตอบอย่างภูมิใจว่า

**ท่านชื่อหลวงพ่อกวย อยู่วัดบ้านแค่ ผมเป็นลูกศิษย์ท่านครับ**
............
       เฮียเคี้ยง ท่านนับถือหลวงพ่อกวยมาก ทั้งพูดกับฅนรู้จักรอบข้างเสมอว่า

**หลวงพ่อกวยท่านยังอยู่ มีอะไรติดขัดไปวัดจุดธูปบอกท่านเถอะท่านช่วยได้จริง**

แกพูดด้วยความเชื่อมันและศรัทธาในองค์หลวงพ่อกวยทุกครั้ง

การจิบน้ำชาของสองเกจิชื่อดัง

 

หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี ซึ่งโดยศักดิ์ท่านเป็นศิษย์น้องหลวงพ่อกวย ในสายหลวงปู่ศรีเช่นกัน ชื่อเสียงหลวงพ่อจวนท่านถือว่าไม่ธรรมดา

วันหนึ่ง มีพิธีพุทธาพิเศกในวัดใกล้ๆวัดบ้านแค และทางวัดได้นิมนต์พระมาหลายรูป รวมถึงหลวงปู่กวย และหลวงพ่อจวนด้วย ด้วยความที่ทั้งสองท่านเป็นศิษย์พี่ ศิษย์น้องที่รู้จักกันมาแล้ว เมื่อหลวงพ่อจวนเดินทางมาถึง ก็แวะวัดบ้านแค เพื่อทักทาย พักผ่อนก่อนไปทำพิธี  หลวงพ่อจวนท่านนั่งเกวียนแบบโบราณมา และเมื่อเข้าเขตวัดบ้านแค ท่านจึงเตรียมตัวลงจากเกวียน เปลี่ยนอริยาบท กระชับจีวร แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนลงจากเกวียน เพราะท่านเป็นพระที่สำรวม เรียบร้อย พูดน้อย เมื่อท่านขมวดจีวรแต่งตัวเสร็จ ท่านจึงสะบัดชายจีวรที่ขมวดขึ้นไหล่ ตามแบบการแต่งกายของพระสงฆ์ จังหวะที่สะบัดชายจีวรขึ้นไหล่ ไฟภายในวัดบ้านแคพลันดับวูบลง จากนั้นหลวงพ่อจวน ท่านจึงเดินเข้าสู่วัดบ้านแค และไปพบกับหลวงพ่อกวย เมื่อได้ทักทายโอปราภาศัยกันแล้ว ตามภาษาศิษย์พี่น้อง หลวงพ่อกวย ท่านจึงนำกาน้ำชาที่ศิษย์ได้เตรียมไว้ พร้อมถ้วยชามาถวายให้หลวงพ่อจวนดื่ม..

หลวงพ่อจวน ท่านหยิบกาน้ำชา และรินน้ำชาลงถ้วย แต่ปรากฏว่าน้ำชาไม่ไหลลงถ้วย ทั้งๆที่ น้ำชาร้อนๆยังเต็มกา.. ทันใดหลวงพ่อจวนท่านก็หันไปมองหลวงปู่กวย หลวงปู่กวย.. ท่านก็เปรยๆขึ้น เอาไฟในวัดให้ติดก่อน หลวงพ่อจวน ท่านจึงขยับจีวรอีกรอบ และสะบัดชายจีวรขึ้นไหล่ออีกครั้ง ปรากฏว่าไฟในวัดบ้านแค พลันติดพรึ่บขึ้นมา จากนั้นหลวงพ่อจวน จึงหยิบกาน้ำชา รินน้ำชาลงถ้วยได้ตามปรกติ ศิษย์พี่ ศิษย์น้องจึงยิ้มให้แก่กัน
 

 

มนต์เรียกผี  ....
สมัยก่อนหลวงพ่อกวยท่านเคยสอนวิชาเรียกภูตผีให้ศิษย์ไว้ โดยกล่าวว่าหากโดนเขาไล่ล่าหมายชีวิต หรือเมื่อถึงคราวจวนตัวคิดหลบหนี ให้เรียกเหล่าภูตผีปีศาจมาช่วยขณะหลบหนี ซึ่งเคยมีศิษย์ของหลวงพ่อกวยผู้หนึ่งโดนเขาไล่ฆ่าตามติดมา ในตัวเวลานั้นไม่มีของดีอะไร แต่นึกได้ถึงคาถาที่หลวงพ่อกวยเคยสอนให้ จึงใช้คาถาเรียกผีนี้เสกเรียกตามวิธีที่เรียนมา ปรากฏว่าเมื่อหนีการไล่ล่ามาถึงริมคลองใหญ่ เขาโดดลงน้ำว่ายสุดชีวิตเพื่อหนีตาย เพราะเขาตัวเปล่าอาวุธก็ไม่มีของขลังก็ไม่มี มีแต่ใจมั่นคงเสกคาถาเรียกผีแล้วว่ายน้ำไป
--
น่าแปลกที่ฝ่ายตรงข้ามเมื่อตามมาเห็นกลับระดมยิงไปทางข้าง ๆ ตัวเขาที่กำลังว่ายน้ำอยู่ เห็นลูกปืนกระทบผิวน้ำไปอีกทางไม่ใช่ตัวเขา ซึ่งนับว่าแปลกคล้ายฝ่ายตรงข้ามเห็นตัวเขาอีกฅนอย่างนั้น เมื่อเขารอดการตามล่าวันนั้นไปได้ เขาก็ย้อนกลับมาพร้อมเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อมอบให้แก่ภูติผีที่มาช่วยเขาให้รอดไปได้ คาถานี้เห็นควรเผยแพร่แก่ผู้สนใจ หากผู้ใดเกิดเหตุร้ายต่าง ๆ ที่ไม่คาดฝัน ก็สามารถใช้คาถานี้เรียกภูติผีมาช่วยได้ ก่อนเรียนให้จุดธูปบอกเล่าต่อ หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม เจ้าของคาถาจะขลังวิเศษ ไม่ใช่ของเล่าอย่าท่องทำเล่นส่งเดชของมีครู

 คาถาเรียกผีมาช่วย
พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง
ข้าพเจ้าขออาราธนา คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสงฆ์เจ้า คุณบิดามารดาครูบาอาจารย์ คุณพระพรหม คุณพระฤาษี คุณพระภูมิเจ้าที่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สิงสถิตในที่นี้
จิเจรุนิ เจตะสิกังรูปัง วิญญาณนัง ข้าพเจ้าขออัญเชิญ เจ้าแม่ป่าช้า เจ้าพ่อป่าช้า ผีตายโหง ผีตายห่า ผีตายพลาย ผีภูติ ผีบ้าน ผีป่า ผีนา ผีจอมปลวก อีกทั้งวิญญาณผีทั้งหลาย ข้าพเจ้าถูกเขาไล่ล่าและไล่ฆ่า ข้าพเจ้าขออัญเชิญวิญญาณผีทั้งหลายจงได้มาปกปักรักษาด้วยเทอญ (พูดเองว่า #มาแล้ว)
หากข้าพเจ้ารอดปลอดภัยจากอันตรายครั้งนี้ได้จะตอบแทนด้วย (พูดเองว่า.......อาหารอะไรออกชื่ออาหาร) จิเจรุนิ เจตะสิกัง รูปัง วิญญาณนัง วิญญาณนัง วิญญาณนัง วิญญาณนัง วิญญาณนัง วิญญาณนังฯ
                  เมื่อท่องคาถานี้แล้วขณะหนีให้ภาวนาคำว่า #วิญญาณนัง ไปเรื่อย ๆ อย่าได้หยุดภาวนา หากเขาตามมาจะเห็นเป็นภาพลวงตา หากยิงมาจะยิงได้แค่เงาของเรายิงตัวไม่ได้เลย โดยมากบนผีให้บนด้วย ไก้ต้มเหล้าขวด เมื่อรอดแล้วต้องกลับไปแก้บนเขาอย่าปล่อยให้ช้านานเกิน ๗ ราตรี และขอมอบความรู้นี้แด่ผู้สนใจทุกท่านด้วยไมตรี

ขอขอบคุณภาพข้อมูลดีๆจาก : พลังจิต โดยคุณระหว่างทาง , คนขลังคลังวิชา , APP Geji ,Web-Pra.com

ราเมศวร    บัวสุวรรณ   เรียบเรียง