อาถรรพ์ เจ้าแม่ตะเคียนทอง !! เรื่องจริงจากชายหนุ่ม ที่ต้องสูญเสียคนที่รัก อย่างไม่มีวันกลับ !! ชาวบ้านเล่า..เกิดเรื่องลี้ลับบ่อยครั้ง

วันนี้ไปดูเรื่องลี้ลับ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเกิดเหตุสลดใจขึ้นกับหนุ่มสาวคู่หนึ่งซึ่งเป็นคู่รักกัน ชวนกันไปสักการะศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง หลังไหว้พระเสร็จ จู่ๆ ฝ่ายหญิงกลับวิ่งข้ามถนนเลยถูกรถกระบะพุ่งเข้าชนเสียชีวิตคาที่
อุบัติเหตุในครั้งนี้ชาวบ้านเล่าว่า ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกแต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นและมีผู้ต้องมาสังเวยชีวิตเป็นจำนวนมากในแต่ละปีที่บริเวณดังกล่าว หลายเหตุการณ์ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ ทำให้ชาวบ้านเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ความสูญเสียทีเกิดขึ้นอาจจะมาจากอาถรรพ์เจ้าแม่ตะเคียนทอง โดยความจริงทั้งหมดคือ 

ฝ่ายชายคือ นายพงษ์ศักดิ อิ่มสมภาร ซึ่งทำงานโรงงานอิฐและเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย เล่าย้อนเหตุการณ์ว่า ผู้ตายคือ แฟนตนชื่อนางขวัญดาว เข็มทอง เพิ่งคบหากันได้แค่ 2 เดือนก่อนเกิดเหตุช่วง 3 ทุ่มตนไปรับแฟนที่บ้านเพื่อนใน จ.พระนครศรีอยุธยา ขากลับขับผ่านศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง แฟนจึงชวนตนลงไปกราบไหว้ เพราะตัวแฟนเองจะมาไหว้ศาลแห่งนี้เป็นประจำ ก่อนลงไป ตนบอกแฟนว่าให้รีบลงไปไหว้ เพราะริมถนนค่อนข้างแคบ กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ตนไหว้เสร็จก่อน แต่แฟนยังไหว้ขอพรอยู่นาน ตนจึงเดินข้ามถนนกลับไปที่รถเพื่อสตาร์ทเครื่องรอ ขณะที่ฝ่ายหญิงกำลังจะข้ามถนนกลับมาที่รถ ไม่รู้ จู่ๆเกิดหยุดชะงักยืนอยู่กลางถนนและตะโกนบอกตนว่า มีของตกจะกลับไปเก็บของ ไม่นึก สิ้นเสียงตะโกน จู่ๆ รถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็ว พุ่งชนร่างแฟนสาวจนกระเด็นไปไกล ตอนนั้นตนตกใจมาก รีบวิ่งไปดูแฟนสาวในทันที

ด้านแม่ผู้เสียชีวิตเล่าว่า หลังเกิดเหตุได้ทราบว่าลูกสาวประสบอุบัติเหตุก็รู้สึกช็อค ที่ผ่านมาลูกสาวเป็นคนเก่ง มีความมั่นใจในตัวเองสูง ถึงแม้จะมีฐานะลำบาก แต่ก็สามารถเลี้ยงดู ส่งเสียลูกถึง 5 คน หลังทราบข่าวตนเสียใจมากและไม่นึกว่า ลูกสาวจะมาจบชีวิตหน้าศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง ซึ่งลูกสาวและครอบครัวกราบไหว้บูชามาตลอด ที่ผ่านมา รับรู้ถึงตำนานอาถรรพ์จากคนรอบข้างแต่ก็ไม่นึกจะมาเจอกับตัวเอง ถึงตอนนี้ ตัวแม่เองก็ยังเกิดคำถามคาใจ สงสัยอยู่ว่าเหตุครั้งนี้ เป็นอุบัติเหตุ หรือ ลูกสาวอาจจะโดนอาถรรพ์กันแน่

ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมอยุธยารวมใจเล่าว่า จุดเกิดเหตุนี้เป็นจุดที่ได้รับแจ้งเหตุบ่อยครั้ง มักเกิดอุบัติเหตุใกล้กับศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองและแต่ละครั้ง เป็นที่น่าสงสัยว่า มักจะหาศพผู้ประสบอุบัติเหตุไม่เจอ บางรายขับรถตกถนนจุดนี้เสียชีวิตไป 3 วันแล้ว แต่กลับไม่พบศพ ทั้งที่จุดนี้เป็นพื้นที่โล่ง

เช่นเดียวกับชาวอ่างทองรายนี้ เล่าว่า จุดนี้มักเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตบ่อยครั้ง จนหลายคนพากันมองว่า เป็นอาถรรพ์มาเอาชีวิต ตัวตายตัวแทนส่วนตัวแล้วก็เชื่อเช่นนั้น ทุกๆวัน ตนและภรรยามักจะขับรถจาก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ขนปลาเค็มไปขายที่ตลาดโรงเหล้าเก่า ในตัวเมืองอยุธยา ทุกครั้งที่ขับผ่าน จะลงจากรถมาไหว้ศาล ขอพรให้ขายปลาเค็มหมดได้เงินเยอะๆ บางครั้งก็นำพวงมาลัยและน้ำแดง มาเซ่นไหว้ถวายเจ้าแม่ตะเคียน หากวันไหนไม่ได้แวะ สังเกตว่ามักจะขายปลาเค็มไม่หมด ตนและภรรยาจึงเชื่อว่า เจ้าแม่คือที่พึ่งช่วยทำมาหากิน

เหตุที่มีคู่รักมาไหว้ศาลกลางดึก และฝ่ายหญิงถูกรถชนเสียชีวิตคาที่ตัวเองมองว่า เป็นเพราะไปรื้อค้น หาสิ่งของในบริเวณศาลหรือไม่ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ละแวกนี้ เล่าว่า ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองมีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี เป็นเรื่องเล่าขานมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ที่สำคัญถนนเส้นนี้เคยเกิดเหตุทรุดตัวอยู่บ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่จะหาวิธีมาแก้ไขยังไงก็ไม่สำเร็จ ชาวบ้านจึงรวมตัวกันนิมนต์พระมาตั้งศาลเพียงตา ตั้งแต่นั้นมาก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น

ลุงบุญสมและลุงเขียนชาวบ้านใน อ.บางบาล เล่าว่า ตั้งแต่เกิดมาก็เห็นศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองตั้งอยู่แล้ว สมัยเด็กๆลุงและเพื่อนๆชอบไปวิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆศาล ตอนแรกมีคนมาเล่าให้ฟังถึงความเฮี้ยนของเจ้าแม่ ตนก็ไม่เคยเชื่อ จนวันนึงเจอเหตุการณ์แปลกประหลาด ตนกับเพื่อนวิ่งเข้าไปหลบฝนในศาล จู่ๆเกิดลมพัดแรงจนตุ๊กตาม้าลาย ที่ชาวบ้านนำมาเซ่นไหว้ตกลงไปใต้ศาล ตนกับเพื่อนเกี่ยงกันไม่มีใครยอมไปเก็บ เพราะกลัว ที่มีงูมาฉกกันอยู่บริเวณนั้น หลังจากนั้นไม่นานญาติของตนกลับเกิดอาการคล้ายถูกวิญญาณเจ้าแม่เข้าทรง

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้ ถนนสายอยุธยา-อ่างทอง ในเขตอำเภอบางบาล เป็นถนนที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยเฉพาะจุดใกล้ๆศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง เพราะผู้คนมักจะแวะจอดรถลงมาไหว้ขอพร กีดขวางเส้นทางการจราจร เพราะเป็นถนนแคบ 2 เลนรถที่ขับผ่านมักจะขับมาด้วยความเร็วสูง ชาวบ้านเล่าว่า ที่ต้องขับรถเร็วเพราะเกิดความกลัวสิ่งลี้ลับต่างๆอยากขับผ่านบริเวณดังกล่าวโดยไว จึงกลายเป็นทำให้จุดดังกล่าวเป็นจุดเสี่ยง ไม่มีแสงไฟส่องสว่าง จากการสอบปากคำคู่กรณีคนขับกระบะก่อเหตุก็เล่าว่า ขับรถมาด้วยความเร็วสูงจริง วันนั้นไม่คาดคิดว่าจู่ๆจะมีผู้หญิงยืนอยู่กลางถนน

อ้างอิงข้อมูลจาก - www.mthai.com , www.sanook.com