- 08 ส.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (อดีตคือกรมตำรวจ) มีตราสัญลักษณ์เป็นรูปพระแสงดาบและโล่เขน หรือที่เรียกกันติดปากว่า "โล่เขน" พระแสงดาบที่คาดติดอยู่ในปลอก ด้ามอยู่ด้านบน มีลวดลายกนก
โล่เขน เป็นรูปวงกลมเส้นคู่สองชั้น วงนอกเป็นลายพรรณพฤกษา วงในเป็นลายใบเทศ ผูกลายเป็นรูปหน้าสิงห์หรือหน้ายักษ์ เรียกว่าจตุรมุข ตามธรรมเนียมโบราณมักแกะสลักรูปหน้ายักษ์จตุรมุขไว้บนหน้าบันประตูทั้งสี่ทิศ ด้วยความเชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์ทางเข้า-ออก คอยปกป้องคุ้มครองและกำจัดสิ่งชั่วร้าย
นอกจากนี้ในสมัยโบราณยังเป็นการประกาศว่าผู้ถือโล่อยู่นี้คือคนในกรมพระตำรวจ และยังเป็นความเชื่อด้วยว่าหน้าสิงห์นี้คือสัญลักษณ์แห่งเทพเจ้าในคติฮินดู เพื่อใช้การข่มขวัญหรือขับไล่วิญญาณร้าย ซึ่งในทีนี้ก็คือการข่มขวัญศัตรูผู้รุกราน หรือผู้ที่คิดร้ายต่อบ้านเมืองด้วยนั่นเอง รวมความหมายแล้วพระแสงดาบนั้นแทนด้วยพระราชอำนาจแห่งองค์กษัตริย์ ส่วนโล่เขนที่ประดับหน้าหน้าสิงห์นั้น แทนด้วย"การปกป้องคุ้มภัยองค์กษัตริย์และชาติบ้านเมือง
ในช่วงสมัยรัชกาลที่ ๔ อยู่ในยุคการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก ทรงโปรดให้มีการปฏิรูประบบกระบวนการยุติธรรม และจัดตั้งองค์กรตำรวจขึ้นเพื่อให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ โปรดให้ใช้สัญลักษณ์ตำรวจเป็นรูป “หนุมานสี่กร” แฝงคติความเชื่อที่ว่า ตำรวจคือหนุมานผู้ทรงอานุภาพตามเรื่องรามเกียรติ์
ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้พระราชทานเป็นพระราชหัตถเลขา อนุญาตให้กรมตำรวจภูธรใช้พระรูปพระแสงดาบเขนและโล่ประจำที่มุมธง และใช้เป็นตราประจำกระดาษสำหรับราชการในกรมตำรวจภูธร
ต่อมารัชกาลที่ ๖ ดาบเขนและโล่ได้ปรากฏอยู่ในพระธรรมนูญตราที่โปรดเกล้าฯให้ตราขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓ ให้เป็นตราประจำกรมพลตระเวน (ต่อมาเปลี่ยนเป็นกรมพลตำรวจนครบาล)
โล่และดาบมีนัยแห่งความหมายอันลึกซึ้งแสดงถึงความไว้วางพระราชหฤทัยของพระมหากษัตริย์โปรดให้ตำรวจราชองครักษ์เท่านั้น สามารถมีอาวุธดาบประจำกายเข้าถึงพระราชฐานชั้นในได้ โล่และดาบจึงแสดงถึงเกียรติภูมิแห่งหน้าที่ เป็นศักดิ์ศรีแห่งอำนาจที่ได้รับพระราชทาน เพื่อพิทักษ์ปกป้ององค์พระมหากษัตริย์ และเป็นตำรวจของประชาชน มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในบ้านเมืองให้เกิดความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สิน บำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้กับประชาชนสมกับคำที่ว่า “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
ที่มาจาก : www.thaiofficer.com
เว็บไซต์ : ตำรวจไทย