ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

รู้ได้ด้วยญาณ!! หลวงพ่อฤาษีิลิงดำ แอบดูจิต "หลวงปู่แหวน" ขณะปลุกเสกของขลัง ! จนมองเห็นพรแห่งพระอรหันต์ที่ใส่ให้ลงไปในพระเครื่อง!

 

        หลวงปู่แหวน สุจินโณ วัดดอยแม่ปั๋ง ท่านเป็นพระที่พูดน้อย เสียงเบา รักสันโดษ ชอบอยู่เงียบๆ ปกติจะไม่ชอบเทศน์ยาวๆ มีแต่ให้ข้อธรรมสั้นๆ มีปฏิปทาเรียบง่าย ไม่โลดโผน มีความเมตตาอารีต่อญาติโยม ทำให้มีญาติโยมจากทั่วประเทศเดินทางมาสักการะหลวงปู่แหวนถึงเชียงใหม่อย่างเนื่องแน่น

                สมัยนั้นบรรดาหลวงปู่ครูบาอาจารย์เช่น หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ชอบ ยังมีชีวิตอยู่ เป็นช่วงเวลาที่หอมหวนของพระธรรม ชาวบ้านทั่วไปแม้จะนิยมเครื่องรางของขลัง ปลุกเสกเลขยันต์ แต่จะไม่ละทิ้งพระธรรม จะเข้าหาครูบาอาจารย์ ถือศีลปฏิบัติธรรม หลายครอบครัวมีพ่อบ้านที่ดี

                ช่วงเวลาดังกล่าว แฟชั่นที่นิยมกันในหมู่ชาวบ้าน คือตระเวนกราบครูบาอาจารย์ กราบพระอรหันต์ให้ครบทุกรูปที่มีในประเทศไทย ไม่ว่าจะอยู่ไกลในถิ่นทุรกันดารแค่ไหนจะต้องเดินทางเข้าถึงให้ได้ สมัยก่อนรถยนต์ยังไม่มีแอร์เครื่องปรับอากาศ รถกระบะยังเป็นเกียร์กระปุก ถนนดินลูกรังสีแดง ถนนสองช่องทางเท่านั้น ดังนั้นจึงมักจะมีข่าวรถท่องเที่ยวตกเหวบ่อย หรือรถทัวร์ที่ตระเวรไปกราบพระเกิดอุบัติเหตุสยองอยู่บ่อยครั้ง แต่นั้นไม่สามารถหยุดแฟชั่นของชาวบ้านที่ตามหาพระอรหันต์เพื่อให้วัตถุประสงค์เหล่านี้

 

•ขอพร

•เป่ากระหม่อม

•ขนเอาเครื่องรางของขลังไปให้ท่านปลุกเสก

•หอบลูกจูงหลานไปกราบพระอรหันต์

•ทำบุญกับพระอรหันต์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

        ยังจำได้ว่า จะจัดทัวร์ตะลอนธรรมะทั้งที  จะเป่าประกาศเพื่อนบ้านให้ทราบข่าว ลงชื่อลงขันเช่ารถยนต์ ถ้าเดินทางไปไกล จะออกเดินทางคืนวันศุกร์ ไปถึงวัดตอนเช้าวันเสาร์ ใส่บาตรเช้า พักที่วัดตอนกลางคืน ฟังธรรมะ และกลับบ้านวันอาทิตย์ ระหว่างทางแวะกราบครูบาอาจารย์ กว่าจะถึงบ้านก็เลยเที่ยงคืน พวกเด็กๆจะนอนหลับคาอกแม่ในตอนกลางคืนและระหว่างนั่งเดินทางในรถ พอรถยนต์หยุดพักระหว่างวัด บรรดาพ่อแม่จะปลุกลูกๆหลานๆให้ลงมากราบหลวงปู่

        พอขบวนรถทัวร์มาถึงวัด บรรดาเจ้าหน้าที่วัดจะเข้ามาถาม ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะรู้สึกกับหัวหน้าขณะทัวร์ พอทราบว่าจะมากราบหลวงปู่ ถ้าอยู่ในช่วงเวลาที่หลวงปู่พักผ่อน ทางวัดจะจัดเตรียมอาหารไว้ในโรงครัวทุกวันเสาร์อาทิตย์ เพราะมีคณะทัวร์เดินทางมาเป็นประจำ เจ้าหน้าที่วัดจะให้ผู้เดินทางไปรับประทานอาหารกันก่อน ล้างหน้าล้างตา หลังจากนั้นทุกคนจะไปนั่งรอที่หน้ากุฏิหลวงปู่ รอจนกระทั่งหลวงปู่ออกมาหน้ากุฏิ พระภิกษุที่ทำหน้าที่อุปถากดูแลความเรียบร้อยจะเรียกให้พวกโยมที่นั่งรอเข้าไปกราบ

 

        พวกผู้ใหญ่จะผลักดันให้ลูกๆหลานๆเข้าไปกราบหลวงปู่ก่อน ซึ่งหลวงปู่จะใจดีอย่างมากกับเด็กๆ หากระดาษมาเคาะศีรษะให้แล้วให้พรว่า เป็นเด็กดีน่ะ เรียนหนังสือเก่งๆ ช่วยพ่อแม่นะ อย่าเป็นเด็กดื้อจะได้มีปัญญาที่ดี

        เมื่อให้พรและมอบโอวาทให้กับเด็กๆ พวกผู้ใหญ่จะมารุมมะตุมหลวงปู่ ส่วนพวกแม่ๆจะพาเด็กๆและหลานๆไปเล่นข้างล่าง ตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นเวลาของผู้ชายและพวกที่พกเครื่องรางของขลังและบางคนมีเรื่องร้อนใจมาเล่าและขอพรจากหลวงปู่

        มาถึงตอนนี้ พวกโยมทั้งหลายจะถอดสร้อยพระที่ห้อยพระเต็มคอ บางคนหอบหิ้วกระเป๋าหนังสีดำข้างในมีเครื่องรางของขลังเต็มไปหมด ส่วนใหญ่เดินทางมาเพื่อหวังให้หลวงปู่ปลุกเสกเครื่องรางพวกร่ำรวย มหาเสน่ห์ มีอำนาจ บารมี ยิ่งปลุกเสกมากยิ่งดี ยิ่งให้หลวงปู่อรหันต์หลายรูปปลุกเสกยิ่งมีพลัง จะได้รวยมากๆหรือเฮงๆ ทำการค้าร่ำรวยๆ

 

        เมื่อเอาเครื่องรางของขลังวางไว้บนถาดเบื้องหน้าหลวงปู่แล้วโยมผู้ชายที่นำขบวนมาจะบอกกับหลวงปู่ว่า “หลวงปู่ช่วยปลุกเสกให้หน่อยนะครับ เอาให้รวยๆนะครับ” ส่วนใหญ่หลวงปู่จะยิ้มๆ ไม่ตอบว่าอะไร บางครั้งก็จะให้ศีลให้พรก่อน บางครั้งก็จะอดบ่นไม่ได้ เพราะไม่เห็นมีใครมาสอบถามปัญหาการภาวนาเลย

        ถ้ายังนึกภาพบรรยากาศไม่ออก ลองมาดูคำบอกว่าในหนังสือ “หลวงปู่แหวน” ที่เขียนเล่าให้เห็นภาพบรรยากาศของญาติโยมที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศจนแน่นวัด ต่างพากันหอบหิ้วเครื่องรางของขลังไปให้หลวงปู่แหวนปลุกเสก การปลุกเสกสมัยนั้นทำง่ายๆโดยไม่มีพิธีรีตอง ก็แค่

        “ต้องไปนอนรออยู่ที่วัด ให้หลวงปู่แหวนออกจากห้อง พอท่านออกมาก็ขนสิ่งที่จะปลุกเสกเข้าไปกราบนมัสการท่านทันที แล้วท่านก็ทำให้เดี๋ยวนั้น.. หลวงปู่แหวนจะปลุกเสกให้อย่างมากไม่เกิน ๙ นาที บางครั้งเสกให้ ๓ -๕นาที ก็มี เสร็จแล้ว ชาวบ้านกลุ่มอื่นจะได้เข้ามาหาบ้าง”

          พอพวกเขาได้รับการปลุกเสกสมประสงค์ดังใจ ก็กราบลาหลวงปู่แหวนขึ้นรถถ้ามีเวลาเหลือ พวกเขาจะตระเวนไปกราบหลวงปู่รูปอื่นต่อไป

         เรื่องการปลุกเสกนี้ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำบอกว่า บางที สิ่งที่โยมคิดอยากจะได้เรื่องลาภ ยศ สรรเสริญ บรรดาศักดิ์จากพรหลวงปู่นั้น กลับสิ่งที่หลวงปู่แหวนคิดนั้น จะตรงกันหรือเปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งครั้งหนึ่ง

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำเดินทางไปกราบหลวงปู่แหวนที่วัดดอยแม่ปั๋ง เห็นญาติโยมถอดสร้อยคอหวังให้หลวงปู่แหวนปลุกเสกให้เฮงๆรวยๆสบายๆ

 

        ด้วยความอยากทราบว่าหลวงปู่แหวนท่านปลุกเสกให้พรข้อใดกับญาติโยม จึงกำหนดจิตตามดู หลวงพ่อฤๅษีลิงดำอธิบายว่า

        “พอใครเอาเครื่องรางของขลังไปวางเสร็จ หลวงปู่แหวนก็ตั้งท่าสงบใจสงเคราะห์ อาตมาก็จับดูจิตของหลวงปู่แหวน ดูอารมณ์จิตของท่านจะทำอย่างไร ครั้นแล้วก็เห็นอารมณ์จิตของหลวงปู่แหวนผ่องใสเป็นประกายพฤกษ์เต็มดวงดาวลอยอยู่ในอกท่าน เวลานั้นกำลังจิตของหลวงปู่แหวนก็คิดว่า ขออาราธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ให้มาโปรดช่วยทำของเหล่านี้ให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์เป็นมิ่งขวัญมงคลของบรรดาท่านพุทธบริษัท ให้เข้าถึงธรรม

 

        จากนั้นหลวงปู่แหวนอาราธนาของพระอรหันต์ทั้งหมด บารมีของพระพรหม ของเทวดาทั้งหมดตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์ พอถึงพระอรหันต์

 

อาตมาก็เห็นหลวงปู่ตื้อ(ตอนนั้น ท่านยังไม่มรณภาพ)”

        ตามคำอธิบายของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ท่านนั่งตามดูการอธิษฐานจิตของหลวงปู่แหวน พอถึงช่วงที่หลวงปู่แหวนระลึกถึงบารมีของพระอรหันต์ จู่ๆในนิมิตของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ มีหลวงปู่ตื้อ ซึ่งท่านเป็นพระอรหันต์ที่มีนิสัยโดดเด่นเป็นเอกเทศไม่เกรงกลัวใคร แวะเข้ามาทักทายใน “ญาณ” ซึ่งเรื่องราวแบบนี้มีพบเห็นกันบ่อยๆในหมู่คณะอรหันต์

 

        ในนิมิตนั้น หลวงปู่ตื้อตรงปรี๊ดมาถึงข้างหลัง แล้วเอากำปั้นลงหลังหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

 

แล้วถามเป็นภาษาพ่อขุนว่า “ว่าเฮ้ย.. มึงมานั่งทำอะไรว่ะ”

 

        ในนิมิตหลวงพ่อฤๅษีลิงดำตอบกลับไปว่า “ นี่.. หลวงปู่แหวนเชิญพระผี (พระผีหมายถึงพระอรหันต์ที่สิ้นละสังขารไปแล้ว) ไม่ได้เชิญพระที่มีเนื้อหนังมังสา (พระอรหันต์ที่ยังไม่ตาย)”

 

จากนั้นก็ไล่หลวงปู่ตื้อว่า “มีหน้าที่อะไรก็ทำไป”

 

        พอภาพหลวงปู่ตื้อหายไป หลวงพ่อฤๅษีลิงดำเห็น “กระแสจิตหลวงปู่แหวน เป็นประกายพฤษก์พุ่งจากอก สว่างเจิดจ้าใหญ่เหลือเกิน คลุมเครื่องรางของขลังทั้งหมด แสงสว่างประกายพฤษก์ของจิตอรหันต์เจ้า แทรกลงไปในเครื่องรางของขลัง อยู่ผิวข้างหน้า ยันล่างสุด เรียกว่าคลุมหมดอาบลงไปหมดเลย โพลงสว่างสุกปลั่งไปหมด คล้ายตกอยู่ในเบ้าหลอม เป็นกระแสสว่างของจิตที่เยือกเย็น เต็มไปด้วยอำนาจพุทธบารมี เห็นแล้วรู้สึกเยือกเย็นสบายอย่างประหลาดบอกไม่ถูก นี่คือการปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังของหลวงปู่แหวนซึ่งใช้เวลาไม่ถึง ๓ นาที แต่ทว่าอานุภาพยิ่งใหญ่ ทรงความขลังศักดิ์สิทธิ์ เลิศล้ำมหัศจรรย์”

 

        หลังจากที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำติดตามการอธิษฐานจิตของหลวงปู่แหวน ได้สรุปว่า “หลวงปู่แหวน ไม่คิดปลุกเสกให้เอาไปตีกับชาวบ้าน เอาไปปล้นชาวบ้าน ท่านปลุกเสกให้คนเข้าถึงธรรม”

 

           กลายเป็นว่า ชาวบ้านมาขอให้หลวงปู่ปลุกเสกเรื่องราวทางโลก โลกียะล้วนๆ แต่หลวงปู่แหวนกลับปลุกเสกเรื่องพุทธธรรมล้วนๆให้คนเข้าถึงธรรมะ นี่คือพรของพระอรหันต์ที่ใส่ให้ลงไปในพระเครื่อง

 

 

 

โดยเธียรนันท์ จากหนังสือ ลีลาพระอรหันต์